คนญี่ปุ่นโวย โดนร้านสเต๊กในอิตาลีชาร์จเงินกว่า 44,000 บาท จากการกินสเต๊ก 3 ปลาทอด 1

สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวต่างประเทศอาจจะเคยโดนมาบ้าง กับการที่เข้าไปทานร้านอาหารแล้วงงกับค่าใช้จ่ายที่แพงแบบแพงเวอร์ ซึ่งบางทีก็อาจจะอยู่ในระดับที่พอรับได้ บางท่านจึงไม่คิดอะไร คิดเสียว่าเป็นอาหารบ้านเขา นานๆ กินครั้งคงจะไม่เป็นอะไร

แต่สำหรับนักเรียนญี่ปุ่น 4 คนนี้ ไม่สามารถคิดแบบนั้นได้จริงๆ เนื่องจากพวกเขาเข้าไปทานอาหารในร้านแล้วโดนคิดค่าอาหารแพงจนแทบอยากจะร้องไห้

การที่ร้านอาหารจะคิดค่าบริการเกินจริงกับชาวต่างชาตินั้นเขาเรียกกันว่า “Tourist Traps แปลตรงๆ ก็คือ “กับดักนักท่องเที่ยว” นั่นเอง

 

 

เรื่องพวกนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติเข้ามาทานอาหารแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ดูท่าแล้วจะไม่ค่อยสังเกตรายละเอียดอะไร จึงเผยให้เห็นช่องโหว่ให้ทางร้านสามารถคิดค่านู่นค่านี่ได้แพงหูฉี่เลยทีเดียว

ผู้เคราะห์ร้ายในครั้งนี้ เป็นกลุ่มนักศึกษาญี่ปุ่น 4 คน จากมหาวิทยาลัยโบโลญญา เมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี โดยทั้ง 4 คนได้เข้าไปรับประทานอาหารที่ร้าน Osteria Da Luca ที่อยู่ใกล้ๆ กับ St. Mark’s Square 

 

 

พวกเขาสั่งแค่เพียงสเต๊ก 3 ชิ้น และปลาทอดหนึ่งชิ้น พร้อมน้ำดื่มเท่านั้น แต่ทั้ง 4 คนก็ต้องถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นราคาบนใบเสร็จที่ออกมาอยู่ที่ประมาณ 44,500 บาท!

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาถูกขูดรีด เพราะ 3 คนในกลุ่มของพวกเขาเคยไปทานอาหารที่ร้าน Trattoria Casanova ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายไปราว 12,000 บาท กับการสั่งพาสต้าเพียง 3 จาน

Luigi Brugnaro นายกเทศมนตรีของเวนิซจึงออกมาให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ว่า “คนพวกนี้ขี้เหนียวมาก บางคนเข้ามาทานอาหารภัตตาคาร แล้วพอเจอค่าอาหารแพงๆ จะมาบอกว่าไม่เข้าใจภาษาอย่างนั้นเหรอ”

ต้องยอมรับว่าราคาที่ปรากฏบนใบเสร็จนั้นมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่าคนพวกนั้นได้อ่านเมนูหรือดูราคากันบ้างหรือเปล่า

ฉะนั้น เมื่อเข้าร้านอาหารที่ไหนก็ตามก็ควรดูเมนูและราคาที่ปรากฏบนเมนูด้วย หากไม่มีราคาบอกไว้ ก็ควรถามพนักงานในร้าน หรือถ้าหากว่ามีปัญหาในเรื่องภาษาล่ะก็คงต้องย้ายร้านที่เขามีราคาบอกชัดเจนจะดีกว่า

 

 

บางร้านก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักเมื่อมีผู้บริโภครายหนึ่งออกมาพูดว่า “เด็กเสิร์ฟไม่ยอมบอกราคาให้ชัดเจน บนใบเมนูมันบอกว่า ปลามีราคา 311 บาท แต่ที่ไหนได้พอสั่งมาแล้ว เพิ่งรู้ว่า 311 บาทต่อ 100 กรัม ซึ่งถ้าสั่งปลามาจริงๆ ราคาคงอยู่ที่ประมาณ 39,000 บาท เห็นจะได้”

ส่วนกลุ่มเด็กนักศึกษาชาวญี่ปุ่นที่เป็นผู้เคราะห์ร้ายล่าสุดนั้น ได้โทรแจ้งตำรวจไปแล้ว แต่ก็คิดไม่ออกเลยว่าผลลัพธ์มันจะออกมาดีได้ยังไง

 

ยังไงซะ ไม่ว่าจะไปทานอาหารที่ไหนก็ตาม ควรดูป้ายราคาซะหน่อยเนอะ

จะได้ไม่มีช่องโหว่ให้ถูกโกงจนเสียเงินก้อนโตไปยังไงล่ะ

ที่มา: Ladbible

Comments

Leave a Reply