เจ้าเหมียวกำลังจะตาบอด ใครๆ ต่างก็คิดว่า ‘มันไม่รอดแน่ๆ’ แต่หญิงคนหนึ่งไม่ยอมตัดใจ จนมันหายดี!!

การเก็บแมวจรจัดมาดูแล ต้องเผื่อใจไว้ส่วนหนึ่งว่ามันอาจจะมีสุขภาพไม่ดี หรือมีโรคร้ายแรงติดตัวมาด้วย ซึ่งถึงจะพาไปหาสัตวแพทย์แล้ว บางทีสัตวแพทย์เองยังถอดใจยอมแพ้เลย แต่ถ้าคุณมีความรักและมุ่งมั่นที่จะช่วยมันมากพอ บางทีอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นก็ได้

Kimmie Seely เป็นสาวนักธุรกิจ เธอเป็นเจ้าของร้านตัดผม Kalon Hair Lab ในเมืองมิชาวากา รัฐอิเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา

แต่อีกมุมหนึ่งเธอก็เป็นผู้ช่วยเหลือแมวที่เป็นที่รู้จักกันดี ที่บ้านของเธอนั้นมีห้องที่ทำไว้สำหรับดูแลแมวโดยเฉพาะ มีครบพร้อมทั้งของเล่น แผ่นทำความร้อน และขวดนมป้อนอาหารลูกแมวเลยทีเดียว

 

เหมียวน้อยตาบอด Lenus

 

อยู่มาวันหนึ่ง มีคนแท็กเธอในโพสต์เฟสบุ๊ก ทำให้เธอรู้ว่ามีลูกแมวจรจัดตัวหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ และแม้ว่าตอนนั้นจะดึกมากแล้ว เธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะขับรถออกไปช่วยมันทันที

พอไปถึงตรงจุดที่ลูกแมวอยู่ เธอก็พบว่ามันนอนร่อแร่เหมือนจะหมดลมหายใจแล้ว เธอเล่าว่า “มันอยู่ตรงมุมหนึ่งของสวน … ตอนฉันเจอ คิดว่ามันตายไปแล้วซะอีก” 

จากนั้นเธอจึงนำมันกลับไปที่บ้านเพื่ออาบน้ำและกำจัดเห็บหมัดกว่า 40 ตัวทิ้งไป เธอตั้งชื่อเจ้าแมวว่า Lenus มันลืมตาไม่ขึ้น และก็ไม่มีแรงจะขยับด้วย เธอเฝ้าดูมันทั้งคืนและจะพามันไปหาสัตวแพทย์ในตอนเช้า

 

ขยับไม่ไหวแล้ว

 

เมื่อเธอนำมันไปหาสัตวแพทย์ พวกเขาก็พบว่าเจ้าแมวมีปรสิตที่ชื่อว่า cuterebra ซึ่งเป็นปรสิตจากแมลงวันฝังอยู่ที่หน้าอกของมัน และเจ้าแมวก็ดูอ่อนแรงเกินกว่าจะสู้กับปรสิตตัวนี้ไหวด้วย

นอกจากนี้ตาของมันก็ดูเหมือนจะมืดบอด เพราะโยนอะไรผ่านหน้า หรือใช้มือโบกไปมา มันก็ไม่ตอบสนองกับอะไรเลย สัตวแพทย์จึงแนะนำให้พามันมารับยาต้านปรสิตทุกวัน เผื่อว่ามันจะดีขึ้นบ้าง

 

ทายาบ่อยๆ จะได้หาย

 

แต่โชคร้ายที่ปรสิตยังไม่ทันหายดี มันก็มีอาการชักแทรกเข้ามาเสียแล้ว ซ้ำร้ายแพทย์ยังระบุไม่ได้ด้วยว่าอาการชักมันเกิดมาจากอะไรกันแน่ หลังจากนั้นมันก็ชักบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ

วันหนึ่งเมื่อ Seely ไปรับเจ้าเหมียวที่โรงพยาบาลสัตว์ สัตวแพทย์ก็บอกเธอว่า มันคงรักษาไม่หายแล้วล่ะ และการปล่อยให้มันตายไป อาจจะดีกว่าต้องทนทุกข์ทรมานก็ได้

 

หมอบอกว่าผมไม่รอดแล้วล่ะ

 

แต่สาวผู้รักแมวก็ไม่ยอมแพ้ เธอหวังว่าจะช่วยเจ้าเหมียวเอาไว้ให้ได้ เธอจึงลองค้นหาข้อมูลเองจากทาง กูเกิ้ล และพบว่าอาการชักของมัน อาจจะมีสาเหตุมาจากปรสิตในสมองก็ได้ เธอจึงตัดสินใจให้ยาต้านทานกับมันตลอดเวลา เพื่อให้มันหายไวๆ

นอกจากนี้ยังมี Kelsey Frederick หญิงชาวที่ทำงานในร้านและแฟนหนุ่มของเธอคอยช่วยดูแลเจ้าเหมียวด้วย เพราะทั้งสองคนหวังว่าจะรับเจ้าเหมียวไปดูแลหลังจากมันหายดีแล้ว

ความรักและความห่วงใยจาก Seely คงมากพอจะสร้างปาฏิหารย์ได้ หลังจากนั้นไม่นานยาต้านทานก็ดูจะได้ผล และเจ้าแมวก็หายดีเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว ทีนี้เธอก็ช่วยชีวิตมันไว้ได้ และยังหาบ้านให้มันได้อีกด้วย

 

อ้าวเฮ้ย หายดีแล้ว ตู้วหูว

 

บ้านของ Frederick มีสุนัขอยู่แล้ว 3 ตัว และมีแมวอยู่แล้วอีกตัวหนึ่ง ถึงอย่างนั้นแฟนและเธอก็ยังยินดีรับเจ้า Lenus เข้ามาเลี้ยงไว้ด้วย อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงเป็นแมวตาบอดอยู่ดี การที่ Frederick จะรับมันไปเลี้ยงจึงดูเป็นเรื่องยุ่งยากพอสมควร

เธอบอกว่า “เราคงต้องศึกษาวิธีการเลี้ยงแมวตาบอดให้ดี ถึงจะดูแลมันได้ อย่างเช่นไม่ย้ายของไปไหนมาไหนบ่อยๆ และก็ใช้จานข้าวที่หนักพอ มันจะได้ไม่ทำเลอะเทอะด้วย นอกจากนี้เวลาจะเรียกมันเราก็ต้องใช้วิธีเคาะนิ้วแทน เรากังวลพอสมควรเลยว่าจะดูแลมันไหวหรือเปล่า”

 

เลี้ยงง่าย เพราะว่าแสนรู้ไง เมี๊ยววว

 

แต่เมื่อนำมันเข้ามาเลี้ยงดูแล้ว ปัญหาที่พวกเธอเคยกังวลก็หายวับไปทันที เพราะเจ้าเหมียวปรับตัวได้เร็วอย่างคาดไม่ถึง และตาที่เคยเข้าใจว่าบอดนั้น กลับมองเห็นได้ตามปกติซะอย่างนั้น

Frederick เล่าว่า “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันกินข้าวในชามเองได้ แล้วยังเรียนรู้ที่จะขับถ่ายเป็นที่จากแมวที่บ้านด้วย ตอนนั้นฉันคิดทันทีว่า ‘เฮ้ยเดี๋ยว แกน่าจะเลี้ยงยากไม่ใช่เหรอ ทำไมมันง่ายอย่างนี้!?’ “

 

รักกันน๊า

 

นอกจากนี้มันยังไม่มีปัญหาอะไรกับสัตว์เจ้าถิ่นที่บ้านเลย มันเข้ากับสัตว์ตัวอื่นได้ดี แล้วดูเหมือนจะสนิทกับเจ้าหมาแก่เป็นพิเศษด้วย ถึงแม้ว่าไม่นานหลังจากนั้นเจ้าหมาแก่จะตายจากไปก็ตาม

ตอนนี้ Lenus จึงอยู่ในบ้านที่แสนอบอุ่นกับ Frederick และแฟนหนุ่ม พร้อมกับเพื่อนเหมียว 1 ตัว และสุนัข 2 ตัว อย่างมีความสุข และอาจจะได้รับความรักจากเจ้าของมากกว่าแมวบ้านอื่นๆ ด้วยซ้ำ

 

 

ที่มา: thedodo

Comments

Leave a Reply