ช่างภาพสาวสุดเซ็ง ถูกปัดงานถ่ายภาพช่วงคลอด เพราะลูกค้า ‘ไม่อยากให้ลูกคลอดมาผิดเพศ’

Faith Grace ช่างภาพสาวอายุ 21 ปี ผู้ที่มีความชื่นชอบการถ่ายรูปมาตั้งแต่เด็ก เธอได้ใช้ความชื่นชอบของเธอมาเป็นอาชีพเพื่อหารายได้นั่นก็คือการรับจ้างถ่ายรูปตามโอกาสสำคัญต่างๆ แต่ชีวิตในการทำงานของเธอก็ต้องมาเจอกับเรื่องราวที่เธอรู้สึกว่า เธอจะต้องจดจำไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว

โดย Faith ได้ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์ของเธอผ่านทางทวิตเตอร์ มันเป็นเรื่องที่เธอไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต และหวังว่าหลายๆ คนอาจจะเข้าใจในสิ่งที่เธอกำลังจะอธิบาย

 

 

เรื่องราวมันเริ่มต้นมาจากที่ช่างภาพสาวได้รับการติดต่อจากหญิงที่ชื่อว่า McKenna ติดต่อเข้ามาเพื่อจะว่าจ้างให้เธอไปถ่ายรูปช่วงเวลาสำคัญนั่นก็คือการคลอดลูก ซึ่งหลังจากที่ได้ตกลงกันเสร็จสรรพ ช่างภาพสาวก็ได้เตรียมตัวล็อกคิวไว้เพื่อจะไปบันทึกภาพในช่วงเวลาสุดแสนพิเศษของคุณแม่ท่านนี้

วันรุ่งขึ้นเธอก็ได้รับข้อความจากคุณลูกค้าคนเดิม แต่เนื้อหาข้อความทำให้เธอโมโหจนปรี๊ดแตกและยังคงสงสัยว่า นี่มันยุคไหนกันแล้วนี่

 

 

เนื้อหาข้อความบอกว่า “สวัสดี Faith ฉัน McKenna ที่ติดต่อเธอไปเมื่อคืนนะ คือว่าฉันเพิ่งจะเข้าไปค้นหาข้อมูลและดูตัวอย่างรูปภาพผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวของคุณ แต่สิ่งที่ฉันเจอคือคุณได้โพสต์รูปภาพ Pride Flag (ธงหลากสี สะท้อนความหลากหลายทางเพศ) ฉันเลยมีคำถามว่า คุณเป็นเกย์หรือว่าคุณมีคนในครอบครัวเป็นเกย์มั้ย?”

ทางช่างภาพสาวก็ได้ตอบกลับไปว่า “สวัสดี McKenna ขอบคุณที่สนใจ แต่ไม่มีใครในครอบครัวของฉันที่เป็นเกย์ แต่ฉันเป็น นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงมี Pride Flag ในไอจีของฉัน”

 

 

ทางคุณลูกค้าก็ได้ตอบกลับมาทันทีว่า “จ้า ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับรูปภาพนั้นนะ ว่าแต่ฉันไม่ต้องการให้คนที่เป็นเกย์มาถ่ายรูปให้กับฉัน มันไม่ถูกต้อง ฉันค่อนข้างจะแอนตี้เรื่องนี้”

“และอีกสิ่งหนึ่งฉันไม่อยากให้ลูกชายวัย 5 ขวบของฉันเห็นว่าการเป็นเกย์มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และไม่อยากให้ลูกผิดเพศเหมือนกับคุณ ฉันเสียใจที่คุณคิดว่าไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นสิ่งที่ถูกต้องและยอมรับได้ ขอให้โชคดี”

 

 

เมื่อเธอเห็นข้อความดังกล่าว เธอจึงโพสต์ภาพบทสนทนาดังกล่าวลงบนโซเชียล

 

 

และเธอก็ยังต้องสงสัยอีกต่อไปว่าเหตุใดคุณแม่ถึงมีความคิดแบบนั้น แนวคิดการเหยียดเพศหรือทัศนคติลบต่อเพศที่สามยังคงมีอยู่ในสังคมอีกหรือ มันเป็นสิ่งที่น่าสงสัยมากๆ

 

ที่มา dailymail

Comments

Leave a Reply