อธิบาย 5 ลำดับขั้นของ “ความสัมพันธ์” ตามหลักวิทยาศาสตร์ ว่าคุณอยู่ในระดับไหนกัน!?

บางครั้งความสัมพันธ์ของเรากับใครสักคนนั้นค่อนข้างซับซ้อน จนบางทีทำให้บางคนสับสนในความสัมพันธ์ว่าอยู่ในขั้นไหนแล้ว และตกลงเราเป็นอะไรกัน?

ก่อนที่คุณจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ มาดูงานวิจัยใหม่จากเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ eHarmony ที่เผยให้เห็นถึงความสำคัญของการกระทำตลอดจนความสัมพันธ์ของมนุษย์เรา

ในการวิจัยนี้ ทางเว็บไซต์ขอให้ชาวออสเตรเลีย 1,000 คน เปิดความสัมพันธ์ที่สำคัญของพวกเขา ตั้งแต่จูบครั้งแรกไปจนถึงมีอะไรกัน

 

1. ช่วงเวลาที่เจอกัน

จากผลการวิจัยพบว่าส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทางกายอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงแรกๆ โดย 1 ใน 4 คู่จะจูบกันตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ในขณะที่ 1 ใน 10 จะรอให้ถึง 3 สัปดาห์ก่อนแล้วค่อนแลกจูบแบบดูดดื่ม

นอกจากนี้ผลการวิจัยยังพบอีกว่าคู่เดทไม่เร่งรีบที่จะมีอะไรกับใครสักคน แต่ส่วนใหญ่จะรอให้ถึง 3 เดือนก่อนแล้วค่อยทำแบบนั้น

ในขณะเดียวกัน ผู้คน 9% ตัดสินใจที่จะนอนกับคู่เดทตั้งแต่วันแรกหรือสัปดาห์แรกที่เจอกัน ทั้งนี้ผู้ชาย 1 ใน 4 จะมีความกระตือรือร้นที่จะมีอะไรกับคู่เดต เทียบกับผู้หญิงแล้วมีเพียง 1 ใน 10 ที่คิดจะทำสิ่งเดียวกัน

โดยทั่วไปผู้หญิง 25% ชอบที่จะรออย่างน้อยหนึ่งเดือนหรือมากกว่านั้นก่อนที่จะตัดสินใจมีอะไรกับคู่เดต

 

2. ช่วงพัฒนาความสัมพันธ์

คู่เดตหลายๆ คู่มักจะมีความคิดที่แตกต่างในความสัมพันธ์ขั้นตอนนี้จนทำให้พวกเขารู้สึกสับสน เพราะ 1 ใน 3 คิดว่าคุณจำเป็นตองพูดคุยหรือถามก่อนเพื่อจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่พิเศษหรือเริ่มคบกันนั่นเอง ในขณะที่ 2/3 ส่วนที่เหลือเชื่อว่าควรใช้ความรู้สึกมากกว่าที่จะมาพูดคุยกันแบบนั้น

การวิจัยพบว่าแม้คู่เดตจะรู้สึกดีต่อกันและตัดสินใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์แล้ว แต่พวกเขาจะรอให้ถึง 3 เดือนก่อนแล้วค่อยปิดการใช้งานแอปหาคู่ออนไลน์

ที่น่าแปลกคือผู้ชายมีแนวโน้มที่จะทำแบบนั้นมากกว่าผู้หญิง โดยผู้ชายร้อยละ 28 จะปิดบัญชีหาคู่ออนไลน์ภายใน 3 สัปดาห์หลังจากที่เจอกับคู่เดตแล้ว ในขณะที่ผู้หญิงมีเพียงร้อยละ 17 ที่ทำแบบเดียวกัน

ทั้งนี้คู่รักร้อยละ 29 จะเริ่มแชร์โมเมนต์น่ารัก หรือโชว์หวานผ่านสื่อออนไลน์ครั้งแรกหลังจากที่พวกเขารู้จักกัน 4 เดือนแล้ว

 

3. ช่วงความสัมพันธ์แบบใกล้ชิด

คู่รักจะใช้เวลา 3 เดือนในการเปล่งคำ 3 คำออกมา สิ่งที่น่าสนใจคือผู้ชายจะพูดคำว่า “ผมรักคุณ” มากกว่าผู้หญิง โดยผู้ชาย 50% ตัดสินใจที่จะพูดออกมาภายใน 3 เดือนแรก ในขณะที่ผู้หญิงมีเพียง 1 ใน 3 ที่จะทำแบบเดียวกัน

การวิจัยยังเผยด้วยว่าคู่เดตจะรู้สึกมีความสุขและสบายใจเมื่อความสัมพันธ์อยู่ในช่วงเบ่งบาน โดยภายใน 6 เดือนพวกเขาจะกล้าตดต่อหน้ากันโดยไม่อาย และภายในเวลาไม่ถึงเดือนพวกเขาจะเก็บแปรงฟันไว้ที่บ้านของคู่เดต

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ที่อายุต่ำกว่า 24 ปี จะรู้สึกว่ากลไกของร่างกายเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งหนึ่งในสองจะรู้สึกมีความสุขที่ได้ผายลมต่อหน้ากันในช่วง 3 เดือนแรกตั้งแต่เริ่มสานสัมพันธ์รัก

ทั้งนี้คู่เดตจะใช้เวลาต่อไปอีกประมาณครึ่งปีในการทำความคุ้นเคยกับการกระทำเหล่านี้ นอกจากนีี้ผู้คนจะใช้เวลาถึง 5 เดือน กว่าจะยอมให้อีกฝ่ายเห็นตนร้องไห้ และ 2 เดือนสำหรับผู้หญิงที่จะอยู่ต่อหน้าคู่เดตโดยไม่แต่งหน้า

 

4. ช่วงตกลงปลงใจ

แม้ว่าบางครั้งความสัมพันธ์จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็วกว่าคู่อื่นๆ แต่มันจะช้ามากเมื่อพูดถึงขั้นต่อไปของความสัมพันธ์หรือช่วงตกลงปลงใจ

โดยภาย 1 ปี คู่รัก 45% จะตัดสินใจหมั้นกัน 51% จะแต่งงานกัน และ 41% จะมุ่งมั่นในการมีลูก เช่นเดียวกับการรวมทรัพย์สินหรือการเปิดบัญชีด้วยกัน พวกเขาก็รอให้ถึง 1 ปีเหมือนกัน

ทั้งนี้ภายใน 6 เดือนหรือน้อยกว่า คู่รัก 28% จะย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน 13% จะหมั้นกัน และ 15% จะรับสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงด้วยกัน

นอกจากนี้ครึ่งหนึ่งของคู่รักจะแนะนำคู่เดตของตัวเองให้เพื่อนรู้จักภายใจ 3 เดือนแรก แต่พวกเขาจะรอนานว่านั้นถึง 2 เท่าในการแนะนำให้ครอบครัวรู้จัก

 

5. ช่วงเลิกรา

แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ก็เดินมาถึงจุดสิ้นสุด โดย 67% จะเริ่มเดตกับคนใหม่หลังจากเลิกกับคนเก่าไม่ถีึง 1 ปี

ทั้งนี้ผู้ชายจะทำใจได้เร็วกว่าผู้หญิง โดยภายในเวลาไม่ถึงปี ผู้ชาย 72% จะเริ่มมีคนใหม่ เทียบกับผู้หญิงแล้ว มีเพียง 63% ที่จะทำแบบนั้น

ที่น่าแปลกใจคือ ผู้คน 1 ใน 3 จะเริ่มนัดพบคนใหม่หลังจากที่เลิกรากับคนเก่าไม่ถึงหนึ่งเดือน อย่างไรก็ตามแม้กับคนใหม่นี้พวกเขาจะอยู่ในขั้นเดตกันแล้ว แต่ยังต้องใช้เวลาถึง 2 ปีในการจริงจังกับใครสักคน

 

เชื่อว่าหลายคนคงจะอยากใช้ชีวิตให้มีความสุขในช่วง 1 ถึง 4 เท่านั้น แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสำหรับคู่รักส่วนใหญ่ ช่วงที่ 5 อย่างการเลิกรามันจะต้องมาถึงไม่ช้าก็เร็ว

เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และชีวิตมันก็ไม่มีอะไรแน่นอนนั่นเอง….

ที่มา dailymail

Comments

Leave a Reply