เผยภาพจากหนังสือเรียนของ ‘ISIS’ ที่นำมาใช้ล้างสมองเด็กๆ ให้เข้าร่วมกองทัพ..!!

การล้างสมองนับว่าเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการที่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้าย หรือหน่วยงานรัฐเอง ก็มักจะนำมาใช้ผ่านสื่อต่างๆ หรือที่เราเรียกกันว่า Propaganda เพื่อสร้างแนวคิดหรือทัศนคติอะไรบางอย่าง ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ซึ่งการสร้าง Propaganda เองก็ยิ่งมีความสำคัญมากเมื่อหน่วยงานนั้นเป็นกลุ่มก่อการร้ายอย่าง ISIS พวกเขาได้สร้างหนังสือเรียนขึ้นมาเพื่อสั่งสอนเด็กๆ ให้รู้สึกเชื่อตามและพร้อมจะสละชีวิตเพียงเพื่ออุดมการณ์ของผู้นำ

 

ภาพของเด็กจับปืน กลายเป็นภาพธรรมดาที่เห็นได้ในหนังสือเรียนทั่วไปของ ISIS

 

โดยเนื้อหาจากหนังสือที่กองทัพอิรักไปเจอมา จะมีความยาวเพียงแค่ 7 หน้า และจะมีเพียงข้อความสั้นๆ พร้อมภาพประกอบสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่ประชาชนในรัฐคาลิปต้องทำ

ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า เด็กๆ ทุกคนแห่งรัฐคาลิปต้องเข้าร่วมประกอบศาสนพิธีประจำวันอย่างเคร่งครัด ต้องเป็นเด็กดีของพ่อแม่ และต้องต่อสู้เพื่ออัลเลาะห์

 

ทั้งมีการระบุว่า ผู้หญิงต้องคลุมดำทั้งหมด และมีภาพของพ่อที่ถือ AK-47 ที่ดูเป็นเรื่องธรรมดา

 

มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ‘เด็กอ้วน’ คือเด็กที่ไม่แข็งแรง เป็นเพราะความขี้เกียจ และจะสร้างปัญหาให้กับสังคมสืบต่อไป…

(มีการห้ามทานของหวาน ข้าว พาสต้า และมันฝรั่ง)

 

นอกจากนั้นยังมีหลักสูตรสอนวิธีดูแลช่องปากให้กับเด็กๆ ซึ่งระบุไว้ว่าวิธีการที่เหมาะสมที่สุดคือการใช้กิ่งของต้น Arak (เรียกอุปกรณ์ชิ้นนี้ว่า Miswak) ซึ่งเป็นภูมิปัญญาการทำความสะอาดฟันแบบดั้งเดิมของประเทศแถบอาหรับต่างๆ

 

 

นอกจากนั้นยังมีการทำภาพโฆษณาชวนเชื่อ ให้เห็นว่ารัฐคาลิป จะเข้ามาพัฒนาและสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับชีวิต… (โดยมีภาพเด็ก 11 ขวบถือปืนยืนอยู่ข้างๆ)

 

ส่วนนี่ก็เป็นตัวอย่างหน้าปกของหนังสือเรียน มีการนำภาพที่ให้ความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างธงชาติ

 

และทั้งหมดนี้เป็นเพียงเนื้อหาส่วนหนึ่งที่ถูกค้นพบเท่านั้น…

 

สังเกตได้ว่าในช่วงที่เมืองถูกกลุ่ม ISIS ยึด ก็จะมีการเผาทำลายสิ่งก่อสร้างเดิม และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ขึ้นมาในเมือง

 

แม้แต่บริเวณป้ายรถเมล์ก็ยังมีสัญลักษณ์ของกลุ่ม ISIS ติดอยู่

 

ไม่ว่ายังไงเราก็คงหนีไม่พ้นการถูก Propaganda แต่ประเด็นคือการฝังทัศนคติความรุนแรง หรือการสอนให้เด็กมาจับปืน ก็ดูจะเป็นอะไรที่รุนแรงและไม่น่ารับได้นะ

ที่มา: Dailymail

Comments

Leave a Reply