10 เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับโลก ที่ทำให้เห็นว่าโลกช่างกว้างใหญ่ เกินจะรับรู้ทั้งหมด…

หลายคนอาจจะคิดว่ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโลกใบนี้ แต่จริงๆ แล้ว นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ มากมายเกี่ยวกับจักรวาลอยู่ตลอดเวลา และพวกเขาเชื่อว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่ยังไม่ถูกค้นพบ

และนี่คือการค้นพบอันน่าทึ่ง ที่ทำให้รู้ว่าโลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์และยิ่งใหญ่เกินกว่ามนุษย์จะเข้าใจทั้งหมด

 

1. ยอดเขาเอเวอร์เรสไม่ใช่ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก

© wikipedia

ที่ผ่านมาหลายคนเข้าใจว่าเทือกเขาเอเวอร์เรสเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งมีความสูงอยู่ที่ 8,848 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ในขณะที่ภูเขา Mauna Kea  มีระดับความสูง 4,205 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แต่ยังมีพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูเขาที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล ดังนั้นเมื่อวัดความสูงจากฐานไปถึงยอด Mauna Kea จะมีความสูงอยู่ที่ 10,203 เมตร ซึ่งสูงกว่าเอเวอร์เรสถึง 1,355 เมตร

 

ภูเขา Mauna Kea ภูเขาที่สูงที่สุดในโลก

© momo/flickr

 

2. ชั้นบรรยากาศของโลกมีพรมแดน

เส้น Kármán ได้รับการยอมในสากลว่าเป็นเส้นที่ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 100 กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเล แม้ว่าระดับของชั้นบรรยากาศโลกจะอยู่สูงกว่า แต่เส้นดังกล่าวนี้ก็ได้รับการยอมรับจาก The World Air Sports Federation ว่าเป็นเส้นแบ่งระหว่างบรรยากาศกับนอกโลก

© nasa

 

3. สถานที่ที่แห้งที่สุดในโลกตั้งอยู่ในแอนตาร์กติกา

ปกติเราเชื่อกันว่าสถานที่แห้งแล้งที่สุดในโลกคือทะเลทรายอะตาคามาในชิลี ที่ไม่มีฝนตกเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว แต่มีการค้นพบว่า McMurdo Dry Valleys ในแอนตาร์กติกา ไม่มีฝนตกมานานเกือบ 2 ล้านปีแล้ว โดยความเร็วลมที่เข้าถึงที่นี่อยู่ที่ 320 กม./ชม.

© Pierre Roudier/flickr

 

4. น้ำจืดมีเพียง 3% ของน้ำทั้งหมดบนโลก

มหาสมุทรและทะเลมีน้ำ 97% ของน้ำทั้งหมดบนโลก ซึ่งมีรสเค็มไม่เหมาะสำหรับการดื่ม ส่วนที่เหลืออีก 3% เป็นน้ำจืดที่อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง (70%) และทะเลสาบไบคาล (20%)

© wikipedia

 

5. วัดที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมีอายุประมาณ 12,000 ปี

Göbekli Tepe เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศตุรกี ซึ่งนักวิจัยได้วิเคราะห์จากลวดลายการแกะสลักบนเสาที่เชื่อว่าน่าจะมีอายุประมาณ 11,000 – 12,000 ปี

© wikipedia

 

6. ดวงจันทร์เคยเป็นส่วนหนึ่งของโลก

ทฤษฎีจากนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนชี้ให้เห็นว่าเมื่อประมาณ 4.36 พันล้านปีก่อนโลกชนกับดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Theia จนนำไปสู่การก่อตัวของโลก

© Bernd Thaller/flickr

 

7. ในอีก 250 ล้านปี ทวีปจะมาอยู่รวมกันใหม่

อย่างที่เรารู้กันว่า Pangea เป็นผืนแผ่นดินใหญ่ที่มีอยู่ตั้งแต่ 335-175 ล้านปีก่อน หลังจากนั้นได้แยกออกเป็น 2 ทวีปคือ Laurasia และ Gondwana ต่อมาทั้ง 2 ทวีปก็แยกออกเป็น 7 ทวีป

© wikimedia

 

แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าทวีปต่างๆ จะกลับมารวมกันอีกครั้งในอีก 250-300 ล้านปีนับจากนี้ และจะกลายเป็นผืนแผ่นดินเดียวกัน เรียกว่า Pangaea Ultima

 

© wikimedia

 

8. สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวจะเกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่

นักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน Massachusetts Institute of Technology ได้แนะนำทฤษฎีที่อธิบายถึงการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่กวาดล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกเกือบ 90%

เน่ื่องจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Methanosarcina ได้เกิดขึ้นในมหาสมุทรเมื่อ 252 ล้านปีก่อน ทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่สำหรับสัตว์เซลล์เดียว นอกจากนี้อาจมีผลต่อการพัฒนาของสัตว์เลื้อยคลานด้วย

© Dan G/flickr

 

9. ส่วนใหญ่แล้วโลกของเราจะอยู่ในความมืดเกือบตลอดเวลา

อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าโลกมีพื้นผิวเป็นมหาสมุทร 71% ระดับความลึกของน้ำที่ถูกแสงแดดอยู่ไม่เกิน 200 เมตร ดังนั้นส่วนที่เหลือจึงอยู่ในความมืดอย่างถาวร นั่นทำให้ส่วนใหญ่ของโลกอยู่ในความมืดตลอดทั้งวัน

© wikimedia

 

10. ประเทศเพื่อนบ้านสามารถมีความแตกต่างของเวลาได้ตลอด 24 ชั่วโมง

© wikipedia

 

ความจริงที่หลายคนอาจไม่รู้คือ American Samoa ที่อยู่ห่างจากเกาะ Line Islands เพียง 2,000 กิโลเมตร แต่มีเวลาที่แตกต่างกันถึง 25 ชั่วโมง

 

© wikimedia

 

ที่มา Brightside

Comments

Leave a Reply