ครอบครัวอินเดียช่วยเหลือ “สัตว์ป่ากำพร้า” พร้อมเปลี่ยนบ้านตัวเองกลายเป็นศูนย์ช่วยเหลือ

เมื่อพูดถึงเหล่าสัตว์ที่กำพร้าพ่อแม่แล้ว นอกจากหมาแมวที่เราสามารถพบได้ปกติ เหล่าสัตว์ป่ามากมายก็ตกอยู่ในสถานะนี้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมาจากผลของการถูกล่าโดนเหล่านายพรานนั่นเอง

ด้วยเหตุนี้ครอบครัวของ Dr. Prakash Amte จึงจัดการเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้กลายเป็นศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าทั้งหลายที่กำพร้า

 

 

Dr. Prakash เล่าว่าเมื่อช่วงต้นปี 70 เขาและภรรยาได้ไปเดินเที่ยวกันในป่าของเขต Gadchiroli ซึ่งเขาได้เจอกับชนพื้นเมืองในเขตนั้นกำลังหิ้วแม่ลิงที่พวกเขาล่ามาได้กลับไปยังหมู่บ้าน ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตเห็นว่าลูกลิงได้เกาะบนศพของแม่และพยายามจะดูดนม ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้เขาใจสลาย

 

 

เมื่อเป็นอย่างนั้น Dr. Prakash ไม่ยอมที่ให้ชนเผ่าฆ่าลูกลิงแน่ๆ เขาจึงยื่นมือเข้าไปช่วยและขอรับเลี้ยงดูลูกลิงตัวดังกล่าวไว้ แน่นอนว่าเขาเข้าใจดีว่าคนในชนเผ่าไม่ได้ฆ่าสัตว์เพื่อความสนุก แต่พวกเขาทำเพื่อเลี้ยงปากท้อง เขาจึงเสนอข้าวกับเสื้อผ้าเพื่อแลกชีวิตของลูกลิงและนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด

ลูกลิงถูกตั้งชื่อว่า Babli และเลี้ยงดูมานับแต่นั้น ซึ่งลูกลิงก็ดูจะชอบบ้านหลังใหม่ของมันมาก นอกจากนั้นมันยังสามารถเข้ากับทุกคนในบ้านรวมถึงสุนัขที่เลี้ยงไว้ได้เป็นอย่างดีด้วย

 

 

จากจุดนี้นั่นเอง Dr. Prakash จึงตัดสินใจได้ว่าเขาจะเข้าไปช่วยเหล่าสัตว์กำพร้าจากชนเผ่า หรือนักล่าคนอื่นๆ โดยการแนะนำเหล่าชนเผ่าให้อย่าฆ่าตัวลูก เพราะมันไม่คุ้มจะเป็นอาหารหรอก เขาจะเป็นคนนำพวกมันกลับมาเลี้ยงเองเพื่อแลกกับพืชผลและยาเป็นการตอบแทน

ไม่นานนักบ้านของเขาก็เต็มไปด้วยสัตว์กำพร้ามากมายที่เขาเฝ้าเลี้ยงมาแต่พวกมันยังเด็ก ซึ่งมันก็มีตั้งแต่กระรอกตัวน้อยๆ ไปยังหมี เสือดำ รวมถึงงูอินเดียกับจระเข้ก็มีนะ แบบเลี้ยงอยู่ด้วยกันพี่น้องสุดๆ โดยตัว Dr. Prakash บอกว่าเขายินดีรับสัตว์กำพร้าทุกชนิดไม่มีเกี่ยง

 

 

ล่าสุดได้มีการนับจำนวนสัตว์ที่เขาเลี้ยงไว้ ซึ่งมีรวมๆ มากถึง 300 ตัว ทุกตัวไม่ได้เลี้ยงแบบขังในกรงปิด แต่เลี้ยงแบบเปิดพร้อมกับอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์ทุกคน แน่นอนว่ามันไม่มีปัญหาอะไรกันเลยกับคนในบ้าน แต่จะมีปัญหานิดหน่อยกับคนในหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ เพราะผู้คนก็หวาดกลัวสัตว์จะหลุดมาทำร้ายพวกเขานั่นเอง

 

 

และนั่นก็ทำให้บ้านของ Dr. Prakash ต้องถูกสร้างข้อกำหนดใหม่ ไม่งั้นจะถูกสั่งปิดทันที เขาจึงแก้ปัญหาโดยการสร้างกรงให้กับเหล่าสัตว์ที่เขาดูแล แต่ทั้งหมดก็ยังรู้สึกว่าเป็นที่พักพิงมากกว่าสวนสัตว์อยู่ดี

ปัจุบัน Dr. Prakas ได้เล่าว่า เขาอาจจะต้องปิดบ้านของเขาในอีกไม่นาน เพราะในปัจจุบันโลกที่เปลี่ยนไป ชนเผ่าก็เริ่มจะเลิกล่าสัตว์เพื่อกินกันแล้ว นายพรานก็หันไปทำอย่างอื่น สัตว์กำพร้าจึงมีน้อยลง

 

 

แต่ยังไงก็ตามเขาก็ช่วยสัตว์มาแล้วเป็นร้อยเป็นพันชีวิต และเปิดบ้านเป็นที่พักให้พวกมันมากว่า 40 ปี ฉะนั้นการจะปิดตัวลงก็ไม่ทำให้เรื่องราวของเขาต้องหายไปตามการเวลา ผู้คนจะยังจำจดเขาได้ในท้ายที่สุด…

 

เห็นแบบนี้ เด็กๆ ก็ชอบมาเยี่ยมชมพวกสัตว์ต่างๆ นะ

 

ที่มา odditycentral

Comments

Leave a Reply