เด็กหนุ่มเสียชีวิตลง หลังจากเข้าค่ายเพื่อ “เลิกอาการติดอินเตอร์เน็ต” เพียง 2 วัน

อาการติดอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นได้แพร่หลายมาก ด้วยที่ว่าการเข้าถึงนั้นไม่ได้ยากเหมือนเมื่ออดีตแต่อย่างใด โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่เด็กๆ เป็นกันมากซะจนมีค่ายที่ไว้สำหรับเลิกอาการดังกล่าวเลยทีเดียว

เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มวัย 18 ปีคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Li Ao ที่ต้องมาพบกับความสิ้นหวัง เป็นอาการนี้จนทำให้ไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัว และทำให้แม่ของเขาเป็นกังวลกับเรื่องนี้

 

 

นั่นเองที่ทำให้ Liu Dongmei ผู้เป็นแม่ได้ตัดสินใจส่งเขาไปยังค่ายรักษาอาการที่ว่าในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน ซึ่งมีชื่อเสียงในการทำให้เด็กเลิกติดอินเตอร์เน็ตได้ ด้วยการฝึกฝนทั้งทางด้านร่างกาย และการใช้หลักจิตวิทยาการปรึกษาเข้าช่วย

เธอตัดสินใจให้เขาเข้าค่ายในวันที่ 3 สิงหาคมซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาอยู่ในนั้นถึง 180 วันค่าใช้จ่ายรวมมากกว่า 1 แสนบาท แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 วันก็ได้รับการโทรแจ้งมาว่าลูกของเธอกำลังถูกพาไปโรงพยาบาลด้วยอาการสาหัส ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงในเวลาอันสั้น

 

 

เธอได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าร่างของเด็กชายนั้นมีบาดแผลเต็มตัวมากกว่า 20 แผลทั่วร่างกาย ทั้งที่ก่อนเข้าค่ายยังปกติดี แล้วนี่เขามาเสียชีวิตลงในเวลาแค่สองวันได้อย่างไร

ตอนนี้นั้นยังไม่ทราบสาเหตุการตาย และทางผู้อำนวยการกับคนทำงานในค่ายดังกล่าวจำนวน 4 คนได้ถูกคุมขังเพื่อรอการสอบสวนในเวลาต่อไป

 

คลิปวิดีโอพ่อแม่ของเด็กให้สัมภาษณ์

 

ในประเทศจีนนั้นมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากกว่า 730 ล้านคน หนึ่งในสี่ของทั้งหมดคือเด็กที่อายุต่ำกว่า 19 ปี ซึ่งเมื่อพ่อแม่คิดว่าพวกเขาติดมันมากจนเกินไปก็จะส่งเข้าค่ายเพื่อให้เลิกด้วยวิธีการแบบทหารและการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด หากสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ผลก็จะเกิดการลงโทษทุบตีเด็ก

นี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นเพราะเมื่อปี 2009 ก็ได้มีเด็กตายจากการเข้ารับการปรึกษาเรื่องการติดอินเตอร์เน็ตและถูกผู้ให้คำปรึกษาทุบตีจนถึงแก่ชีวิต

และยังมีเหตุการณ์ที่เด็กผู้หญิงอายุ 16 ปีที่ได้มัดแม่ของเธอติดกับเก้าอี้จนอดอาหารตายเพื่อเป็นการลงโทษที่พาเธอไปยังค่ายเลิกอินเตอร์เน็ตแห่งหนึ่งที่ทุบตีเธอเป็นประจำ อีกทั้งยังโดนดูถูกเหยียดหยามจนทำให้เธอหนีกลับมาบ้าน

 

 

เหตุการณ์ประมาณนี้นั้นยังคงมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ยังคงมีค่ายประเภทนี้อยู่ทั่วประเทศจีนราว 100 แห่งและยังเป็นที่นิยมอีกด้วย หากแต่ว่าการรักษาที่รุนแรงขนาดนี้ ผู้ปกครองก็ควรจะพิจารณาหรือไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน ว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นมันจะคุ้มค่าจริงหรือไม่

 

ที่มา: shanghaiist

Comments

Leave a Reply