คู่รักซานฟรานซิสโกซื้อถนนในราคาแค่ 3 ล้านบาท เล่นเอาบ้านเศรษฐีบริเวณนั้นเงิบเป็นแถบๆ

การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์สักอย่างหนึ่งนั้น โดยปกติเราจำเป็นจะต้องมีเงินทุนอะไรสักอย่างมากพอที่นำมาลงทุน ยิ่งการซื้อคฤหาสน์ในชุมชนคนมีเงินสักหลังยิ่งต้องมีเงินจำนวนมากเลยทีเดียว

แต่เรื่องราวในครั้งนี้มันกลับอีปิคยิ่งกว่า เมื่อคู่รักชาวเอเชียจากซานฟรานซิสโก ได้ลงทุนซื้อถนนแห่งหนึ่งในชุมชนคนมีตังในราคาเพียงแค่ราวๆ 3 ล้านบาทเท่านั้น!!?

 

ภาพของชุมชนดังกล่าว คฤหาสน์เพียบ!!

 

ถนนดังกล่าวนั้นเป็นถนนที่ทางคณะกรรมการที่ดินเป็นเจ้าของ ทว่าพวกเขากลับไม่ยอมจ่ายภาษีถนนเส้นนี้เป็นเงินแค่ราวๆ 33,000 บาท ตลอด 30 ปี ถนนก็เลยหลุดและถูกนำวางขายจนคู่รักดังกล่าวสนใจและเข้ามาซื้อไป

Tina และ Michael คู่รักดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์ถึงการซื้อถนนครั้งนี้ว่า พวกเขาตัดสินใจซื้อถนนเส้นดังกล่าวเมื่อปี 2015 ด้วยความคิดที่ว่า พวกเขาอยากจะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์อะไรสักอย่างในซานฟรานซิสโก แล้วก็ดันไปเจอเข้ากับถนนบริเวณ Presidio Terrace และมันก็กำลังถูกประมูล พวกเขาก็เลยสนใจและซื้อมาซะเลย

 

โฉมหน้าของคู่รักดังกล่าว ผู้ชนะประมูลถนนและกลายเป็นเจ้าของถนนชุมชนคนมีตังกันแบบงงๆ

 

สิทธิ์ที่ทั้งคู่ได้จากการซื้อถนนบริเวณดังกล่าวนั้นก็คือ พวกเขากลายเป็นเจ้าของถนน ต้นไม้ ทางเท้า และอื่นๆ ที่อยู่บนถนนทั้งหมด ทำให้ทั้งคู่มีสิทธิที่จะเก็บค่าจอดรถคนแถวนั้นได้สบายๆ

 

แถวนั้นก็มีรถจอดเพียบ ถ้าเก็บตังรายเดือนรายปี สบายเลย

 

แต่ที่พีคกว่าคือรอบๆ ถนนดังกล่าวที่ทั้งคู่เจ้าของเป็นคฤหาสน์มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท จำนวน 40 หลังอยู่เรียงกันเป็นตับล้อมรอบถนนของพวกเขา ที่สำคัญกว่าเหล่าคนมีเงินพวกนี้จะรู้ว่าถนนหน้าบ้านโดนซื้อไปมันก็ผ่านไปสองปีนับจากคู่รักซื้อไปแล้ว แถมเพิ่งจะรู้ว่าอาจจะโดนเก็บค่าจอดรถอีก เล่นเอาเงิบกันเป็นแถบๆ

 

ลองดูบ้านของคนแถวนั้นดู บ้านดูดีหรูๆ ทุกคนเลย

 

แปลกกว่าคือ โดนซื้อไปแล้วสองปี แต่เพิ่งจะรู้เรื่องนี่แหละ เงิบกันหมดเลย

 

เรื่องมันบานปลายไปกันใหญ่ จนเหล่าเพื่อนบ้านรู้สึกไม่โอเคจึงไปยื่นเรื่องขอให้นำถนนกลับมา ไม่ก็เปิดประมูลใหม่ แต่ช่างน่าเสียดาย เรื่องมันเป็นไปได้ยากมากๆ แล้วเพราะถนนนี้ Tina และ Michael ได้เป็นเจ้าของมันมานานกว่า 2 ปีแล้วนั่นเอง…

 

นอกจากจะมีที่ดินเฟี้ยวๆ แล้ว ถ้าเก็บเงินอีกเงินไหลมาเทมาเลย (แต่พวกนั้นจะยอมจ่ายไหมนะ)

 

ที่มา dailymail

Comments

Leave a Reply