การสักถือเป็นค่านิยมอย่างหนึ่งคนทุกเพศ ทุกรุ่น และทุกวัย บางคนอาจสักเพื่อความสวยงาม บางคนก็สักเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร จำไว้ว่ามันจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต
ดังนั้นก่อนจะสักควรคิดให้รอบคอบจนมั่นใจดีแล้วค่อยสักนะคะ และสำหรับใครที่สักอยู่แล้วคงจะเข้าใจดีว่า รอยแม้จะลบไม่ได้แต่มันจางลงได้เหมือนกันหากไม่ดูแลดีดี
1. ตอนสักใหม่ๆ VS 8 ปีผ่านไป

ตอนสักใหม่ๆ คุณจะได้รอยสักที่มีสดและตรงตามที่ต้องการ ทำให้หลายคนปลื้มกับรอยสักนั้นมาก แต่พอเวลาผ่านไป รอยสักนั้นค่อยๆ มีสีจางลง หรือบางลายอาจเลือนลางจนไม่เหลือเป็นรูปเป็นร่างแล้วก็ได้
ทั้งนี้เป็นเพราะสีหมึกที่ใช้สักมีหลายเกรด หลายระดับ หากคุณใช้หมึกที่มีคุณภาพสูง คุณก็ได้สีตามต้องการและอยู่ได้นาน แต่หากใช้สีคุณภาพต่ำ ก็อาจจะมีสีเพื้ยนบ้างและจางง่าย
นอกจากชนิดของหมึกสักแล้ว ตำแหน่งที่สักก็มีส่วนเช่นกัน อย่างเช่น การสักบริเวณขา หรือแขน จะจางเร็วกว่าบริเวณหลังหรือหน้าอก เพราะส่วนเหล่านี้จะไม่ค่อยถูกสัมผัสสักเท่าไร
2. ผ่านไป 3 ปี สีก็จาง

แต่ถ้าอยากให้รอยสักอยู่กับคุณไปนานๆ โดยที่สีไม่จางง่าย การดูแลรักษาตอนช่วงแรกๆ นั้นสำคัญที่สุด คือพยายามอย่าให้รอยสักโดนเสียดสี เพราะอาจทำรอยสักเปลี่ยนสี หรืออาจเกิดการติดเชื้อได้
นอกจากนี้พยายามหลีกเลี่ยงอย่าให้รอยสักโดนแดด หรือหากจำเป็นต้องออกแดดจริงๆ ควรใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพที่ภาพสูง วิธีนี้เหล่านี้จะช่วยปกป้องรอยสักของคุณได้เยอะเลยล่ะ และยิ่งดูแลอย่างต่อเนื่อง รอยก็จะไม่จางง่ายอย่างแน่นอน
3. ความคมชัดของเส้นและสีจางลงอย่างเห็นได้ชัด

4. คนที่สักสีมักจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ หากไม่ดูแลดีๆ

5. รอยอยู่ในตำแหน่งที่ถูกสัมผัสบ่อย ก็จางง่ายเช่นกัน

6. 4 ปีผ่านไป

7. 10 ปีผ่านไป รายละเอียดหายจนแทบจะดูไม่ออก

8. 10 ปีผ่านไป จากสักสีจางจนเหมือนสักขาวดำ

9. ถ้ารอยสักสีจางลง ความงามก็ลดลงเช่นกัน

10. รอยสักสีเลือน

11. แค่ 4 ปีก็จางไปขนาดนี้แล้ว

12. 10 ปีผ่านไป สีหายเกือบหมด

13. ถ้าอยากให้รอยสักอยู่ได้นานๆ พยายามเลือกสีที่หมึกสักที่มีคุณภาพนะ

14. 17 ผ่านไป เปลี่ยนขนาดนี้ ถือว่ารักษาดีในระดับหนึ่งนะ

15. รายละเอียดรอยสักจะจางลงตามกาลเวลา

16. รอยสักบนจุดที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ จะจางได้ง่ายที่สุด

17. นี่ก็คือเช่นกัน

.
ที่มา boredpanda


Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.