Exclusive: สัมภาษณ์ “น้องม๊าเดี่ยว” หลังตามฝันในวงการแฟชั่นมา 1 ปี เธอเป็นยังไงบ้าง!?

หากจะให้นึกถึงนางแบบสายครีเอท และมีความคิดสร้างสรรค์สุดบรรเจิดล่ะก็ เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องนึกถึงน้องม๊าเดี่ยวอย่างแน่นอน

เพราะตั้งแต่เมื่อช่วงกลางปี 2558 ที่เธอเริ่มโด่งดังจากการหยิบโน่นผสมนี่จนกลายเป็นอัลบั้มภาพถ่ายแฟชั่นฮาๆ เธอก็มีงานตามมาแบบไม่ขาดสาย

 

4

 

ในตอนนั้นเอง#เหมียวฟิ้นก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เธอด้วย (อ่านบทสัมภาษณ์เก่าได้ที่ หมียวสัมภาษณ์ ‘น้องม๊าเดี่ยว’ เจ้าแม่แฟชั่นที่มาแรงสุดในโลกออนไลน์)

หลังจากที่เวลาผ่านไป 1 ปี เธอเองดูจะเติบโตขึ้นมาก แถมยังมีงานเดินแบบทั้งในและต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา เราจึงขอกลับมาพูดคุยกับเธออีกครั้งเพื่ออัพเดทเรื่องราวในวงการของเธอว่าเป็นยังไงบ้าง กับความฝันที่ตั้งใจไว้

 

1

 

เหมียวฟิ้น: สวัสดีครับน้องม๊าเดี่ยว ไม่ได้เจอกันตั้งปีนึง คิดถึงจังเลย

ม๊าเดี่ยว: คิดถึงเหมือนกัน แอบน้อยใจนะ คิดว่าลืมน้องคนนี้ซะแล้ว

 

เหมียวฟิ้น: ฮ่าๆ ไม่ลืมครับ เราติดตามดูผลงานและการเติบโตของน้องอยู่ตลอดเลยครับ

ม๊าเดี่ยว: ปลื้มปริ่ม

 

3

 

เหมียวฟิ้น: หลังจากที่เราคุยกันเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ชีวิตน้องเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?

ม๊าเดี่ยว: ชีวิตเปลี่ยนไปค่อนข้างมากและเปลี่ยนไปในทางที่ดีค่ะ มีโอกาสทำสิ่งต่างๆ ที่เราไม่เคยทำ ได้มีโอกาสไปทำงานกับต่างประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ได้ถ่ายนิตยสารต่างๆ มีอีเว้นท์บ้าง และที่น้องม๊าเดี่ยวภูมิใจ เร็วๆ นี้กำลังจะมีแบรนด์เสื้อผ้าและแบรนด์รองเท้าค่ะ

 

เหมียวฟิ้น: โด่งดังมากเลยทีเดียวนะครับ งานกับต่างประเทศที่ว่านี้พอจะบอกได้ไหมครับว่ามีใครจ้างไปทำะไรบ้าง!?

ม๊าเดี่ยว: Asia’s Next Top Model เป็นรายการค้นหานางแบบทั่วเอเชีย หนูได้รับหน้าที่เป็นดีไซเนอร์ทำชุดให้กับนางแบบที่เข้ารอบทั้ง 9 คน และได้เป็นกรรมการตัดสินในตอนที่ 5 ค่ะ ส่วนเกาหลีญี่ปุ่นไปเดินแบบในรายการทีวีค่ะ

 

7

 

เหมียวฟิ้น: ที่เกาหลีกับญี่ปุ่นนี่ เราก็เตรียมชุดของเราไปเองเลยหรือเปล่าครับ?

ม๊าเดี่ยว: เขามีวัสดุของเขาเตรียมไว้ไห้ค่ะ แล้วให้เราออกแบบ

เหมียวฟิ้น: แล้วที่ญี่ปุ่นกับเกาหลีเขามีรีแอ็คชั่นกับเรายังไงบ้างครับ?

ม๊าเดี่ยว: เขาก็อึ้งนะคะ คงเป็นเพราะอายุเรายังน้อยและอีกอย่างเขาคงทึ่งกับความคิดของเรา และภายนอกเราก็คือเด็กผู้ชายด้วยค่ะพี่

 

6

 

เหมียวฟิ้น: เมื่อกี้เห็นน้องพูดถึงเรื่องเปิดห้องเสื้อเป็นของตัวเอง อันนี้พอจะเล่าได้ไหมครับว่าจะมีเสื้อผ้าแบบไหน ใครเป็นคนออกแบบ?

ม๊าเดี่ยว: เป็นแบรนด์ที่รวมไอเดียทำร่วมกันกับพี่โอ่ง กงพัฒน์ ค่ะ ชื่อแบรนด์ ko&ma เสร็จ 80% แล้วค่ะ

 

เหมียวฟิ้น: ตอนนี้น้องม๊าเดี่ยวมีงานเข้ามาเยอะขนาดนี้ มีการจัดการเวลายังไงบ้างครับ มีกระทบกับเวลาเรียนบ้างหรือเปล่า?

ม๊าเดี่ยว: ต้องแบ่งเวลาให้เป็นค่ะ และไม่หักโหมมากเกินไป พักผ่อนบ้าง ก็มีผู้จัดการช่วยดูแลเวลา ส่วนเรื่องเวลาเรียนเนี่ยไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะม๊าเดียวได้รับทุนเรียนที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพค่ะ

 

8

 

เหมียวฟิ้น: จากที่คราวที่แล้วที่เราคุยกัน ที่น้องบอกว่าอยากทำงานในวงการแฟชั่น ตอนนี้น้องคิดว่าตัวเองมาถึงระดับไหนแล้วครับ?

ม๊าเดี่ยว: คงก้าวเข้ามาครึ่งขาแล้วล่ะค่ะ เพราะอีกอย่างหนูยังเด็กอยู่ ต้องรอให้หนูได้เรียนรู้ เรียน และประสบการ์ณต่างๆ หนูคิดว่าพอได้เรียนแล้ว หนูน่าจะก้าวเข้ามาเต็มตัวแน่นอน

 

เหมียวฟิ้น: ทางครอบครัวเราเปลี่ยนไปยังไงบ้างครับ?

ม๊าเดี่ยว: ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากค่ะ เพราะหนูก็ไม่ได้รบกวนเงินของทางบ้านแล้ว สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ได้

 

เหมียวฟิ้น: ได้ฟังแบบนี้พี่ล่ะภูมิใจแทนพ่อแม่ของน้องม๊าเดี่ยวจริงๆ เลยครับ

ม๊าเดี่ยว: ขอบคุณมากค่ะพี่

 

9

 

เหมียวฟิ้น: เร็วๆ นี้มีผลงานหรือเดินแบบที่ไหนหรือเปล่าครับ

ม๊าเดี่ยว: วันที่27นี้เดินแบบกับ The Face ที่เชียงใหม่ค่ะ แฟนคลับสามารถมาเจอม๊าเดี่ยวได้น้า

 

เหมียวฟิ้น: สุดท้ายนี้ครับ อยากฝากอะไรถึงคนมีฝัน มีไอเดีย แล้วจะหยิบจับให้มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้ยังไง

ม๊าเดี่ยว: ทำออกมาให้เต็มที่เลย ไม่ต้องไปสนคนรอบข้าง และฝันให้ไกล และมุ่งมันทำมันออกมาให้ดี สักวันจะเป็นจริงค่ะ

 

ma

 

และนั่นคือบทสัมภาษณ์กึ่งพูดคุยระหว่าง#เหมียวฟิ้นกับน้องม๊าเดี่ยวล่ะ เราก็ได้แต่ส่งกำลังใจให้เด็กคนนี้เดินบนเส้นทางที่ฝันไว้ จนกลายเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับวัยรุ่นอีกหลายๆ คนที่มีฝันล่ะนะ

emo16

เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น

Comments

Leave a Reply