เคยสังเกตไหม ทำไมรูปปั้นโบราณหล่อล่ำ แต่ดัน.. ‘จู๋เล็ก’ มันเกี่ยวข้องกับ ‘ความฉลาด’ งั้นหรือ!?

สมัยนี้คุณผู้ชายทั้งหลาย มีแต่คนอวดอ้างว่าเจ้าหนูของตัวใหญ่อย่างนั้น ยาวอย่างงี้ แต่ถ้าเราเคยเข้าไปชมงานตามศูนย์แสดงงานศิลปะ เราคงจะเคยเห็นรูปปั้นผู้ชาย ล่ำบึก แต่เอ๊ะ สงสัยว่า ทำไมจู๋เล็กจัง

#เหมียวขี้ส่อง ก็เลยจะพาไปหาคำตอบของความสงสัยนี้กัน ว่ามันยังไงกันแน่…

ตามที่ How To Talk About Art History อ้างอิงจาก Ellen Oredsson บอกว่า ‘เพราะในสมัยกรีกโบราณนั้น พวกเขาเชื่อว่า คนจู๋เล็กนั้น เป็นคนฉลาด คือ ยิ่งเล็กยิ่งฉลาด เพราะจู๋เล็กเนี่ยแหละ พวกเขาเลยเอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่ใช้สมองมากกว่าที่จะใช้จู๋ แต่มันก็เป็นแบบนี้เสมอไปหรอกนะ’ 

ส่วนเหตุผลอื่นๆคือ เวลาที่ศิลปินหรือช่างปั้น ปั้นรูปขึ้นมา พวกเขาจะสนใจใบหน้าหรือส่วนอื่นมากกว่า จู๋ นั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่า ‘จู๋ใหญ่กว่าไม่ได้หมายความว่าจะดีกว่า’ ในกรีกโบราณและโรม

อุดมการณ์เหล่านี้ได้รับการบันทึกในวรรณคดีโบราณ เช่น ใน Clouds ของ Aristophanes ที่เขาเขียนไว้ว่า

“ถ้าคุณจะทำสิ่งแล้วนี้ ฉันจะบอกว่าควรพยายามทำยังไง คุณต้องมีหน้าอกใหญ่และมีผิวที่เปล่งประกาย  ลิ้นเล็กๆ ไหล่กว้าง สะโพกใหญ่ และต้องมีจู๋เล็กด้วย แต่ถ้าตามกระแสในวันนี้ คุณต้องผิวขาวซีด ไหล่เล็ก หน้าอกเล็ก ลิ้นใหญ่ สะโพกเล็ก มีจู๋ใหญ่และยาว”

นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมรูปปั้น David ถึงเป็นแบบนี้

และนี่คือรูปปั้นลักษณะของคนโง่

อีกเหตุผลหนึ่งที่ฟังขึ้นก็คือ รูปปั้นส่วนใหญ่นั้นเป็นงานศิลปะ ช่างปั้นน่าจะใส่ใจกับการสร้างสัดส่วน กล้ามเนื้อต่างๆให้มีความสวยงาม รวมถึงหน้าตาของหุ่นด้วย และมองข้ามว่าเรื่องเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่อย่างใด

เหตุผลนี้ก็ฟังขึ้น เช่นเดียวกับเรื่องจู๋กับความฉลาดดังที่กล่าวเหมือนกัน….

 แล้วคุณละคิดยังไงกับเรื่องนี้?? ใหญ่หรือเล็กดี คริคริ

ที่มา unilad