13 แบรนด์ดัง ที่มีจุดเริ่มต้นมาจาก ‘โรงจอดรถ’ จนประสบความสำเร็จไปทั่วโลก!!!

ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่าการทำธุรกิจนั้นมันไม่ได้เริ่มต้นมาแล้วประสบความสำเร็จเลย ซึ่งแบรนด์ดังหลายๆ แบรนด์จากทั่วโลกต่างก็มีจุดเริ่มต้นมาจากสิ่งเล็กๆ เช่นเดียวกัน แต่ด้วยความพยายาม และความุมานะ พร้อมกับวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ก็เลยทำให้พวกเขากลายมาเป็นอย่างที่เห็นในทุกวันนี้

วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพโรงงานในอดีตของเหล่าแบรนด์ดังทั้งหลายจากทั่วโลก ให้ทุกคนรู้ไว้ว่าก่อนที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จก็เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ อย่างบ้านหลังเก่าๆ เช่นเดียวกัน

 

1. Amazon

ย้อนกลับไปในปี 1994 ที่เป็นยุคบุกเบิกของการใช้อินเตอร์เน็ต คุณ Jeff Bezos ได้ทำการจัดตั้งร้านเช่าหนังสือออนไลน์เล็กๆ ซึ่งในขณะนั้นออฟฟิศของเขายังอยู่ในโรงรถเล็กๆ และใช้ประตูหน้าต่างเก่าๆ มาทำเป็นโต๊ะทำงานอยู่เลย..

1

 

แต่ในวันนี้ Amazon กลายเป็นหนึ่งในร้านค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และตอนนี้ผู้ก่อตั้งซึ่งก็คือคุณ Jeff Bezos ก็กำลังซุ่มทำบริษัทเกี่ยวกับการบินและยานอวกาศ ที่ชื่อว่า Blue Origin โดยใช้พื้นที่ของตัวเองที่ซื้อมาใน Texas ทำเป็นฐานปล่อยจรวดอีกด้วย

2

 

2. Apple

Steve Jobbs และ Steve Wozniak ได้ร่วมลงมือกันประกอบคอมพิวเตอร์เครื่องแรกด้วยมือ อยู่ในโรงรถเล็กๆ ที่บ้านของ Steve Jobbs

3

 

ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน  สำนักงานใหญ่ของ Apple ที่กำลังจะสร้างเสร็จในปี 2017 นี้ จะมีเนื้อที่กว้างถึง 850,000 ตารางเมตร และสามารถจ้างพนักงานได้ถึง 13,000 คน

4

 

3. Disney

สองพี่น้อง Roy และ Walt Disney ได้เริ่มถ่ายทำภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องแรกในโรงรถของคุณลุงของพวกเขา

5

 

แต่ในปัจจุบัน Walt Disney กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีรายได้มากที่สุดในโลก จากการทำภาพยนตร์ รายการทีวี และสวนสนุกเป็นของตัวเอง

6

 

4. Hewlett-Packard (hp)

ในตอนแรกนั้น Hewlett-Packard ผู้ก่อตั้งต้องการที่จะเปิดบริษัทผลิตเครื่องมือตรวจวัดระดับเสียงขาย โดยใช้โรงรถในบ้านตัวเองเป็นโรงงาน โดยมีเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 19,000 บาท และลูกค้ารายแรกของพวกเขาก็คือ Walt Disney ที่ซื้อเจ้าเครื่องนี้ไปทั้งหมด 8 เครื่องด้วยกัน เพื่อนำไปใช้ในการสร้างภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Fantasia

7

 

ปัจจุบัน Hewlett-Packard หรือ hp กลายมาเป็นบริษัทขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก

8

 

5. Google

ครั้งหนึ่ง Search Engine (เครื่องมือค้นหา) ที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้เริ่มต้นมาจากโครงงานวิจัย ของนักศึกษาจากมหาวิยาลัย Stanford เพียง 2 คน และที่ทำงานของพวกเขาก็เป็นแค่โรงจอดรถเท่านั้น

9

 

แต่ปัจจุบันนี้พวกเขากลายมาเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และก็ไม่ได้ทำแค่ Search Engine แล้วนะ ตอนนี้งานของพวกเขาครอบคลุมไปทั้งอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ และการวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่มนุษย์อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น อากาศยานไร้คนขับ, ปัญญาประดิษฐ์, อุปกรณ์ทางการแพทย์ และ สัญญาณอินเตอร์เน็ต

10

 

6. Harley-Davidson

William S. Harley และเพื่อนบ้านของเขา Arthur Davidson เคยทำการทดลองสร้างจักรยานที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ในเพิงไม้เล็กๆ จากการหยิบจับสิ่งนั้นมาประกอบสิ่งนี้จนในที่สุดพวกเขาก็สามารถสร้างมอเตอร์ไซค์คันแรกขึ้นมาได้

11

 

และปัจจุบัน Harley Davidson ก็กลายเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว

12

 

7. The Beatles

ในตอนแรกนั้น John Lennon ได้ตั้งวงดนตรีเพลงร็อคขึ้นมาใช้ชื่อว่า The Quarrymen พวกเขาใช้โรงรถในการซ้อม และออกไปเล่นโชว์ตามงานอีเว้นท์เล็กๆ ทั่วไป และหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้รู้จักกับชายหนุ่มที่ชื่อว่า Paul McCartney และ John Lennon ก็ได้ตัดสินใจรับเขาเข้าวง

13

 

หลังจากนั้นสมาชิกในวงก็ถูกปรับเปลี่ยนไปมาจนเหลือ 4 คน จนมาถึงในปี 1960 วงร็อคชื่อดังที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลกชื่อว่า The Beatles ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

14

 

8. Microsoft

แรกเริ่มเดิมทีนั้นบริษัท Microsoft นั้นมีพนักงานเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น ประกอบไปด้วยผู้ก่อตั้งทั้งสองคนอย่าง Bill Gates และ Paul Allen และพนักงานอีก 1 คน

15

 

ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน บริษัท Microsoft กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกและมีพนักงานมากกว่า 120,000 คน และนอกจากนี้คุณ Bill Gates ที่เป็นผู้ก่อตั้งก็ติดอันดับบุคคลที่รวยที่สุดในโลกมาแล้วหลายปีด้วยกัน (จัดอันดับโดย Forbes)

16

 

9. Patagonia (แบรนด์อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการปีนเขา ตะลุยหิมะชื่อดัง)

Yvon Chouinard เป็นคนที่ชื่นชอบการปีนเขาเป็นอย่างมากตั้งแต่อายุ 14 แล้ว แต่พ่อแม่ของเขาไม่สามารถซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการปีนเขาให้กับเขาได้ Yvon ก็เลยเปลี่ยนโรงรถให้กลายเป็นโรงตีเหล็กและทำอุปกรณ์เหล่านั้นขึ้นมาซะเอง

17

 

40 ปีให้หลัง จากโรงตีเหล็กเล็กๆ ก็กลายมาเป็นบริษัท Patagonia ที่ผลิตอุปกรณ์ในการปีนเขาที่มีคุณภาพสูง ให้กับเหล่าลูกค้าที่ชื่นชอบการปีนเขาและเล่นสกีจากทั่วโลก

18

 

10. Yankee Candle (ผลิตภัณฑ์เทียนหอมชื่อดัง)

Michael Kittredge หนุ่มวัย 14 ปี ได้ทำเทียนหอมชิ้นแรกมาจากดินน้ำมันเพื่อมอบให้กับพ่อแม่ของเขา และเพื่อนบ้านของเขาก็มาเห็นพอดีและรู้สึกชื่นชอบมันเป็นอย่างมาก ก็เลยติดต่อขอซื้อเทียนหอมบ้าง

19

 

และในปัจจุบัน Yankee Candle กลายมาเป็นบริษัทที่ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเทียนหอมที่มีสาขาอยู่ใน 50 ประเทศทั่วโลก และร้าน Yankee Candle ร้านแรกก็ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปเรียบร้อยแล้ว

20

 

11. Lotus Cars

ผู้ก่อตั้ง Lotus Cars ได้เริ่มทำการผลิตรถแข่งคันแรกของเขาในโรงจอดรถของพ่อแม่ของเขา หลังจากนั้นก็ก็ย้ายสายการผลิตไปที่คอกม้าเก่าๆ

21

 

และในตอนนี้ Lotus Team กลายมาเป็นผู้ชนะการแข่งขันรายการ Formula One World Championship มากว่า 7 ครั้งแล้ว

22

 

12. Mattel

ย้อนกลับไปในปี 1945 มีคู่รักคู่หนึ่งก่อตั้งบริษัทผลิตกรอบรูปขึ้นมา และไม่กี่ปีต่อมาคู่รักเดิมก็ได้เปิดตัวตุ๊กตาตัวใหม่ออกมาโดยตั้งชื่อตามลูกสาวของเขาชื่อว่า Barbie

23

 

และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้บริษัท Mattel กลายมาเป็นบริษัทผลิตตุ๊กตาและของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

24

 

13. Nike

โค้ช Bill Bowerman และนักศึกษา Philip Knight ที่เป็นนักกีฬาในมหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Blue Ribbon Sports (BRS) ที่ทำการจัดจำหน่ายแบรนด์รองเท้าของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Onitsuka Tiger 

25

 

ต่อมาในปี 1970 Bill Bowerman ได้ทดลองทำพื้นรองเท้ายางจากเครื่องอบขนมวาฟเฟิล ของภรรยาเขา และนั่นเองที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของรองเท้ากีฬาที่มีพื้นรองเท้าเป็นยางแบบทุกวันนี้ ถัดมาในปี 1971 บริษัท Nike ก็ถูกก่อตั้งขึ้นมา แต่ภายหลังจากนั้นไม่นาน BRS และ Nike ก็ต้องแยกจากกันเพราะความขัดแย้งทางธุรกิจ แต่ก็กลับมารวมกันอีกครั้งในปี 1981

26

 

ใครจะไปคิดกันล่ะว่ากว่าจะกลายมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ทำรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ จะมีจุดเริ่มต้นมาจากโรงรถเล็กๆ และคนงานไม่กี่คนเองนะเนี่ย

แสดงว่าพวกเขาต้องใช้ความพยายามมากมายกว่าที่จะประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ได้ เพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ทุกคนที่กำลังประกอบธุรกิจเป็นของตัวเองอยู่ก็ห้ามยอมแพ้นะจ๊ะ สักวันหนึ่งเราอาจจะกลายเหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ก็ได้ ^^

emo16

ที่มา : brightside

Comments

Leave a Reply