[วิจารณ์ส่งเดช] Mission: Impossible – Rogue Nation มันส์จนลืมหายใจ!!

ถือเป็นแฟรนไชส์ที่ฆ่าไม่ตายจริงๆ และยิ่งสร้างภาคต่อออกมาก็ยิ่งเรียกคนดูได้มากขึ้นเรื่อยๆเลย สำหรับ Mission: Impossible ที่ภาคนี้ใช้ชื่อว่า Rogue Nation ซึ่งจากภาคที่แล้วทำเอาไว้ดีมาก เรียกว่าเป็นหนังบันเทิงที่ครบเครื่องเรื่องความมันส์เลยก็ว่าได้ มาภาคนี้จะยังคงรักษามาตรฐานเดิมไว้ได้หรือไม่ เหมียวจะมาวิจารณ์แบบส่งเดชเอง

mi5 (1)

 

Mission: Impossible Rogue Nation ว่าด้วยเรื่องของหน่วย Impossible Mission Force (IMF) ที่ถูกสั่งปิดไปโดยเจ้าหน้าที่ CIA ระดับสูงอย่าง Alan Hunley(Alec Baldwin)

mi5 (4)

 

แต่ Ethan Hunt(Tom Cruise) ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และยังดึงเอาทีมงามของเค้า (Jeremy Renner, Simon Pegg และ Ving Rhames) กลับมารวมตัวอีกครั้งเพื่อต่อสู้กับองค์กรลับที่มีชื่อว่า “The Syndicate” และสืบว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังองค์กรลับนี้

mi5 (6)

 

ตัวหนังเองยังคงอุดมไปด้วยฉากแอ็คชั่นมันส์ๆสไตล์ Mission: Impossible โดยในภาคนี้มีซีนใหญ่ๆอยู่หลายซีน ไม่ว่าจะเป็นซีนปีนเครื่องบิน ซีนดำน้ำ ซีนไล่ล่าด้วยมอเตอร์ไซค์

 

ซึ่งแต่ละอันนั้นทำได้ดีมากๆ ความดีความชอบตรงนี้อาจจะต้องยกให้กับ Tom Cruise เลยก็ว่าได้ เพราะพี่แกลงทุนเล่นฉากเสี่ยงตายเองหมดเลย ยิ่งซีนขี่มอเตอร์ไซค์ คุณจะเห็นได้เลยว่าพี่แกซิ่งจริงๆ(เห็นแล้วเสียวแทน)

mi5 (3)

 

ดูเหมือนว่าในภาคนี้จะมีบรรยากาศแบบหนังสายลับยุคเก่าๆเข้ามาผสมด้วย อาจเป็นเพราะภาคนี้กำกับโดย Christopher McQuarrie ที่เคยฝากผลงานอย่าง Jack Reacher มาก่อน ทำให้องค์ประกอบหลายๆอย่างดูดิบๆหน่อย ซึ่งเหมียวก็ชอบตรงนี้มากเช่นกัน

mi5 (5)

 

นอกจากการกลับมาครบทีมของหน่วย IMF แล้ว ในภาคนี้ยังมีสาวสวยคนใหม่อย่าง Ilsa Faust(Rebecca Ferguson) มารับบทเด่นในภาคนี้ด้วย ซึ่งหนังก็มีลูกล่อลูกชนที่หลอกเราหลายตลบอยู่เหมือนกัน ว่าตกลงแล้วตัวละครตัวนี้มีจุดประสงค์อะไร ทั้งเซ็กซี่และแอ็คชั่นเก่งได้ไม่แพ้พระเอกของเราเลย

mi5 (2)

 

สิ่งเดียวที่ดูจะขัดใจเหมียวเห็นจะเป็นตัวร้ายหลักในภาคนี้อย่าง Solomon Lane(Sean Harris) ที่มีลักษณะตัวละครนิ่งๆเหมือนคนโรคจิต แต่ในขณะเดียวกัน ด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งของเขา ทำให้เหมียวไม่รู้สึกว่าตัวละครตัวนี้มันโรคจิตเท่าไหร่เลย

 

แถมฟังไปๆยังรู้สึกตลกอีกด้วย แต่หากใครไม่ติดตรงนี้ก็ดีไป(แต่ต่อให้เสียงไม่แหบ เหมียวก็มองว่าตัวละครนี้ขาดเสน่ห์และความน่าเกรงขามอยู่ดี)

mi5 (7)

 

สุดท้ายนี้หากใครที่ติดตามแฟรนไชส์ Mission: Impossible มาทุกภาคแล้วล่ะก็ คุณเองก็ไม่ควรพลาดภาคนี้เด็ดขาด เพราะหนังจะอัดความบันเทิงมาให้คุณอย่างเต็มเหนี่ยว จนบางครั้งอาจหายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว

เรียบเรียงโดย Catdumb

Comments

Leave a Reply