นกพิราบแชมเปี้ยน เจ้าของฉายา “ลูวิส แฮมิลตัน” ที่มีค่าตัวถึง 45 ล้านบาท!!

“กรู๊ๆๆ” คือเสียง นกพิราบ ตามเมืองใหญ่ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี บางครั้งพวกเราก็อยากจะไล่มันไปไกลๆ หากพวกมันอยู่รวมกันเยอะๆ เพราะอาจสร้างเชื้อโรคและร้องเสียงดังรบกวนสมาธิ

แต่จะมีใครรู้บ้างว่าแท้จริงแล้วนกเหล่านี้คนมักนำมันมาใช้ในการแข่งขันบินระยะไกล แถมมูลค่าของพวกมันก็มีราคาพอๆ กับรถคันนึงเลยด้วย!!

โดยล่าสุดเพิ่งมีการประมูลนกพิราบจากการแข่งขันบินระยะไกลไปแล้วและมูลค่าของมันก็สูงถึง 1.25 ล้านยูโร!! (ราวๆ 45 ล้านบาท พอให้ซื้อรถดีๆ มาขับได้หลายคันเลยนะนั่น)

 

 

สงสัยกันล่ะสิว่าใครเขาจะบ้าประมูลนกพิราบกันในราคานี้?? นั่นก็เป็นเพราะว่ามันไม่ใช่นกพิราบธรรมดาๆ แต่มันคือนกพิราบที่ชนะการแข่งขันบินระยะไกลมาแล้ว และฉายาของมันก็คือ “ลูวิส แฮมิลตัน” (ชื่อของนักแข่งรถฟอร์มูลาวัน)

เจ้านกพิราบจากประเทศเบลเยียมตัวนี้มีชื่อว่า Armando ที่ภายนอกอาจดูเหมือนพิราบป่าทั่วๆ ไป แต่จากชัยชนะในครั้งนั้นทำให้มันมีชื่อเสียงกับเหล่าคนชอบการแข่งขันนกมาก

ไม่เพียงเท่านั้น ในการแข่งขันชิงแชมป์นกพิราบ Ace Pigeon ปี 2018 และการแข่งขัน Pigeon Olympiad ปี 2019 เจ้านกพิราบ Armando ก็เป็นผู้กวาดรางวัลทั้งหมดไปครองอีกด้วย…

 

โฉมหน้าเจ้านกพิราบ Armando ที่ทุกวันนี้มันไม่ต้องเข้าร่วมแข่งขันแล้ว (หรือเกษียณนั่นเอง)

 

การเปิดประมูลนกพิราบตัวนี้ได้ถูกจัดขึ้นโดยสมาคม Pigeon Paradise หรือเรียกสั้นๆ ว่า Pipa 

Nikolaas Gyselbrecht ประธานสมาคม กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้เราเคยมีการประมูลนกพิราบซึ่งสูงสุดอยู่ที่ 376,000 ยูโร (ราว 13 ล้านบาท)”

เขาได้กล่าวต่อไปอีกว่าสำหรับเจ้า Armando แล้ว มีผู้เข้าร่วมประมูลมันเยอะมากจนเขาไม่อยากจะเชื่อ

“มันเหมือนความฝันเลย พวกเราไม่เคยหวังว่าคนจะให้ราคามันสูงขนาดนี้ อย่างมากพวกเราก็หวังไว้แค่ราวๆ 400,000 -500,000 ยูโรเท่านั้น” Nikolaas กล่าว

 

 

สำหรับผู้ที่ประมูลไปได้นั้นเป็นชาวจีนผู้ไม่เอ่ยนาม ผู้คว้าชัยในการต่อสู้ราคากันอย่างดุเดือดเพื่อให้ได้นกพิราบตัวนี้มาครอง

ตอนแรกราคาแตะอยู่ที่ 532,000 ยูโร (19 ล้าน) ก่อนจะก้าวกระโดดไปที่ 1.25 ล้านยูโร (45 ล้านบาท) ในตอนสุดท้าย!!

 

ล่าสุดยังทราบว่าตอนนี้เจ้า Armando ก็ได้พักผ่อนใช้ชีวิตหลังเกษียณ และยังเป็นคุณพ่อให้กับลูกนกหลายๆ ตัวอีกด้วย (แลดูเป็นชีวิตหลังเกษียณในฝันของหลายๆ คนเลยนะ)

 

ที่มา: bbctheguardian

Comments

Leave a Reply