กองทัพอังกฤษทดสอบเครื่องไอพ่น พร้อมเผยคลิปพลทหาร “บินได้” คนแรกของโลก

ถ้าหากคุณมีโอกาสทันใช้ iPhone 4 ล่ะก็ (อ่า… รู้เลยว่าอายุเท่าไหร่ ฮ่าๆ) อาจจะคุ้นเคยกับเกมมือถือยอดฮิตอย่าง Jetpack joyride ที่ให้เราสวมบทบาทของหน่วยรบพิเศษผู้มาพร้อมกับเครื่องไอพ่น วิ่งตะลุยสะสมเหรียญให้ได้มากที่สุด

เครื่องยนต์ของตัวเอกในเกมสุดฮิตนั้น ดูเหมือนว่าจะถูกทำให้มันสามารถใช้งานได้จริงแล้ว หลังจากที่มีการเผยคลิปทดสอบการใช้งานเครื่องไอพ่น ของกองทัพอังกฤษ

 

อืม… คล้ายๆ อยู่นะว่าไหม

 

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2019 สื่อต่างประเทศได้รายงานการทดสอบดังกล่าว พร้อมเผยแพร่คลิปวิดีโอการทดสอบเครื่องไอพ่นนี้

ตามรายงานเผยว่านายทหาร Richard Browning ผู้คิดค้นเครื่องไอพ่นสุดล้ำเครื่องนี้ ได้ทำการทดสอบสิ่งประดิษฐ์ของเขา โดยสวมเครื่องไอพ่นไว้ที่แขนทั้งสองข้างก่อนที่จะลอยขึ้นไปเหนือพื้นราวๆ 2 เมตร

ซึ่งเครื่องยนต์ที่ Richard สวมใส่นั้นให้กำลังมากถึง 1,000 แรงม้า และมันสามารถทำให้เขาเคลื่อนที่ไปด้านหน้าด้วยความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. ด้วยกัน

 

 

นายทหารคนดังกล่าวสาธิตการทำงานของเครื่องโดยการกระโดดเบาๆ ก่อนที่เครื่องไอพ่นที่มือของเขาจะทำงานและส่งให้ตัวเขาลอยขึ้นเหนือพื้น และนอกจากนี้เขายังแสดงทักษะการลงจอดอย่างนิ่มนวลให้ได้ชมอีกด้วย

เครื่องไอพ่นชิ้นนี้ได้ทำการทดสอบที่ศูนย์ฝึก Commando Training Centre Royal Marines ในเมือง Lympstone ประเทศอังกฤษ

 

 

Richard ให้สัมภาษณ์ว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาสามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยรบพิเศษได้ และมันจะช่วยให้ทหารสามารถเข้าไปในพื้นที่ที่เข้าถึงยากได้

“ถ้าหากว่าคุณอยากจะเคลื่อนย้ายกองกำลังอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนย้ายเหนือผิวน้ำ เครื่องไอพ่นนี้เหมาะสมอย่างมาก

ผมคิดว่ามันเหมาะสำหรับการใช้ฝึกทหารเกณฑ์ และผมคิดว่ากองทัพน่าจะสนใจ” Richard ให้สัมภาษณ์

 

 

เครื่องไอพ่นที่ Richard คิดค้นขึ้นมานี้มีน้ำหนักประมาณ 26 กก. ด้วยกัน ประกอบด้วยไอพ่นขนาดเล็กทั้งหมด 5 ชิ้นด้วยกัน (ที่มือข้างละ 2 และด้านหลัง 1) และมีแผงวงจรสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องติดอยู่ตรงหน้าอก

อย่างไรก็ตามไม่ได้มีเพียงแค่กองทัพอังกฤษเท่านั้นที่ให้ความสนใจกับเครื่องไอพ่นนี้ แต่ทางกองทัพสหรัฐเองก็เช่นกัน

และขณะนี้ Richard กำลังปรับปรุงการทำงานของมัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้นานถึง 9 นาที และสามารถเพิ่มความเร็วได้มากกว่านี้

 

ที่มา dailymail

Comments

Leave a Reply