Tag: โดนปรับ

  • มาเลเซียมาตรการใหม่ ใครปล่อยข่าวปลอมโดนปรับ 4 ล้านบาท ขังคุกอีก 10 ปี ระวังไว้ให้ดี!!

    มาเลเซียมาตรการใหม่ ใครปล่อยข่าวปลอมโดนปรับ 4 ล้านบาท ขังคุกอีก 10 ปี ระวังไว้ให้ดี!!

    การจะรับรู้ข่าวสารอะไรก็ตามในสมัยก่อนนั้น เราจำเป็นจะต้องอ่านหนังสือ อ่านหนังสือพิมพ์หรือไม่ก็ดูจากโทรทัศน์เป็นต้น กลับกันในปัจจุบันเวลาเราจะรับข่าวสารอะไรนั้น เราสามารถจะหาอ่านตามอินเทอร์เน็ตได้ทั่วไป แต่แม้ปัจจุบันนั้นเราจะเสพข้อมูลได้ง่ายและสะดวกขึ้น แต่ใช่ว่าข้อมูลข่าวสารทุกอย่างจะเป็นเรื่องจริง เพราะบางครั้งคนก็ชอบจะกุข่าวปลอมๆ ออกมาเพื่อสร้างกระแสหรือส่งข้อมูลผิดๆ ให้คนอ่าน แน่นอนว่าถ้าคุณรับสารอย่างมีสติก็จะไม่มีปัญหา ทว่าใช่กลับทุกคนจะสามารถรับข่าวสารได้อย่างมีสติ จนบางครั้งก็มีหลายคนมักจะตกเป็นเหยื่อเช่นกัน     ด้วยเหตุนี้ทางการมาเลเซียจึงคิดหาแนวทางในการรับมือคนที่ชอบปล่อยข่าวปลอมๆ ออกสู่สายตาประชาชนไม่ว่าจะด้วยการตั้งกฎขึ้นมาว่า ถ้าเกิดใครที่ปล่อยข่าวปลอมแล้วถูกจับได้ คนคนนั้นจะต้องถูกจับและปรับเป็นเงิน 500,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือเป็นเงินไทยเกือบ 4 ล้านบาท ส่วนขอบเขตความผิดนั้นล้วนครอบคลุมไปด้วยหลายวิธีเช่น ข้อมูลปลอม คลิปปลอม ข่าวปลอมอะไรก็ตามที่ทำให้คนเข้าใจผิดโดยตั้งใจ แน่นอนว่าสื่อสิ่งพิมพ์หรือแม้แต่เหล่าบล็อกเกอร์ ไอดีโซเชียลปลอมก็จัดอยู่ในข้อกฎหมายข่าวปลอมนี้ด้วย     ฉะนั้นใครที่คิดจะกุเรื่องปลอมๆ ขึ้นมาในมาเลเซียคงต้องระวังไว้ให้ดีแล้วล่ะ เพราะจากโทษแล้วหนักเอาเรื่องเลยทีเดียว ซึ่งจะว่าไปก็น่าจะมีกฎหมายแบบนี้ในไทยบ้างนะ   ที่มา bbc

  • ความดีไม่มียกเว้น… ชายมอบเสื้อให้คนไร้บ้าน ถูกใบสั่งตามถึงบ้าน เพราะจอดในเลนรถเมล์

    ความดีไม่มียกเว้น… ชายมอบเสื้อให้คนไร้บ้าน ถูกใบสั่งตามถึงบ้าน เพราะจอดในเลนรถเมล์

    ในวันเทศกาลเฉลิมฉลองอย่างวันคริสต์มาส ไม่ว่าใครก็อยากจะทำให้คนรอบข้างมีแต่ความสุขและสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกันทั้งนั้น อดีตทหารนายหนึ่งซึ่งขับรถผ่านมาเห็นชายไร้บ้านก็อยากมอบสิ่งดีๆ ให้กับคนไร้โอกาสเช่นกัน เขาจึงจอดรถเพื่อมอบเสื้อผ้าและอาหารให้กับชายไร้บ้าน แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันเขาก็โดนใบสั่ง เพราะในจังหวะนั้นเขาจอดรถในเลนของรถประจำทาง…   Lee Williamson อดีตทหารที่ทำงานเป็นช่างไม้และทำงานกับองค์กรการกุศล   ในวันคริสต์มาส เขาจอดรถเพื่อเอาเสื้อผ้าไปมอบให้กับชายไร้บ้านคนหนึ่ง   นาย Lee Williamson อดีตทหารวัย 43 ปีเล่าว่าขณะที่เขากำลังขับรถกลับจากการส่งลูกสาวในวันคริสต์มาส เขาเห็นชายไร้บ้านคนหนึ่งนอนอยู่ข้างถนน ด้วยความที่เขาทำงานกับองค์กรการกุศลด้วย เขาเลยอยากจะช่วยเหลือชายคนนั้น เขาจึงจอดรถที่ข้างทางแล้วเดินเข้าไปหาชายไร้บ้าน เพื่อมอบหมวก ถุงมือ ผ้าพันคอและอาหารให้กับเขา ชายไร้บ้านคนนั้นรู้สึกซึ้งใจจนไม่รู้จะพูดขอบคุณได้อย่างไร จากนั้นเขาก็กลับไปที่รถแล้วขับกลับบ้านไปใช้เวลาอยู่กับครอบครัวตามปกติ ทว่าต่อมาในวันที่ 3 มกราคม 2018 ก็มีใบเรียกค่าปรับจากทางการส่งมาถึงบ้านเขา แจ้งให้เขาไปเสียค่าปรับจำนวน 70 ปอนด์ (ประมาณ 3,000 บาท) โทษฐานที่เขาจอดรถในเลนที่ทำไว้สำหรับรถประจำทางเท่านั้น   ใบเรียกเก็บค่าปรับที่เขาได้รับ เนื่องจากจอดรถในที่จอดรถประจำทาง   หลังจากนั้นเขาจึงเขียนอีเมลล์ไปอธิบายสาเหตุของการกระทำในครั้งนั้น ทางการก็คงจะเข้าใจเขาแล้วยกเลิกใบเก็บค่าปรับแน่นอน ทว่าในวันที่ 30 มกราคม 2018 เขากลับได้รับจดหมายตอบกลับจากทางการว่า แม้จะเป็นการกระทำไปด้วยเจตนาดี แต่ก็ยังคงต้องปรับเขาเพราะเขาทำผิดกฎจราจรเหมือนเดิม พอ Williamson…

  • หนุ่มเจอรถปริศนาแย่งที่จอดทุกวัน เตือนก็ไม่ฟัง แบบนี้ต้องแก้แค้นให้สาแก่ใจ หึ!!

    หนุ่มเจอรถปริศนาแย่งที่จอดทุกวัน เตือนก็ไม่ฟัง แบบนี้ต้องแก้แค้นให้สาแก่ใจ หึ!!

    สมัยนี้มีคนใช้รถยนต์เป็นจำนวนมาก จึงเกิดปัญหาว่าที่จอดรถไม่เพียงพอต่อความต้องการของเรา วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ อย่างหนึ่งก็คือการจ่ายเงินเช่าที่จอดรถไปเสียเลย จะได้ไม่ต้องมาหาที่จอดรถให้เหนื่อย ทว่าปัญหาของหนุ่มผู้ใช้งาน Reddit ที่ใช้ชื่อว่า Goalnado ยังไม่จบเพียงเท่านั้น แม้ว่าเขาจะเช่าที่จอดรถไว้แล้วก็ยังมีรถคันหนึ่งมาแย่งที่จอดรถของเขาเป็นประจำ แม้จะเตือนแล้วก็ไม่ออกไปเสียที เมื่อเขาทนไม่ได้ก็เลยแก้แค้นเจ้าของรถคันนั้นให้รู้สำนึกซะบ้าง ให้มันโดนปรับเงินบานเลย   โพสต์ส่วนหนึ่งของ Goalnado จาก Reddit   Goalnado ทำงานอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และที่จอดรถในที่ทำงานนั้นมีเพียงแค่ 8 คันเท่านั้นเขาก็เลยยอมจ่ายค่าที่จอดปีละ 1,200 ปอนด์ (ประมาณ 53,000) จะได้ไม่ต้องแย่งที่จอดกับคนอื่น แต่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นโดยเขาเล่าว่า “เมื่อประมาณ 7 อาทิตย์ก่อนมีรถปริศนาคันหนึ่งมาจอดในที่จอดรถของผมทุกวัน ผมเขียนโน๊ตบอกแล้วว่าที่จอดนี้เป็นของผมแต่เขาก็ยังเข้ามาจอดอยู่ดี แถมไม่ยอมติดต่อผมกลับตามที่เขียนโน๊ตไว้ให้ด้วย ผมก็ไม่พอใจอย่างมากก็เลยจอดรถขวางไม่ให้มันออกซะเลย แต่ดูเหมือนผมจะเลิกงานก่อนมันทุกทีมันก็เลยไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร แถมพอแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาปรับมันแล้วก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย”     พอผ่านไปได้ 10 วันเขาก็รู้สึกทนไม่ได้กับพฤติกรรมของเจ้าของรถคันนั้น เขาเลยพยายามหาทางแก้แค้นให้หายเจ็บใจ เขากะว่าต้องทำให้เจ้าของรถรู้สำนึกให้ได้ ประจวบเหมาะว่าคนในที่ทำงานของเขาลาไปดูแลลูกที่เกิดใหม่พอดี แล้วพี่ชายของเขาก็เดินทางไปเที่ยวประเทศแคนาดาเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม เขาจึงได้ที่จอดรถเพิ่มมา 1 ที่ และก็รถของพี่ชายเพิ่มมาอีกหนึ่งคัน เขาจึงเริ่มแผนล้างแค้นทันที…

  • สาวโดนตั้งข้อหา หลังไปเดตแรกกับหนุ่มแล้วเมาเละ ไปทำลายงานศิลปะมูลค่า 16 ล้านอีก!!

    สาวโดนตั้งข้อหา หลังไปเดตแรกกับหนุ่มแล้วเมาเละ ไปทำลายงานศิลปะมูลค่า 16 ล้านอีก!!

    การเมาแล้วขาดสตินั้น ถือเป็นปัจจัยหลักสำหรับการพาใครหลายๆ คนไปสู่จุดตกต่ำของชีวิต เช่นเดียวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้ออกเดตกับชายฐานะดี แต่บังเอิญว่าตัวเองดันเมาขาดสติจนไปพังทรัพย์สินของหนุ่มมูลค่าหลายล้านเข้า งานนี้เรื่องก็เลยจบไม่สวยสักเท่าไหร่ เรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2017 เมื่อ Lindy Lou Layman หญิงสาววัย 29 ที่ได้ไปออกเดตกับทนายผู้มีชื่อเสียงของอเมริกานามว่า Anthony Buzbee ซึ่งเขาคนนี้เป็นคนที่มีเงินและทรัพย์สินเยอะพอสมควร   โฉมหน้าของแม่สาว Lindy Lou Layman   และนี่ก็คือ Anthony Buzbee   โดยทั้งคู่ได้พากันไปเดตที่แมนชั่นสุดหรูของ Anthony การเดตก็ดูจะเป็นไปด้วยดีจนกระทั่ง Lindy เริ่มเมา ซึ่งนั่นทำให้ทนายคนดังกล่าวอยากให้หญิงสาวกลับไปพักผ่อนโดยการเรียก Uber ให้หลายครั้ง แต่ดูเธอเหมือนจะเมาหนักและไม่อยากกลับสักเท่าไหร่ วินาทีนั้นเองที่อาการไม่พอใจของเธอเริ่มเกิดขึ้น ซึ่งมันทำให้หญิงสาวอาละวาดหนักจนไปพังทรัพย์สินอันล้ำค่าของ Anthony ทรัพย์สินที่ว่านั้นเป็นงานศิลปะที่วาดโดย Andy Warhol จำนวนสองชิ้น และสามารถตีเป็นมูลค่าได้มากกว่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว 16 ล้านบาทเลยทีเดียว     ยังไม่หมดเท่านั้น หญิงสาวที่เมาหนักดันไปทำลายรูปปั้นอีกหลายชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นสามารถตีมูลค่าได้มากกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยก็จะเกือบ 650,000 บาทต่อชิ้นเลยทีเดียว และเมื่อความเสียหายจากความเมาในเดตแรกมันเยอะขนาดนี้ มีหรือที่ทนายคนดังกล่าวจะอยู่เฉย เรื่องก็เลยลุกลามใหญ่โตกันไปจนชั้นศาล แต่อย่างไรก็ตาม Lindy…

  • อ่ออ๊อยยย!! หนูน้อยถูกปรับเงิน 6,500 บาท หลังออกมาขายน้ำมะนาว แต่ไม่มีใบอนุญาต

    อ่ออ๊อยยย!! หนูน้อยถูกปรับเงิน 6,500 บาท หลังออกมาขายน้ำมะนาว แต่ไม่มีใบอนุญาต

    วันที่ 20 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์มีรายงานว่า หนูน้อยชาวอังกฤษวัย 5 ขวบ ถึงกับหลั่งน้ำตา หลังจากที่เธอได้ทำน้ำมะนาวโฮมเมดขายให้กับผู้ที่ได้มาร่วมงานเทศกาลดนตรีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่โชคร้าย ที่ดั๊นมาถูกทางเจ้าหน้าที่ปรับเป็นเงินกว่า 150 ปอนด์ หรือราวๆ 6,500 บาท เหตุเพราะไม่มีใบอนุญาตขายของซะอย่างนั้น โถๆ น่าสงสารจังเลยลู๊กกกกก     จากการายงานระบุว่า ในขณะที่หนูน้อยกำลังทำน้ำมะนาวขายให้ผู้ที่มาร่วมงาน Lovebox Festival ซึ่งอยู่ใกล้บ้านของเธอในย่าน Mile End ทางตะวันออกของกรุงลอนดอนอยู่นั้น ก็มีทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขต Tower Hamlets เข้ามาบอกว่า หนูน้อยทำการซื้อขายโดยไม่มีใบอนุญาต และให้ทำการหยุดขายน้ำมะนาวทันที ทั้งนี้ ยังมีการสั่งปรับเป็นจำนวนเงินถึง 6,500 บาทอีกด้วย ทางด้าน Andre Spicer ผู้เป็นพ่อและอาจารย์จาก City University ได้ออกมากล่าวว่า “เธอถึงกับร้องไห้ออกมาตลอดทางหลังจากที่เจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดขาย เธอมัวแต่พูดกับผมว่า พ่อค่ะ หนูทำสิ่งที่ไม่ดีลงไป เธอรู้สึกลำบากใจมากๆ เพราะเธอรู้สึกภูมิใจที่ได้ขายน้ำมะนาว แต่ก็ได้รับประสบการณ์แย่ๆ กลับมา มันไม่ใช่ว่าเธอกำลังพยายามหารายได้มหาศาล…

  • หนุ่มสาวล่องเรือใช้ iPad นำทาง จู่ๆ เน็ตหายเลยหลงทาง แถมไปชนใส่เรือคนอื่นอีก เย้ยยย…!!

    หนุ่มสาวล่องเรือใช้ iPad นำทาง จู่ๆ เน็ตหายเลยหลงทาง แถมไปชนใส่เรือคนอื่นอีก เย้ยยย…!!

    จะว่าไปแล้วตัวอย่างของคนที่ใช้ระบบจีพีเอสนำทาง แต่ระบบอัจฉริยะเจ้ากรรมดั๊นพาไปโผล่อยู่กลางทุ่งนาบ้าง ที่รกร้างบ้าง ก็มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ บนหน้าเฟซบุ๊ก เหตุการณ์นี้ก็คล้ายๆ กันแต่ออกจะวุ่นวะวุ่นวายกว่านิดหน่อย โดยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเมโทรจากในประเทศอังกฤษ  ได้รายงานว่า David Carlin และภรรยาของเขา ได้ใช้จีพีเอสบนไอแพดล่องเรือไปตามสายน้ำแบบชิลๆ แต่เอาไปเอามากลายเป็นว่าเรือล่มซะงั้น!?   David Carlin วัย 34 ปี และภรรยาของเขา   โดยในวันเกิดเหตุพ่อหนุ่มได้นำเรือออกไปล่องกลางลำน้ำ ท่ามกลางหมอกจัด และควันหนา เจ้าตัวได้ใช้ระบบนำทางบนไอแพดในการเดินเรือ ทว่าพอเริ่มไกลจากฝั่งมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าตัวคงลืมคิดไปว่าสัญญาณเน็ตก็ดันไปไม่ถึง ทีนี้เลยก็ถึงกับงงเพราะไม่รู้ว่าควรจะขับเรือไปทางไหนท่ามกลางหมอกที่บังทางแบบนี้ พอรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองหลงทางเข้าให้แล้ว…   สภาพอากาศวันที่เกิดเหตุ ต้องยอมรับว่าทัศนวิสัยย่ำแย่มากจริงๆ   ด้วยความที่หมอกลงจัดทำให้มองไม่เห็นทาง เจ้าตัวขับเรืออยู่ดีๆ ก็เกิดเสียงดังโคร่ม!! แน่นอนครับเรือปิคนิคของแกไปชนเข้ากับเรือเฟอร์รี่ของชาวบ้านแถวนั้น และนั่นก็ทำให้เรือของเขาค่อยๆ จมลงอย่างช้าๆ นอกจากจะต้องเสียเรือไปหนึ่งลำแล้ว จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้เขาถูกปรับไปทั้งหมด 3,000 ยูโร (110,000 บาท) ข้อหาฝ่าฝืนกฏการเดินเรืออีกด้วย แถมยังโดนสังพักงานอีก ‘ตอนนั้นต้องบอกว่าโชคดีครับที่เราใส่เสื้อชูชีพไว้ ถ้าไม่อย่างนั้นผมและภรรยาคงจมไปพร้อมกับเรือแล้วแน่ๆ’ David ให้สัมภาษณ์…