Tag: โคล่า

  • ญี่ปุ่นเปิดตัวโมจิรสชาติใหม่ “โมจิโคล่า” ความแปลกใหม่ที่ลงตัว น่าซื้อมาลิ้มลองที่สุด

    ญี่ปุ่นเปิดตัวโมจิรสชาติใหม่ “โมจิโคล่า” ความแปลกใหม่ที่ลงตัว น่าซื้อมาลิ้มลองที่สุด

    มีใครที่ชอบทานโมจิยกมือขึ้น!! หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบความเหนียวนุ่มหอมหวานของโมจิละก็ คุณต้องไม่พลาดที่จะลองโมจิแบบใหม่ที่ต้องบอกว่าแปลกสุดๆกับ “โมจิโคล่า” แค่ชื่อก็ทำเอาคิดไม่ออกเลยว่าจะมีรสชาติเป็นยังไง ดังนั้นเราไปทำความรู้จักกับมันดีกว่าจ้า   “โมจิโคล่า” ลูกกลมๆ สีใสๆ แบบนี้นี่แหละ มองดูแล้วมันก็น่าทานดีอยู่หรอกแต่ว่ารสชาติของมันจะเป็นอย่างไรนะสิ จะซ่า จะสดชื่นเหมือนทานโคล่าจริงๆ หรือเปล่า คิดไม่ออกจริงๆ   โมจิชนิดนี้เป็นแบบ “วาราบิโมจิ” คือ ขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมชนิดหนึ่งที่หาทานได้ยากในปัจจุบัน วาราบิโมจิทำจากรากของต้นวาราบิ นำมาผสมกับ น้ำ และ น้ำตาลทานคู่กับผงถั่วเหลืองที่มีความคล้ายคลึงกับอบเชย   บริษัท Asuka Food ของญี่ปุ่นได้ครีเอทขนมใหม่ๆ ทำให้คนทานรู้สึกสนุกไปกับมัน อย่าง “โมจิโคล่า” ที่ได้เปิดตัวขึ้นมาสร้างความแปลกใจแก่ผู้บริโภคมากๆ ว่าจะเป็นรสชาติอย่างไร และด้วยรูปลักษณ์ที่ดูนุ่มหนึบ สีสันสวยงามก็ทำให้เหล่านักชิมอยากซื้อมาลิ้มลองกันบ้าง “โมจิโคล่า” คือการนำเอาขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่นมารวมกับรสชาติที่ทันสมัยซึ่งเด็กๆ น่าจะชอบมันเอามากๆ ส่วนราคาของมันยังไม่มีกำหนดแน่นอนแต่โมจิโคล่าจะจำหน่ายภายในเดือนเมษายนนี้ทั่วประเทศญี่ปุ่น ใครที่อยู่ญี่ปุ่นก็ขอฝากหิ้วมาหน่อยสิ ก็โมจิมาดูน่าทานสุดๆ กลัววางขายแล้วจะซื้อไม่ทันคนอื่นน่ะสิ     คนญี่ปุ่นนี้ชอบครีเอทขนมแปลกๆ มาให้ชาวเหมียวได้หิวกันตลอดเลยนะ ถ้าเจ้าโมจิโคล่านี้มาขายที่ไทยบ้างคงจะดี ที่มา en.rocketnews24

  • ร้านอาหารญี่ปุ่นคิดค้น “โคล่าจากข้าว” สีขาวๆ รสหวานๆ แต่โอ้ว มันขายแค่ในญี่ปุ่น!!

    ร้านอาหารญี่ปุ่นคิดค้น “โคล่าจากข้าว” สีขาวๆ รสหวานๆ แต่โอ้ว มันขายแค่ในญี่ปุ่น!!

    ถ้าจะพูดถึงเครื่องดื่มโคล่า ทุกคนน่าจะเห็นภาพของเครื่องดื่มสีดำๆ รสชาติหวานซ่า กินกับอาหารช่วยเพิ่มความอร่อยและสดชื่น แต่ถ้า#เหมียวฟิ้นจะบอกคุณว่าโคล่าไม่จำเป็นต้องเป็นสีดำอย่างเดียว แต่มีสีขาวแถมทำมาจากข้าวด้วย คุณจะเชื่อเราหรือเปล่า?   วันนี้เราจะพาคุณไปชมเครื่องดื่มสุดพิเศษจากร้านอาหารจากญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Kura Zushi กัน ที่ร้านอาหารแห่งนี้เป็นร้านซูชิสายพานที่เปิดทำการมานานนับ 10 ปี ซึ่งแน่นอนว่าวัตถุดิบที่พวกเขาเชี่ยวชาญและคุ้นเคยมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น ข้าว   แต่แล้ววันหนึ่งพวกเขาก็อยากจะต่อยอดให้กับข้าว ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของพวกเขา ด้วยการนำมันมาทำเป็นโคล่าที่ชื่อว่า Shari Cola สูตรลับเฉพาะที่มีแค่ที่ร้านของพวกเขาเท่านั้น ด้วยความพยายามที่จะสร้างเครื่องดื่มที่ไม่ซ้ำใคร ทางร้านจึงนำข้าวมอลต์ที่ปลูกในญี่ปุ่นมาหมัก การหมักนั้นจะช่วยเพิ่มรสชาติหวานๆ แถมยังมีการเติมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความสดชื่น   อันที่จริงแล้วเครื่องดื่มโคล่าข้าวนั้น ดัดแปลงมาจากเครื่องดื่ม Amazake ที่มีชื่อเสียงของเมืองเกียวโตอีกทีหนึ่ง ซึ่งทำมาจากข้าวมอล์ทเหมือนกัน ในอดีตนั้นเครื่องดื่มชนิดนี้จะเป็นที่นิยมมากในหน้าร้อน เพราะเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงาน และให้กรดอะมิโน 9 ชนิด ที่ร่างกายไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้   หากคุณอยากจะลองชิมเครื่องดื่ม Shari Cola ล่ะก็ อาจจะต้องใช้วิทยายุทธนิดนึง เพราะมันมีขายเฉพาะที่ร้าน Kura Zushi ในเกียวโตเท่านั้น ราคาอยู่ที่แก้วละ 65 บาท (ใครได้ไปแถวๆ นั้นฝากซื้อมาให้ #เหมียวฟิ้นสัก 2…

  • พาย้อนไปดู 50 แผ่นป้ายโฆษณา ‘Coca-Cola’ ตลอดระยะเวลา 120 ปีที่ผ่านมา!!!

    พาย้อนไปดู 50 แผ่นป้ายโฆษณา ‘Coca-Cola’ ตลอดระยะเวลา 120 ปีที่ผ่านมา!!!

    นับว่าเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมตลอดกาล Coca-Cola หรือโค้ก เครื่องดื่มน้ำอัดลมสีดำที่ช่วยทำให้ผู้คนดื่มรู้สึกสดชื่นมาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัยแล้ว ก็ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน และสิ่งหนึ่งที่เรามักจะเห็นเป็นเอกลักษณ์กันมาโดยตลอดก็คือการโฆษณาของ Coca-Cola นี่แหละ ยุคนี้เราจะได้เห็นการโฆษณาผ่านตาตามสื่อโทรทัศน์และอินเตอร์เน็ต แต่ในยุคก่อนๆ ส่วนมากจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์โปสเตอร์ประกาศต่างๆ เราจะมาย้อนกลับมาดูกันว่าเอกลักษณ์การโฆษณาในแต่ละยุคจะจี๊ดจ๊าดแค่ไหน   1889 .   1900   1907   1909   1910   1918 .   1920 . 1924 . 1927 . 1931   1933   1935   1936 .   1937 .   1942 .   1946   1947   1948   1949…

  • มันน่าลอง!! Pepsi ออกเครื่องดื่มใหม่ “1893” เครื่องดื่มรสชาติใหม่ที่มาจากโคล่าและน้ำตาลแท้ๆ

    มันน่าลอง!! Pepsi ออกเครื่องดื่มใหม่ “1893” เครื่องดื่มรสชาติใหม่ที่มาจากโคล่าและน้ำตาลแท้ๆ

    ใครที่ชื่นชอบรสชาติของเครื่องดื่มโคล่าจากแบรนด์ Pepsi แล้วล่ะก็ คุณอาจจะอยากลองเครื่องดื่มรสชาติใหม่ที่พวกเขาเพิ่งจะวางไปได้ไม่นานนี้ก็ได้ สำหรับเครื่องดื่มแบบใหม่ของ Pepsi ที่ใช้ชื่อว่า 1893      สาเหตุที่ Pepsi ต้องตั้งชื่อ 1893 ก็เพราะว่าเป็นปีค.ศ.ที่ Pepsi ก่อตั้งขึ้นมานั่นเอง สิ่งที่ทำให้เจ้า 1893 พิเศษกว่าเครื่องดื่ม Pepsi แบบปกติก็คือ มีการโฆษณากันว่าเครื่องดื่มตัวนี้มีส่วนผสมจากน้ำตาลแท้ มีสารสกัดจากธรรมชาติโคล่าแท้ๆ และมาจากการค้าที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย     เครื่องดื่ม 1983 จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 รสชาติ คือรสออริจินอลและรสขิงที่ออกมาเอาใจผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มแบบเผ็ดร้อน สามารถนำไปเป็นมิกเซอร์ผสมกับเครื่องดื่มอื่นๆ ได้ด้วย โดยใน 1 กระป๋องจะมีปริมาณ 12 ออนซ์ และจะวางขายในร้านค้าปลีกทั่วไปในสหรัฐ ส่วนประเทศไทยคงต้องรอไปก่อนนะจ๊ะ           ลองชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ไม่รู้ว่าเราจะสามารถหาซื้อได้ในเร็ววันนี้หรือเปล่า แต่บอกตรงๆ ว่าน่าลองมากจริงๆ ที่มา Pepsi , postjung , eater

  • อยากรู้มั้ยว่าทำไมโค้กขวดแก้วถึงมีรสชาติที่อร่อยกว่ารูปแบบอื่น? เป็นเพราะพื้นผิววัสดุยังไงล่ะ!!

    อยากรู้มั้ยว่าทำไมโค้กขวดแก้วถึงมีรสชาติที่อร่อยกว่ารูปแบบอื่น? เป็นเพราะพื้นผิววัสดุยังไงล่ะ!!

    ในที่นี้คงไม่มีใครรู้จักน้ำดื่มสีดำซ่าที่สร้างความสดชื่นให้กับมนุษย์มาหลายยุคหลายสมัย สองเจ้าดังๆ ก็จะเป็น โคคา-โคล่า (โค้ก) กับ เป๊บซี่ ซึ่งก็เป็นที่ถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้งว่า เจ้าไหนอร่อยกว่ากัน อันนี้ก็ต่างความคิดต่างความเห็นกันไป แล้วแต่บุคคล     และอีกประเด็นหนึ่งที่อาจจะมีบางคนรู้สึก (หรือหลายคน) ว่าโค้กแบบบรรจุในขวดแก้วนั้น เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว รสชาติยิ่งกว่าขวดที่บรรจุในขวดพลาสติกหรือแบบกระป๋องเสียอีก เออ!? แล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ล่ะ หรือว่าเรารู้สึกกันไปเอง     ด้วยความสงสัยนี้ นักชีวเคมีอันเป็นผู้ก่อตั้ง Science By Design คุณ Sara Risch ได้หาคำตอบมาคลายข้อสงสัยดังกล่าวแล้ว เหตุผลหลักๆ ก็มาจาก การที่ของเหลวทำปฏิกิริยากับวัสดุที่บรรจุ นั่นเอง     ‘ในการบรรจุผลิตภัณฑ์ของแต่ละบริษัทนั้นจะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาใดๆ ที่อาจจะส่งผลเสียหายต่อสินค้า’ โดยแบบกระป๋องนั้นจะมีการเคลือบพอลิเมอร์ เพื่อไม่ให้อลูมิเนียมดูดซับโมเลกุลของโซดาในเครื่องดื่ม แต่ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี ซึ่งทำให้รสชาติเครื่องดื่มเปลี่ยนแปลงไป     ในส่วนของขวดพลาสติกนั้นให้ผลตรงข้ามกัน กล่าวคือขวดพลาสติกจะถ่ายเทสารแอซีแทลดีไฮด์ (สารแต่งกลิ่น) เข้าไปในโมเลกุลของโซดา รสชาติก็เปลี่ยนไปอีก     คุณ Sara…

  • น่ากินมั่กๆ!! ยิ่งกว่าโค้กวุ้นก็คือ ‘โค้กขวดวุ้น’ ตัดแบ่งกินได้ ฟีลอารมณ์หนึบหนับมาเต็ม

    น่ากินมั่กๆ!! ยิ่งกว่าโค้กวุ้นก็คือ ‘โค้กขวดวุ้น’ ตัดแบ่งกินได้ ฟีลอารมณ์หนึบหนับมาเต็ม

    เห็นหัวข้อแบบนี้แล้วอาจจะรู้สึกไม่ค่อยแปลกใจอะไร เพราะว่าหลายๆ คนก็เคยทำ ‘โค้กวุ้น’ กันมาก่อน วิธีทำง่ายๆ ก็แค่เทน้ำโค้กใส่ภาชนะ แล้วนำไปแช่ช่องฟรีส รอให้มันแข็งตัวแล้วก็นำมากินคล้ายๆ กับสเลอปี้นั่นแหละ แต่สำหรับวิธีการนี้จะเป็นการทำโค้กวุ้นแบบเยลลี่กัมมี่แบร์ อ้าววว!! อ่านแล้วน่าสนใจดีใช่มั้ยเอ่ย มันน่ากิน น่าทำตามขนาดไหน #เหมียวเลเซอร์ ขอนำทุกท่านมาร่วมรับชมกัน ณ บัดนี้   ก่อนอื่นเลยคุณต้องมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ ขวดโค้กขนาดมาตฐาน (พลาสติก) เจลาติน 60 กรัม สก็อตเทป มีดหรือคัตเตอร์ และหม้อต้ม   ขั้นตอนแรกให้เทน้ำโค้กลงไปในหม้อต้ม จากนั้นก็ตามด้วยเจลาติน คนให้เข้ากัน นำไปตั้งบนเตาด้วยไฟอ่อนๆ เคี่ยวให้เดือดกรุ่นๆ   ในระหว่างที่กำลังต้มอยู่นั้น ก็ผลัดมาทำแม่แบบขวดวุ้น ค่อยๆ ลอกฉลากอย่างระมัดระวัง เก็บรักษาไว้ก่อน จากนั้นก็ใช้มีดหรือคัตเตอร์ผ่าขวดจากหัวถึงท้ายขวดยาวประมาณ 6 นิ้ว   ปิดแผลขวดที่เพิ่งผ่าไปด้วยสก็อตเทป หนาๆ หลายชั้นซักนิดนึง เพื่อกันของเหลวไหลทะลักออกจากขวด   หลังจากแปะสก็อตเทปเรียบร้อย นำโค้กผสมเจลาตินที่ต้มไว้มาเทใส่ขวด แล้วนำไปแช่ช่องฟรีส ปล่อยทิ้งไว้ทั้งคืน  …

  • รวม 18 เกร็ดความรู้และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแบรนด์ Coca-Cola น้ำดำในตำนานที่ยังมีชีวิต

    รวม 18 เกร็ดความรู้และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแบรนด์ Coca-Cola น้ำดำในตำนานที่ยังมีชีวิต

    ยอมรับเลยว่าเครื่องดื่มน้ำอัดลมหรือซอฟต์ดริ๊งค์สีดำที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ในตอนนี้มีเพียงยักษ์ใหญ่แค่ 2 รายเท่านั้นที่ยังฟาดฟันต่อสู้กันไม่หยุดหย่อน ค่ายสีฟ้า เป๊บซี่ และ ค่ายสีแดง โคคา-โคล่า (โค้ก) นั่นแหละ เอาเป็นว่าคราวนี้ขอชูเรื่องเกร็ดความรู้จากฝั่งค่ายสีแดงก่อนละกันเนอะ     บริษัทและสูตรต้นตำหรับ Coca-Cola ให้กำเนิดโดยเภสัชกร John S. Pemberton ในปีค.ศ. 1886 แต่ชื่อและโลโก้ที่เราเห็นกันนั้นเป็นความคิดของ Frank Robinson   Coca-Cola แต่เดิมเคยทำการตลาดว่าเป็นเครื่องดื่มบำรุงประสาท เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า   Coca-Cola ในช่วงแรกๆ นั้นเคยนำโคเคนมาเป็นส่วนผสมด้วย แต่ใช้เพียงแค่ 9 มิลลิกรัมต่อขวดเท่านั้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาอาการเสพติดฝิ่น ภายหลังในปีค.ศ. 1903 สั่งยกเลิกการนำโคเคนมาเป็นส่วนผสม   ในทุกวันนี้ ภานใต้ 3% ของแบรนด์เครื่องดื่มที่มีบนโลก อยู่ภายใต้การจดทะเบียนของ Coca-Cola (3% ก็ประมาณ 1.9 พันล้านยี่ห้อ)   มีเพียงเกาหลีเหนือและคิวบาเท่านั้น ที่ไม่การนำ Coca-Cola…