Tag: เสรีภาพ

  • เสรีภาพอินเทอร์เน็ตไทยอยู่ตรงไหน สรุปรายงานประจำปี 2017 คะแนนพุ่งอย่างต่อเนื่อง

    เสรีภาพอินเทอร์เน็ตไทยอยู่ตรงไหน สรุปรายงานประจำปี 2017 คะแนนพุ่งอย่างต่อเนื่อง

    ยุคสมัยปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคนมากขึ้น สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ในทันที และสามารถเลือกที่จะรับรู้ข้อมูลชุดต่างๆ ตามความสนใจของตัวเองได้ ทั้งนี้ ข้อมูลบางอย่างในบางประเทศไม่สามารถถูกนำเสนอได้ เนื่องจากยังคงมีเรื่องของข้อกฎหมายบังคับใช้อยู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยก็ตาม     ข้อมูลจากทางเว็บไซต์ Freedom House องค์กรไม่หวังผลกำไรระหว่างประเทศ ทำหน้าที่ประเมินระดับสิทธิเสรีภาพและส่งเสริมประชาธิปไตยในประเทศต่างๆ ทั่วโลกทุกปี โดยชุดข้อมูลล่าสุดในปี 2017 ได้ถูกประมวลผลนำเสนอออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว     ในส่วนนี้จะพูดถึงเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ต (Freedom on the Net) โดยภาพรวมในปี 2017 จากแผนภาพการจัดการสื่อโซเชียลจากหลายประเทศทั่วโลก พร้อมกับคะแนน 0 – 100 ยิ่งคะแนนสูง ยิ่งปิดกั้นเสรีภาพ สามารถแบ่งกลุ่มประเทศออกเป็น 4 กลุ่ม 4 สี ได้แก่ สีเขียว – มีเสรีภาพ สีเหลือง – มีเสรีภาพบางส่วน  สีม่วงอ่อน – ไม่มีเสรีภาพ และ สีเทา – ไม่มีการประเมิน…

  • ปาฐกถาของ “เนติวิทย์” ในนอร์เวย์ ชวนผู้เข้าร่วมลุกขึ้น ‘ชูสามนิ้ว’ เพื่อประเทศไทย

    ปาฐกถาของ “เนติวิทย์” ในนอร์เวย์ ชวนผู้เข้าร่วมลุกขึ้น ‘ชูสามนิ้ว’ เพื่อประเทศไทย

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ได้มีการเปิดเวที การประชุมนานาชาติว่าด้วยเสรีภาพ ครั้งที่ 10 ที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดยองค์กร Oslo Freedom Forum 2918 (OFF) ซึ่งในงานจะมีการแลกเปลี่ยนพูดคุยและบรรยายปาฐกถาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและเสรีภาพ สิ่งที่น่าสนใจก็คือเฟซบุ๊กเพจ ฉันจะบินมาตายตรงหน้าตัก ให้ยอดรักเช็ดเลือดและน้ำตา ได้โพสต์วิดีโอการปาฐกถาภายในงาน ในงานดังกล่าว นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เป็นผู้บรรยายในหัวข้อ นักศึกษาและกองทัพ (The Students and the Military)     เนื้อหาในหัวข้อที่ นายเนติวิทย์บรรยายจะเป็นเรื่องเกี่ยวการออกเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของนิสิตนักศึกษาและเยาวชน นับตั้งแต่สมัยเกิดรัฐประหารในปี 2557 ในการปาฐกถา นายเนติวิทย์ก็ได้เล่าเรื่องราวของตนในฐานะนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและเสรีภาพ เริ่มตั้งแต่การตั้งคำถามเรื่องทรงผมนักเรียน จนกระทั่งได้เข้าเรียนในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2559 เนติวิทย์บอกว่าตนเองพยายามเข้าร่วมเหตุการณ์สำคัญๆ และจัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศ เช่นในครั้งที่เชิญ โจชัว หว่อง มาพูดคุยเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยได้เคลื่อนไหว แต่สุดท้ายโจชัว หว่องก็ถูกคุมตัวและส่งกลับฮ่องกงไป นั่นทำให้เกิดความคิดที่ว่าประเทศไทยได้สูญเสียอิสรภาพไปแล้ว     ต่อมานายเนติวิทย์ก็ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ในวันถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนิสิตใหม่แรกเข้า นักศึกษาใหม่ทุกคนต้องหมอบกราบพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 แต่เนติวิทย์กลับเลือกที่จะยืนเพื่อรำลึกแทน จึงถูกเข้าใจว่าแข็งข้อ สุดท้ายเขาถูกปลดออกจากการเป็นประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปัจจุบันเนติวิทย์ถูกกล่าวหาคดีหลายข้อ…

  • 14 วาทะกรรมของ “Martin Luther King Jr.” ที่ทั้งให้แง่คิด และเปลี่ยนมุมมองต่อโลกของเรา!!

    14 วาทะกรรมของ “Martin Luther King Jr.” ที่ทั้งให้แง่คิด และเปลี่ยนมุมมองต่อโลกของเรา!!

    หากพูดถึงบุคคลที่มีอิทธิพลมากพอจะเปลี่ยนความคิดของคนทั้งโลกได้ล่ะก็ หลายคนคงจะนึกถึงยอดมนุษย์ในภาพยนต์ที่มีพลังเหนือธรรมชาติที่พร้อมจะต่อกรกับวายร้ายทั้งปวงได้ แต่ในชีวิตจริงก็มีชายคนหนึ่ง ที่แม้จะไม่มีพลังวิเศษใดๆ แต่ความคิดของเขานั้นก็สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้เช่นกัน เขาคือ Martin Luther King Jr. นักสู้เพื่อความยุติธรรม ที่ทุ่มเทเวลาตราบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้คน จนเป็นที่รู้จักดีทั่วโลก เขาเป็นผู้นำขององค์กร Southern Christiam Leadership Conference (SCLC) ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนของคนแอฟริกันและคนอเมริกัน   Martin Luther King Jr.   นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่ต่อสู้ด้วยวิธีสันติเท่านั้น เขาช่วยนำการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและความสงบของผู้คน จนเคยได้รับรางวัลโนเบลด้านสันติภาพมาแล้วในปี 1965 แถมยังนำเงินทั้งหมดที่ได้จากรางวัลนี้ไปให้กับกลุ่มสิทธิมนุษยชนอีกด้วย เขาเป็นนักพูดที่มีความสามารถ โดยคำพูดของเขามักจะเปี่ยมไปด้วยพลัง และแฝงไว้ซึ่งแนวคิดดีๆ เสมอ วันนี้เราจึงอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองมาฟังคำพูดที่ดังไปทั่วโลกของเขาดู เผื่อว่าทุกคนจะได้รับแรงบันดาลใจและแนวคิดที่ดีจากเขาบ้าง   1. “คำถามที่มีมาช้านานและสำคัญที่สุดในชีวิตคือ ‘คุณได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง?’ “   2. “ความเชื่อ คือการสร้างก้าวแรกในขณะที่คุณมองไม่เห็นทางเดินข้างหน้า”   3. “ความอยุติธรรมแห่งหนใดก็ตาม เป็นศัตรูต่อความยุติธรรมทั่วโลกทั้งสิ้น”   4. “ชีวิตของเราจบลง เมื่อเราเมินเฉยต่อสิ่งที่สำคัญ”  …

  • ‘PARC กลุ่มกบฏก่อการดี’ ยอมเสี่ยงถูกตำรวจจับ เพราะแอบไปซ่อมถนนให้ผู้คนในเมือง…

    ‘PARC กลุ่มกบฏก่อการดี’ ยอมเสี่ยงถูกตำรวจจับ เพราะแอบไปซ่อมถนนให้ผู้คนในเมือง…

    สำหรับปัญญาเรื่องพื้นถนนเป็นหลุมเป็นบ่อคิดว่าคนไทยน่ารู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งความจริงแล้วประเทศโลกพัฒนาอย่างอเมริกาก็เจอปัญหานี้เจอกันนะ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับชาวเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ประสบปัญหาถนนเป็นหลุ่มเป็นบ่อ ชาวเมืองจึงร้องเรียนไปทางรัฐเพื่อขอความช่วยเหลือให้มาซ่อมแซมถนน แต่ทว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ถนนก็ไม่ได้รับการซ่อมแซมเสียที ชาวเมืองจึงต้องหาทางออกโดยการซ่อมถนนกันเอง     ชาวบ้านได้ไปร้องขอให้กลุ่มชายฉกรรจ์ที่ตั้งชื่อกลุ่มตัวเองว่า PARC (Portland Anarchist Road Care) ให้มาช่วยซ่อมถนนให้ สาเหตุที่ชาวบ้านไม่ซ่อมเองแต่ต้องให้คนกลุ่มนี้มาซ่อมให้ก็เพราะว่าการซ่อมถนนโดยพลการถือว่าเป็นเรื่องผิดกฏหมายนั่นเอง   แต่สภาพแบบนี้ และทางภาครัฐยังไม่มาซ่อมให้ พวกเขาก็ทนไม่ไหว   ที่สำคัญกลุ่ม PARC ยังเป็นกลุ่มที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อซ่อมถนนโดยเฉพาะ พวกเขาจึงมีอุปกรณ์ในการซ่อมถนนเพียบพร้อมสุดๆ เราลองไปอ่านคำแถลงการณ์ที่พวกเขาเขียนขึ้นมากันดีกว่า… “เพราะพวกเราเชื่อมั่นในการหาทางออกของชุมชนในปัญหาที่เรากับเผชิญโดยไม่ต้องมีรัฐมาช่วย เพราะสังคมมองกลุ่มคนแบบเราแค่ว่า พวกเราจะพังข้าวของ พวกเราจะปิดถนนประท้วงเท่านั้น เพราะพวกเราต้องเจอกับปัญหานี่อยู่เรื่อยๆ จนเราต้องถามกับตัวเองว่า แล้วใครล่ะจะเป็นคนซ่อมถนน? เพราะรัฐบาลของเมืองพอร์ตแลนด์ปฏิเสธที่จะซ่อมถนนพวกนี้”     “พวกเราคือ PARC พวกเราเชื่อว่าเราสามารถจัดการปัญหานี้ได้ดีกว่ารัฐอย่างแน่นอน รัฐที่เอาแต่จ่ายเงินให้กับตำรวจเพื่อให้พวกเขามายึดสิทธิเสรีภาพในการพูดของเราไป มากกว่าจะมาสนใจและซ่อมแซมท้องถนน” เมืองพอร์ตแลนด์ได้แสดงให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่ออย่างใหญ่หลวง ในการดูแลป้องกันที่ไม่เพียงพอในช่วงพายุฤดูหนาวและการซ่อมแซมหลุมบ่อก็เกิดขึ้นอย่างเชื่องช้า ทั้งๆ ที่สถาพอากาศก็ดีขึ้นทุกวันๆ     ปัจจุบันความประมาทนี้กลายเป็นอันตรายต่อชาวเมืองและทำให้เกิดความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้คน แถมยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะชนรวมถึงอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ พวกเรา PARC จึงรวมรวบกลุ่มคนจากชุมชนของเราเพื่อช่วยกันดูแลถนนที่เป็นปัญหาของเราเอง พวกเราจะสร้างสังคมที่ดียิ่งขึ้นและจัดการปัญหาถนนในเมืองของเราให้หมดไป รวมถึงการขยายตัวไปเมืองอื่นๆ ด้วย”  …

  • 10 อันดับประเทศที่โดนจำกัด ‘เสรีภาพทางการใช้อินเตอร์เน็ต’ มากที่สุดในปี 2016

    10 อันดับประเทศที่โดนจำกัด ‘เสรีภาพทางการใช้อินเตอร์เน็ต’ มากที่สุดในปี 2016

    เรียกได้ว่าเรื่องของ ‘สิทธิ และเสรีภาพ’ ในการใช้อินเตอร์เน็ต เป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน บางฝ่ายอาจจะมองว่า ไม่เหมาะสมที่ประชาชนจะถูกริดรอนเสรีภาพในการแสดงออก หรือรับข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกบนอินเตอร์เน็ต ในขณะเดียวกันอีกฝ่ายหนึ่งก็อาจจะมองว่า การควบคุมทั้งหมดนั้นเป็นไปเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ แน่นอนว่าประเด็นนี้กำลังมาแรงสุดๆ โดยเฉพาะในบ้านเราตอนนี้ ที่กำลังจะมีการร่าง ‘พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่’ ขึ้นมา และเป็นอย่างที่เราทุกคนทราบกันดีว่า มีหลายคนที่ออกตัวไม่เห็นด้วย ด้วยประเด็นที่กำลังร้อนแรงในตอนนี้ #เหมียวบ็อบ จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ 10 ประเทศทั่วโลกที่ได้รับการจัดอันดับจาก ‘FOTN’ (Freedom on the Net) ประจำปี 2016 โดยใช้หลักเกณฑ์ตามแผนผังดังนี้…   จากจำนวนประชากรทั่วโลกทั้งหมดที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ต ‘FOTN’ ได้แบ่งไว้เป็น 4 กลุ่ม สีเขียวคือกลุ่มที่ใช้งานได้อย่างเสรี สีเหลืองคือถูกควบคุมบ้างในบางส่วน สีม่วงคือไม่มีเสรีภาพในการใช้ ส่วนสีเทาคือกลุ่มที่ไม่มีข้อมูล เช่นเกาหลีเหนือ เป็นต้น   เมื่อนำมาเทียบบนแผนที่โลกแล้ว ก็จะสามารถแบ่งสีตามประเทศต่างๆได้ดังนี้ (ของไทยเราจัดว่าอยู่ในกลุ่มสีม่วง = ไม่มีเสรีภาพในการใช้)   จากจำนวน 65 ประเทศทั้งหมดที่ ‘FOTN’ ได้ทำการศึกษาข้อมูล…

  • ชายหนุ่มประดิษฐ์ “เจ็ตแพ็ค” บินรอบเทพีเสรีภาพ ไฮเทคอย่างกับหนัง 007!!

    ชายหนุ่มประดิษฐ์ “เจ็ตแพ็ค” บินรอบเทพีเสรีภาพ ไฮเทคอย่างกับหนัง 007!!

      เทคโนโลยี “เจ็ตแพ็ค” นั้นถือเป็นเรื่องที่ไกลตัวเอามากๆ เราคงเคยเห็นมันจากในหนังมากมายหรือจะเป็นในเกม แต่ในชีวิตจริงนั้นเหมียวยังไม่เคยเห็นใครสร้างมันได้แล้วก็สามารถบินได้จริงๆเลย ในเว็บไซต์ JetPack Aviation เขาได้พัฒนาเครื่องเจ็ตแพ็คมานานกว่า 40 ปี แล้ว ซึ่งก็คือเมื่อปี 1970 ซึ่งเป็นตอนที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวไกลมาจนถึงตอนนี้ และเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เขาก็ได้ปล่อยคลิปการทดลองใช้เครื่องเจ็ตแพ็ค โดยบินอยู่รอบเทพีเสรีภาพ ถือเป็นเจ็ตแพ็คอันแรกของโลกเลยก็ว่าได้ที่สามารถพามนุษญืบินขึ้นสูงได้เพียงนี้ จากเมื่อก่อนที่เคยมีเจ็ตแพ็ตออกมาก่อนหน้านี้แล้วซึ่งใช้พลังงานเหมือนจรวดและเป็นแบบไอน้ำ แต่ครั้งนี้จะใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ไอพ่นของแท้ ซึ่งทำความเร็วได้ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งยังบินได้สูงถึง 3 กิโลเมตรได้เลย   เราไปชมคลิปการบินของเครื่องเจ็ตนี้กันเลยดีกว่า   อนาคตเราอาจจะได้เห็นคนขี่เจ็ตแพ็คบินว่อนเต็มท้องฟ้าเลยก็เป็นได้นะ ที่มา lifebuzz