Tag: อยู่ร่วมกัน

  • ผัวทนเมียไม่ไหว อยู่ด้วยกันมา 8 ปีใช้ห้องน้ำเละเทะเรี่ยราด ต้องจัดการด้วยบัญญัติ 7 ประการ

    ผัวทนเมียไม่ไหว อยู่ด้วยกันมา 8 ปีใช้ห้องน้ำเละเทะเรี่ยราด ต้องจัดการด้วยบัญญัติ 7 ประการ

    ในการอาศัยอยู่ร่วมกันของคนหลายคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคู่รักก็ตาม เราควรจะต้องตกลงกับผู้ร่วมอาศัยว่าจะต้องมีกฎเกณฑ์การอยู่ร่วมกันอย่างไรบ้าง มิเช่นนั้นมันอาจจะเกิดเป็นปัญหาเรื้อรังจนแตกหักกันได้ สาว Kath Rose นั้นแต่งงานกับสามีมา 8 ปีแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้สามีของเธอเขียนจดหมายถึงเธอฉบับหนึ่งเนื่องจากทนพฤติกรรมการใช้ห้องน้ำของเธอไม่ไหวแล้ว โดยในจดหมายระบุกฎการใช้ห้องน้ำที่เขาอยากให้เธอทำตาม 7 ข้อด้วยกัน   จดหมายของสามีถึงภรรยา   เนื้อหาในจดหมายของเขากล่าวถึงการรักษาความสะอาดในห้องน้ำเป็นส่วนใหญ่ เช่น เขาอยากให้เธอปิดฝายาสีฟันหลังใช้ อยากให้เธอเอาขยะออกไปทิ้ง และอยากให้เธอกดชักโครกทุกครั้งด้วย นอกจานั้นก็เป็นเรื่องของสิ่งที่เขาไม่อยากให้เธอใช้ร่วมกับเขา และทิ้งท้ายไว้ว่าเขารักเธอนะแต่ช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ห้องน้ำทีเถอะ เธอบอกถึงความคิดเห็นที่มีต่อจดหมายฉบับนี้ว่า “นี่น่าจะเป็นการเขียนเตือนในแบบของเขาเฉยๆ แต่มันก็เป็นการเขียนเตือนครั้งแรกจากสามีของฉัน ฉันหวังว่ามันจะเป็นการเตือนครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้รับ … เขาชี้ให้ฉันเห็นแล้วว่ากฎระเบียบการใช้ห้องน้ำร่วมกันนั้นสำคัญมากแค่ไหน และยังทำให้ฉันรู้ด้วยว่าการเตือนกันตรงๆ นั้นก็สำคัญด้วย การใช้ห้องน้ำร่วมกันของเราอาจจะบ่งบอกก็ได้ว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นเป็นอย่างไร”       Zarife Hardy ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนมารยาทแห่งประเทศออสเตรเลียเองก็บอกเช่นกัน ว่าการใช้ห้องน้ำร่วมกันมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการอยู่ร่วมกัน เธอกล่าวถึงกฎการอยู่ร่วมกันข้อหนึ่งว่า “ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญในการอยู่ร่วมกัน คุณควรจะรักษาความสะอาดและไม่ทิ้งข้าวของไว้ระเกะระกะ ยิ่งเมื่อตอนคุณใช้ห้องน้ำแล้วโปรดอย่าทำให้ห้องน้ำสกปรกไม่ว่าจะเป็นการใช้ส้วมหรืออ่างล้างหน้าก็ตาม” เธอย้ำอีกว่าไม่มีใครอยากเข้ามาใช้ห้องที่สกปรกต่อหรอก     จดหมายฉบับนี้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียลและจุดประเด็นสนทนาในหมู่ชาวเน็ตเอง แม้ว่าชาวเน็ตส่วนใหญ่จะรู้สึกตลกกับจดหมายฉบับนี้แต่ก็มีชาวเน็ตบางส่วนไม่พอใจที่สามีของ Rose เขียนจดหมายเช่นนี้   ทำไมไม่พูดกันตรงๆ เขาขี้ขลาดมาก ถ้าฉันได้รับจดหมายแบบนี้ฉันคงโกรธมากแน่ๆ   ชาวเน็ตอีกส่วนหนึ่งก็เห็นใจและเข้าข้างฝั่งสามีที่เขียนจดหมายขึ้นมา…

  • โบสถ์คริสต์ ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ มัสยิด ที่นี่ไม่มีความรุนแรง แต่เต็มไปด้วยมิตรภาพ…

    โบสถ์คริสต์ ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ มัสยิด ที่นี่ไม่มีความรุนแรง แต่เต็มไปด้วยมิตรภาพ…

    บ่อยครั้งที่เรามักจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับการก่อการร้าย จากกลุ่มหัวรุนแรง ตามสถานที่ต่างๆทั้งในยุโรป ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกาเองเช่นกัน ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้หลายๆคน รู้สึกเกรงกลัวต่อผู้นับถือศาสนาอิสลาม (Islamophobia) ซึ่งอันที่จริงเราควรจะแยกกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ใช้ศาสนาเป็นข้ออ้าง ออกจากกลุ่มผู้บริสุทธิ์ที่มีจิตใจศรัทธาต่อศาสนาอิสลาม ไม่ใช่หรือ?! และสำหรับสังคมแห่งนี้ ที่นี่มีโบสถ์ของชาวคริสต์ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับมัสยิดของชาวอิสลาม และพวกเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกันบนความแตกต่าง อย่างมีความสุข…   เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อ Memphis Islamic Center ตัดสินใจซื้อที่ดินบนถนนตรงข้ามกับโบสถ์ Heartsong “ครั้งแรกที่เห็นผมกลับรู้สึกแปลกๆ มีทั้งความกลัว และความรู้สึกที่เราบอกกับตัวเองว่า อย่าไปสนใจจะดีกว่า” บาทหลวง Steve Stone กล่าว   นอกจากบาทหลวงแล้ว สมาชิกคนอื่นๆในโบสถ์ก็ต่างรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง “ผม และภรรยาเคยคิดว่าจะไม่มาที่โบสถ์นี้อีก เพียงเพราะเราไม่เปิดใจยอมรับถึงการเปลี่ยนแปลง” Mark Sharpe สมาชิกคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ ซึ่งแม้แต่ผู้นำทางศาสนาของอิสลาม Dr. Bashar Shala กลับเข้าใจถึงสถานการณ์ดี ทำให้เค้าไม่แปลกใจที่ใครหลายๆคนอาจรู้สึกไม่ต้อนรับกลุ่มผู้นับถืออิสลาม “มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับชาวมุสลิมในอเมริกา ซึ่งผมเข้าใจว่าในสถานการณ์แบบนี้ พวกเขาคงไม่อยากจะต้อนรับเราสักเท่าไหร่”     ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเมื่อช่วงเดือนรอมฏอนของชาวมุสลิมมาถึง… Shala ต้องการที่จะให้มัสยิดแห่งใหม่สร้างเสร็จก่อนช่วงถือศีลอดมาถึง แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง ทำให้พี่น้องชาวมุสลิมในชุมชน ยังไม่มีสถานที่สำหรับการทำพิธีทางศาสนา…