Tag: สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

  • ทีมนักวิทย์ฯ ขุดพบโครงกระดูก  ‘วัวทะเลชเตลเลอร์’ สัตว์โบราณที่สูญพันธุ์ไปเกือบ 300 ปี

    ทีมนักวิทย์ฯ ขุดพบโครงกระดูก ‘วัวทะเลชเตลเลอร์’ สัตว์โบราณที่สูญพันธุ์ไปเกือบ 300 ปี

    พวกเราคงไม่มีโอกาสได้เห็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วแบบตัวเป็นๆ แต่อย่างน้อยเราก็อาจได้เห็นซากของมันเหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ที่ได้ไปเจอเข้ากับโครงกระดูกของสัตว์น้ำขนาดมหึมาที่ได้สูญพันธ์ไปเมื่อนานมาแล้ว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งหมู่เกาะคอมมานเดอร์ บนคาบสมุทรคัมชัตคา ในประเทศรัสเซีย เมื่อพวกเขาได้ขุดไปเจอกับซากโครงกระดูกของสัตว์ทะเลที่สูญพันธุ์ไปแล้วนั่นก็คือ “วัวทะเลชเตลเลอร์”   . . .   การค้นพบในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้ตรวจการสาว Maria Shitova ที่สังเกตเห็นซี่โครงของโครงกระดูกยื่นขึ้นมาเหนือพื้นดิน จนทำให้การขุดลงไปหาความจริงนานกว่า 8 ชั่วโมงได้เริ่มต้นขึ้น พวกเขาได้พบกับกระดูกสันหลังจำนวน 45 และกระดูกส่วนสะบัก ซี่โครง และอื่นๆ รวมกันอีก 25 ชิ้น ซึ่งมองไกลๆ เราก็คงคิดว่านั่นมันคือรั้วบ้านชัดๆ เพราะกระดูกของมันมีขนาดใหญ่มากจริงๆ และการขุดลงไปก็ไม่พบกะโหลกศีรษะของเจ้าสัตว์ที่สุญพันธุ์ไปแล้วตัวนี้   . .   อย่างไรก็ตามสิ่งที่พบก็ไม่แปลกที่จะสามารถเจอได้บนเกาะนี้ เพราะในอดีต ที่นี่คือแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมัน และเป็นบริเวณเดียวกันกับที่ทุกคนได้รู้จักกับสัตว์ชนิดนี้เป็นครั้งแรก โดยนาย Georg Steller ได้ค้นพบพวกมันในปี 1741 และตั้งชื่อให้กับเจ้าสัตว์สายพันธุ์พะยูนตัวนี้ว่า “วัวทะเลชเตลเลอร์ (Steller Sea Cow)” แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าสัตว์ชนิดนี้ได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18 หลังจากถูกมนุษย์ล่าอย่างหนัก   . . .…

  • กวางเปลี่ยนไป๋!! กวางอัธยาศัยดี ชอบเข้าไปหอมแก้มกับสัตว์นานาชนิด ตั้งแต่แมวยันจิ้งจอก

    กวางเปลี่ยนไป๋!! กวางอัธยาศัยดี ชอบเข้าไปหอมแก้มกับสัตว์นานาชนิด ตั้งแต่แมวยันจิ้งจอก

    สัตว์โลกบางทีก็มีมุมตลกๆ ให้เราได้หัวเราะกันอยู่เสมอๆ เหมือนกับเหตุการณ์นี้ที่มีกวางอยู่ตัวหนึ่งไล่หอมแก้มเขาไปทั่วแต่ไม่ใช่หอมแก้มแต่กับพวกเดียวกับมันนะแต่เป็น แมว แรคคูน จิ้งจอก กลับตกเป็นเหยื่อของมันแทน Michael Cove นักชีววิทยาได้ซ่อนกล้องไว้ตามจุดต่างๆ ในเกาะ Florida Keys เพื่อศึกษาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่ใกล้สูญพันธุ์ แต่ภาพที่กล้องจับได้กลับเป็นภาพของกวางป่าพันธุ์ Key deer ตัวหนึ่งที่ชอบเอาปากของมันไปคลอเคลียๆ กับสัตว์ชนิดอื่นอย่างน่ารักน่าเอ็นดูเลยล่ะ     โดย Cove ได้บอกไว้ว่าเขาศึกษาสัตว์อย่างแรคคูนและสัตว์กินเนื้ออื่นๆ มาเป็นเวลากว่าเกือบ10 ปี และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่าแรคคูนมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ชนิดอื่น “เราได้ภาพจากกล้องที่ซ่อนไว้กว่า 80 ภาพที่แสดงให้เห็นว่ากวางตัวนี้คลอเคลียกับแรคคูนอีก 2 ตัว” “แรคคูนตัวหนึ่งทำความสะอาดหน้าของกวางจนเกลี้ยงโดยใช้เวลาประมาณ 1 นาที นี่ถือว่าเป็นการปฏิสัมพันธ์ที่แปลกมาก เพราะว่าเจ้ากวางดูเหมือนไม่มีความกังวลและเต็มใจที่จะให้เจ้าแรคคูนทำอย่างนั้น” Cove กล่าว     และไม่ใช่ Cove คนเดียวเท่านั้นที่งุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Chris Lowe นักวิทยาศาสตร์อีกคนหนึ่งที่ปกติจะสนใจแต่เรืองฉลาม แต่เขาได้เห็นเหตุการณ์สุดแปลกที่เกาะ Catalina เมื่อกวางตัวหนึ่งเลียหัวของสุนัขจิ้งจอกอย่างเป็นมิตร สร้างความแปลกปละหลาดใจให้เขาเป็นอย่างมาก   .   Cove ได้ตั้งสมมุติฐานไว้ว่ากวางที่เติบโตมาบนเกาะทั้งสองนั้น รู้สึกกลัว “นักล่า” น้อยลง หลังจากที่เหล่านักล่าค่อยๆ…

  • ตกใจ!! เมื่อ “วาฬสีเทา” หลงฝูงมาว่ายน้ำเล่นกับมนุษย์ที่ชายหาดลากูน่าแบบชิลล์ๆ

    ตกใจ!! เมื่อ “วาฬสีเทา” หลงฝูงมาว่ายน้ำเล่นกับมนุษย์ที่ชายหาดลากูน่าแบบชิลล์ๆ

    เวลาที่เราไปว่ายน้ำเล่นกันตามชายหาดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เจอกับสิ่งมีชีวิตในน้ำแหวกว่ายกันอยู่รอบตัวเรา และยากกว่าหากจะได้เจอวาฬตัวเป็นๆ มาว่ายน้ำโชว์ตัวอยู่ใกล้กับชายหาดขณะที่เราเล่นน้ำกันอยู่เหมือนกับเหตุการณ์นี้ เมื่อมีคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายมุมสูงจากกล้องที่ติดกับโดรนบินขึ้นไปเห็นเจ้าวาฬสีเทากำลังว่ายน้ำ ผุดๆ โผล่ๆ บริเวณห่างจากชายหาดลากูน่าไปไม่มากนัก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย     วาฬตัวดังกล่าวถูกพบที่ท่าเรือ Dana Point ก่อนที่มันจะหลงทางอยู่บริเวณนั้นเป็นเวลา 2 ชั่วโมง สร้างความตกตะลึงและงุนงงกับสัตว์ขนาดใหญ่ที่แหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการที่จะได้เห็นวาฬสีเทาที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 9 ของวาฬทั้งหมดว่ายมายังชายหาดที่มนุษย์กำลังเล่นน้ำกันอยู่ แถมยังมาแบบชิลล์ๆ อีกต่างหาก   คลิปวิดีโอวาฬหลงฝูงมาชายหาดลากูน่า ที่ถ่ายได้จากโดรน   และท้ายที่สุดมันก็ได้ว่ายกลับขึ้นฝั่งและตรงไปยังอลาสก้าที่ซึ่งกำลังมีการให้อาหารกลุ่มปลาวาฬสีเทาอยู่ในขณะนั้น   ภาพของวาฬสีเทา สายพันธุ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 จากวาฬทั้งหมด .   การที่มันต้องว่ายมาให้เราเห็นกันแบบสบายๆ อย่างนี้ก็ทำให้เข้าใจได้ว่าสัตว์ที่มีขนาดใหญ่อย่างมันไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไร แต่ถึงอย่างไรก็คงต้องระวังกับการตีหางของมันอย่างในวิดีโอซะหน่อย โดนไปคงสลบจมน้ำได้เลยทีเดียว   ที่มา: iflscience

  • “Max” ลิงซ์แคนาดา แมวป่าที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์ จนกลายเป็นเจ้าเหมียวขี้เล่นตัวหนึ่ง

    “Max” ลิงซ์แคนาดา แมวป่าที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์ จนกลายเป็นเจ้าเหมียวขี้เล่นตัวหนึ่ง

    “แมว” ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่กับมนุษย์มานานแสนนานเหลือเกิน อีกทั้งมันยังเป็นสัตว์ที่มีความน่ารักมุ้งมิ้ง ทำให้มนุษย์หลงใหลในตัวตนของมันอยู่เสมอ นั่นอาจจะเป็นเพราะนิสัยที่ขี้อ้อน หรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมัน จึงทำให้เข้าไปอยู่ในใจมนุษย์ได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม แมวสายพันธุ์อย่างสฟิงซ์ สก๊อชติชโฟลด์ หรือมัชกิน หลายๆ คนอาจจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เนื่องจากมันพบง่าย และมีให้เห็นอยู่ทั่วๆ ไป แต่ทว่ามีแมวอยู่ประเภทหนึ่งที่เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นตาสักเท่าไหร่ แถมยังใกล้สูญพันธุ์ไปแล้วเต็มที ในวันนี้เราจึงอยากจะพาพวกมันมาให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันสักหน่อย และเจ้าสัตว์ที่ว่าก็คือ “ลิงซ์แคนาดา” (Canadian Lynx)  นั่นเอง     สำหรับลิงซ์แคนาดา เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในวงศ์ของ Felidae มันเป็นแมวที่มีขนหนา มีสีน้ำตาลอ่อนผสมเทา ซึ่งสร้างความโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ให้มันเป็นอย่างมาก ส่วนบริเวณใบหน้าจะมีแผงขนค่อนข้างยาว รวมถึงบริเวณหูจะมีขนขึ้นมาเป็นก้อนหนาและนุ่ม เพื่อป้องกันความหนาวที่เกิดขึ้นและสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายของมัน บริเวณของอุ้งเท้าและขานั้นจะมีขนาดใหญ่ โดยทั่วไปแล้วแมวสายพันธุ์นี้จะมีขนาดที่ใหญ่ไม่มากนัก มีความยาวลำตัว 76-106 เซนติเมตร หนักประมาณ 8-11 กิโลกรัม มักพบในประเทศแคนาดาและรัฐอะแลสกา รวมทั้งบางส่วนทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา     และนี่คือเจ้า “Max” ลิงซ์แคนาดา วัย 6 ขวบ ที่เราจะพามาให้เพื่อนๆ…