Tag: สักทั้งตัว

เรื่องราวชีวิตของนาย Adam Curlykale หนุ่มชาวโปแลนด์ที่รอดชีวิตมาจากโรคมะเร็งร้าย สู่การเป็นนายแบบที่ถ่ายแบบแนวดาร์กได้อย่างมืดมนสุดๆ จากความชอบส่วนตัวของเขาที่ทำการสักทั่วทั้งตัวมากกว่า 90% ของร่างกายรวมไปถึงดวงตา มันเริ่มเกิดขึ้นหลังจากที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งชนะ     หลายๆ คนอาจจะเป็นห่วงเรื่องรูปลักษณ์ของเขาที่ดูแปลกไปจากมนุษย์มนา แต่ตัวของ Adam เองไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกมั่นใจมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ และต้องการที่จะเปิดเผยตัวเองผ่านวงการนายแบบรูปแบบใหม่ และขอบอกเลยว่าแม้มันจะดูดาร์ก แต่ขณะเดียวกันก็เจ๋งไม่เบาเลยล่ะ     “ในการเปลี่ยนแปลงแต่ละอย่างย่อมมีความเสี่ยงที่ถูกขับไล่ออกไปจากสังคม และต้องจมปลักอยู่กับความโดดเดี่ยว แต่คุณไม่สามารถมาเปลี่ยนหรือครอบงำมุมมองของผมที่มีต่อโลกใบนี้ได้” Adam กล่าว     สำหรับเขาแล้วการสักทั้งตัวมันทำให้เขากลายเป็นมากกว่ามนุษย์ หรือยอดมนุษย์อย่างที่ใครนิยามเอาไว้ “รอยสักทำให้ผมสามารถค้นพบตัวเองได้อีกครั้ง ผมรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองสวยงาม ผมเป็นคนออกแบบรอยสักแต่ละที่ เลือกได้ว่าจะสักอะไรไว้ตรงไหน เพราะมันคือร่างกายของผม” “ผมมีมุมมองที่เฉพาะเจาะจงเป็นของตัวเอง และผมก็ค่อยๆ ทำมันไปทีละเล็กละน้อย ชีวิตน่ะมันสั้นนะ ผมเลิกคิดไปแล้วล่ะว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้บ้าง ชีวิตมันคือตรงนี้และตอนนี้ต่างหาก”   . . . . .   แม้จะดูหม่นๆ ไปบ้างแต่ขอบอกเลยว่างานถ่ายแบบของเขามันเจ๋งริงๆ   ภาพสวย องค์ประกอบสวย บวกกับการคุมโทนที่เพอร์เฟกต์ .…

สำหรับคนที่ชื่นชอบในรอยสักและการสัก อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อเห็นคนที่มีรอบสักทั้งตัว แต่ก็มีชายชาวอังกฤษคนหนึ่งกลับไม่ได้สักเหมือนกับคนอื่นทั่วไป     หนุ่มนักศิลปะบนเรือนร่างชาวอังกฤษอายุ 27 ปีที่มีชื่อว่า Eli ได้ใช้เวลากว่าสิบปีเพื่อเปลี่ยนตัวเองให้มีผิวดำทั้งตัวด้วยรอยสัก รวมถึงการย้อมสีลูกตาและการเจาะจมูกและปาก เนื่องจากเขาสนใจในศิลปะบนเรือนร่างหลังจากที่เห็นรอยสักชนเผ่าของลุงของเขาเมื่อตอนเด็กๆ     Eli กล่าวว่า “ผมชื่นชอบในงานศิลปะอยู่แล้ว ปิกัสโซคือแรงบันดาลใจของผมตั้งแต่ยังเป็นเด็ก โดยเฉพาะศิลปะแนว Abstract แต่ผมชอบศิลปะทุกรูปแบบอยู่แล้ว ศิลปะบนเรือนร่างนั้นเป็นแค่อีกก้าวหนึ่งของผมในการเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่”   ภาพถ่ายของ Eli ในอดีตก่อนที่ทั้งร่างกายจะเป็นสีดำ   เขากล่าวว่า “ผมอยากเป็นเหมือนกับตัวละครในงานศิลปะของปิกัสโซ ผมชอบความ Abstract ของมัน ซึ่งอาจจะดูไม่มีความคิดแต่เป็นการแสดงความรู้สึกล้วนๆ” เขายังสักข้างในปากและย้อมสีลูกตาเขาให้กลายเป็นสีดำอีกด้วย ซึ่งเขายอมรับว่ามันเป็นการกระทำที่ค่อนข้างเสี่ยง     Eli กล่าวว่างานศิลปะของเขานั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์และจะไม่มีวันเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเขาจะทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อทำให้ผลงานของเขานั้นออกมาสมบูรณ์แบบ นอกจากนั้นเขายังเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มวัฒนธรรมย่อยที่เรียกตัวเองว่า Modern Primitives ที่เคารพวัฒนธรรมโบราณต่างๆ ที่นำมาเป็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่นรอยสัก     เขาได้เจาะร่างกายหลายส่วนรวมถึงที่จมูกและริมฝีปาก และการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอื่นๆ เช่นการสร้างรอยแผลให้กับร่างกายให้กลายเป็นแผลเป็นและการปรับเปลี่ยนรูปร่างของติ่งหู เขากล่าวว่า “การที่ได้รับปฏิบัติจากคนรอบข้างในสังคมที่ดีก็คือคำชมเล็กๆ น้อยๆ ที่ฟังดูชื่นใจ…