Tag: บทลงโทษ

  • เปิดบทลงโทษแท็กซี่ในประเทศต่างๆ หาก “ปฏิเสธผู้โดยสาร” ถูกปรับเท่าไหร่ รุนแรงแค่ไหน?

    เปิดบทลงโทษแท็กซี่ในประเทศต่างๆ หาก “ปฏิเสธผู้โดยสาร” ถูกปรับเท่าไหร่ รุนแรงแค่ไหน?

    “ไม่ครับไปส่งรถ” “ไปเติมแก๊ส” “เส้นนั้นรถติดครับพี่” “ราคาเหมาได้ไหมครับ” และอีกสารพัดคำตอบอันหนักแน่นจากเหล่าแท็กซี่ผู้น่ารัก ที่เรามักจะได้ยินเวลาที่เราอยากจะโบกรถแท็กซี่แอร์เย็นๆ สักคันกลับบ้านไปพักผ่อน ด้วยปัญหาการที่แท็กซี่หลายๆ คันเลือกรับผู้โดยสาร และขอค่าโดยสารเป็นราคาแบบเหมาๆ ก็ยิ่งทำให้ผู้โดยสารอย่างเรารู้สึกท้อแท้ในการเรียกพี่ๆ ทั้งหลาย และถึงจะมีการจดป้ายทะเบียนแล้วนำไปร้องเรียนกับกรงขนส่ง แต่พวกพี่ๆ แท็กซี่จะก็ถูกปรับเพียง 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งดูจะไม่รุนแรงเท่าที่หลายๆ คนคาดหวังไว้     ภาพของพี่ๆ แท็กซี่ที่พากันปฏิเสธผู้โดยสารในวันฝนตกช่วงต้นเดือนเมษายน 2018 ที่ผ่านมา (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่)   จากค่าปรับเพียง 1,000 บาทที่เราเห็น ก็เลยทำให้หลายๆ คนสงสัยกันมากว่าในต่างประเทศล่ะ มีบทลงโทษสำหรับการปฏิเสธผู้โดยสารยังไงบ้าง? และนอกจากการปฏิเสธผู้โดยสารแล้วมีกรณีไหนอีกไหมที่พวกเขาจะถูกปรับ? ลองมาไล่ดูกันไปเป็นข้อๆ เลย 1. เกาหลีใต้ อย่างกรณีแรกนี้เป็นเรื่องราวของกฎหมายใหม่ของแท็กซี่ในประเทศเกาหลีใต้ที่ปฏิเสธผู้โดยสาร ที่ออกมาเมื่อปี 2015 ที่ระบุว่าหากแท็กซี่คันไหนปฏิเสธผู้โดยสารจะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 2 แสนวอน (ประมาณ 5,860 บาท) ถ้าหากแท็กซี่คันเดิมถูกจับได้อีกเป็นครั้งที่ 2 จะถูกจับปรับเป็นเงิน 4 แสนวอน (ประมาณ 11,723 บาท) ถูกพักใบขับขี่ไป…

  • เมื่ออาจารย์สั่งให้นักเรียนเขียนจดหมายขอโทษทุกครั้งที่ตดในห้อง คุณจะอั้นหรือปล่อยออกมา

    เมื่ออาจารย์สั่งให้นักเรียนเขียนจดหมายขอโทษทุกครั้งที่ตดในห้อง คุณจะอั้นหรือปล่อยออกมา

    ปกติแล้วเวลาคุณ ‘ปวดตด’ คุณจะทำอย่างไร คุณจะอั้นตดไว้แล้วรอไปปล่อยไกลคน หรือคุณเลือกจะปล่อยมันตรงนั้นโดยไม่อั้นไว้ ส่วนจะดังหรือจะเบา เหม็นมากน้อยก็ให้มันเป็นไปตามกรรมกัน? ถ้าคุณเลือกอย่างหลัง คุณเตรียมตัวเขียนจดหมายขอโทษส่งอาจารย์ได้เลย… เรื่องราวนี้มันเริ่มขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดโทะชิงิ ประเทศญี่ปุ่น เมื่ออาจารย์ไม่เผยชื่อท่านหนึ่งได้ตั้งกฎใหม่ในห้องเรียนว่า ถ้าเกิดใครที่ตดในห้องเรียนและทำให้เพื่อนๆ เหม็นโดยไม่ยอมไปตดในช่วงพัก นักเรียนคนนั้นจะต้องถูกลงโทษ ส่วนวิธีการลงโทษนั้นก็ง่ายมากๆ โดยนักเรียนที่ถูกลงโทษจะต้องเขียนจดหมายลงโทษว่า “ผมจะไม่ตดในชั้นเรียนอีกแล้ว ผมจะไปตดในห้องน้ำระหว่างช่วงพัก ถ้าผมผิดสัญญาผมจะต้องไปวิ่งรอบสนามโรงเรียน 10 รอบ”     บทลงโทษดังกล่าวนั้นถือเป็นเรื่องที่จริงจังมากๆ เพราะตัวอาจารย์เองก็เล่นเขียนกฎนี้บนผนังห้องเรียน เพื่อให้ทุกคนเห็นบทลงโทษและข้อปฏิบัติโดยง่าย แน่นอนว่าเราคงสงสัยว่า การปวดตดหรือตดในห้องเรียนมันผิดขนาดนั้นเลยอย่างนั้นเหรอ ซึ่งสื่อในญี่ปุ่นก็ได้ให้เหตุผลว่าในญี่ปุ่นการตดนั้นถือเป็นเรื่องตลก และมักจะมีนักเรียนบางคนที่สามารถตดได้เก่งมากๆ พวกเขาจึงมักจะทำตัวให้ตลกด้วยการตดกลางห้องเรียนอยู่บ่อยๆ จนสร้างความน่ารำคาญให้กับเพื่อนๆ รวมถึงตัวอาจารย์ที่ยากจะรับมือ     อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่มีการตั้งกฎดังกล่าวขึ้นมา ปัญหาการตดเรี่ยราดก็ลดลง และยังไม่มีนักเรียนคนไหนที่ผิดสัญญาจนต้องออกไปวิ่งรอบสนามเลยสักคนเดียว ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยนั่นเอง   ตดไม่ว่า แต่กลิ่นกับเนื้ออย่าตามมาจะได้ไหม ที่มา soranews24

  • สาวอินโดถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังศาลสั่งลงโทษฟาด 100 ที เพราะไปยืนใกล้กับชายอื่นที่ไม่ใช่สามี

    สาวอินโดถูกหามส่งโรงพยาบาล หลังศาลสั่งลงโทษฟาด 100 ที เพราะไปยืนใกล้กับชายอื่นที่ไม่ใช่สามี

    สังคมชาวมุสลิมในต่างประเทศ มีกฎเกณฑ์ที่มีความเคร่งครัดเป็นอย่างมาก ทั้งนี้กฎเกณฑ์ทั้งหลายก็ได้ตั้งตามหลักศาสนาที่เคารพนับถือ การตั้งกฎเหล่านี้ หากมีคนละเมิดก็จะมีบทลงโทษที่ร้ายแรงมาก เพื่อป้องกันการทำผิดกฎ     Mazidah หญิงสาวชาวอินโดนิเซียอายุ 30 ปี ถูกศาลตัดสินลงโทษด้วยการใช้แส้ฟาด 100 ทีต่อหน้าสาธารณะชน เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่เอาเป็นแบบอย่าง   เธอถูกตั้งข้อหาว่า เธอไปไปอยู่ใกล้กับชายที่ไม่ใช่สามีของตนเอง หลังจากที่ศาลตัดสิน เธอก็ถูกควบคุมตัวมาที่เวที เพื่อทำการลงโทษต่อหน้าผู้คนอื่นๆ   ผู้ที่มาทำการลงโทษเธอจะต้องสวมชุดคลุมทั้งร่าง สวมหน้ากากให้ดวงตาสมารถมองเห็นได้ จากนั้นก็ทำการฟาดเธอทันทีตามจำนวนที่ศาลตัดสินนั่นก็คือ 100 ครั้ง   ชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ต่างก็ได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพไว้ ก่อนที่เธอจะเป็นลมล้มลงไปหลังจากที่ทนความเจ็บไม่ไหวและถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลทันที นอกจากเหตุการณ์นี้ก็ยังมีหญิงและชายอีกสองคนถูกตัดสินให้ใช้แส้ฟาดในวันเดียวกันอีกด้วย . .   การลงโทษที่มีความรุนแรงนี้เกิดขึ้นในเมือง บันดาอาเจะฮ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่เคร่งศาสนามากที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย   เมืองบันดาอาเจะฮ์ พึ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้กฎหมายอิสลามหลังจากได้ทำข้อตกลงสันติภาพกับกรุงจาร์กาตาร์เมื่อปี พ.ศ.2548 การลงโทษแบบนี้อาจจะถูกมองว่าเป็นการใช้ความรุนแรงเกินไป แต่ทั้งนี้ก็เพื่อความสงบสุขของคนในสังคมเอง ต้องลงโทษให้เป็นแบบอย่าง คนจะได้เกรงกลัวและไม่กล้าทำความผิด ที่มา dailymail

  • จะไปไหนเหรอจ๊ะพ่อหนุ่ม!! ชายผู้เกลียดแมวถูกจับมาขึง ให้ “เจ้าเหมียว” นับสิบตัวขืนใจ

    จะไปไหนเหรอจ๊ะพ่อหนุ่ม!! ชายผู้เกลียดแมวถูกจับมาขึง ให้ “เจ้าเหมียว” นับสิบตัวขืนใจ

    ปกติแล้วทุกๆ คนจะต้องมีสิ่งหนึ่งที่กลัวกันแน่นอนเลยใช่ไหมล่ะ บางคนอาจจะกลัวแมงมุม บางคนอาจจะกลัวแมงสาบ หรือบางคนอาจจะกลัวห่านก็มีเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ซึ่งสาเหตุการกลัวของแต่ละคนนั้นก็ไม่เหมือนกัน แต่ไม่น่าเชื่อว่าในโลกใบนี้จะมีคนกลัวเจ้าเหมียวด้วยนะเออ!! แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วแหละ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ทางช่องยูทูปที่ชื่อว่า truTV ได้อัพคลิปวิดีโอทดสอบความกล้าของชายคนหนึ่งกับสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดนั่นก็คือเจ้าแมวเหมียว   ชายหนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อในครั้งนี้   พวกเขาคือกลุ่มนักแสดงตลกที่เรียกตัวเองว่า Impractical Joker ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนซี้ 4 คนประกอบไปด้วยคุณ James, Joe, Sal และ Brian ทั้ง 4 จะแข่งกันทำเรื่องตลกตามที่สาธารณะต่างๆ โดยที่ผู้แพ้จะต้องถูกลงโทษด้วยสิ่งที่น่ากลัวที่สุด ในวิดีโอก่อนหน้านี้เป็นคิวของคุณ Brian ที่ถูกทำโทษโดยถูกขึงไว้กับเตียงและปล่อยเจ้าแมงมุมยักษ์ไว้บนตัว ทำเอาเพื่อนๆ และผู้ชมทางบบ้านถึงกับฮากันไม่หยุดเลยทีเดียว     และคราวนี้ก็มาถึงตาของคุณ Sal ที่จะต้องถูกทำโทษหลังจากที่ปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ สิ่งที่พ่อหนุ่มเคราดกเกลียดมากที่สุดนั้นไม่ใช่พวกสัตว์ที่น่ากลัวแต่ทว่ามันคือเจ้าเหมียวนั่นเอง ชายหนุ่มถูกขึงไว้กับไม้กระดานและจากนั้นอุปกรณ์ทำโทษก็ถูกอัญเชิญเข้ามา การลงโทษครั้งแรกเป็นแบบเบาๆ โดยการปล่อยลูกแมวสุดน่ารักเดินอยู่บนพุงเขา แต่ดูเหมือนพี่แกจะไม่สนใจความน่ารักอะไรทั้งนั้น เอาแต่ทำหน้าตาบูดเบี้ยวลูกเดียว     และแล้วการลงโทษก็หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ คราวนี้เป็นตาของเจ้าเหมียวตัวโตบ้างแล้ว   พี่เคราเราถึงกับอึ้งเมื่อเห็นฝูงเจ้าเหมียวที่อยู่ในกรง   และแล้วเวลาแห่งการลงฑัณฑ์ก็มาถึง เจ้าเหมียวหลายตัวถูกปล่อยลงไป ชายหนุ่มแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว   ไปชมบทลงโทษนี้เต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…   สงสัยจะกลัวจริงๆ…