Tag: นักจิตวิทยา

  • นักจิตวิทยาบอก คนที่มีลักษณะตรงข้ามกัน ไม่ได้ดึงดูดเข้าหากัน หรือเข้ากันได้ดีเสมอไป

    นักจิตวิทยาบอก คนที่มีลักษณะตรงข้ามกัน ไม่ได้ดึงดูดเข้าหากัน หรือเข้ากันได้ดีเสมอไป

    คุณอาจจะเคยได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการความรัก บางคำแนะนำก็น่าสนใจและดูน่าจะใช้ได้จริง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีคำแนะนำอีกมากมายที่ไม่น่าจะจริงสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามคนกว่า 80% มักจะมีความเชื่อที่ว่า “คนที่ลักษณะตรงข้ามกันนั้นมักจะดึงดูดกันและกัน” ว่าเป็นคำแนะนำที่ดี แต่แท้จริงแล้วพวกเขาอาจจะคิดผิดก็ได้ เพราะตามที่นักวิจัยที่ St. Andrews ทำการวิจัยออกมานั้น คนส่วนใหญ่มักที่จะดึงดูดผู้คนที่มีลักษณะคล้ายกันมากกว่า     การวิจัยจากวารสารทางจิตวิทยา บอกว่าเหตุผลที่ผู้คนส่วนใหญ่มักที่จะสนใจคนอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับตัวเองนั้น เป็นเพราะมนุษย์ชอบสิ่งที่คุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่อย่างบ้านเกิด หรือของที่ใช้เป็นประจำ บวกกับการที่เราเห็นใบหน้าของตัวเองในกระจกทุกวัน     ดังนั้นเราจึงถูกดึงดูดจากจิตใต้สำนึกไปยังคนที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับเรา โดยเฉพาะรูปร่างหน้าตา เราจะรู้สึกว่าพวกเขาน่าเชื่อถือและมีความรู้สึกที่ดีกับพวกเขาเหล่านั้นมากขึ้น และด้วยเหตุเดียวกันนี่เองเราจึงมักถูกดึงดูดโดยผู้คนที่ดูคล้ายกับพ่อแม่ของเรา เพราะเราไม่เพียงคุ้นเคยกับใบหน้าของพวกเขา แต่ยังเพราะพวกเขาเป็นคนแรกที่เราผูกพันด้วย นอกเหนือจากการดึงดูดทางลักษณะกายภาพแล้ว ผู้คนยังมักจะถูกดึงดูดโดย คนที่มีทัศนคติ และมุมมองที่คล้ายกัน เช่นศาสนา หรือการเมือง รวมไปถึงคนที่มีลักษณะนิสัยที่ใกล้เคียงกันอีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะเห็นคนที่รักกันนานๆ มักจะสามารถทำอะไรด้วยกันเป็นเวลาหลายๆ ปีได้     อย่างไรก็ตามงานวิจัยชิ้นนี้ไม่ได้ฟันธงไปว่า คนที่มีลักษณะตรงข้ามกัน ไม่ได้ดึงดูดเข้าหากันแต่อย่างใด เพียงแต่กล่าวในแง่ของจุดร่วมระหว่างความคุ้นเคยกับความสบายใจของคู่รักก็เท่านั้น ดังนั้นแม้คุณกับคนที่คุณรักจะต่างกันสุดขั้วแค่ไหน มันก็มีความเป็นไปได้ที่พวกคุณจะอยู่ด้วยกันได้อย่างยาวนานอยู่ดี   ที่มา thechive

  • นักจิตวิทยาร่วมกันแบ่งปันกฎ 9 ข้อที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตที่ดีร่วมกับบุตรหลานของคุณได้

    นักจิตวิทยาร่วมกันแบ่งปันกฎ 9 ข้อที่จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตที่ดีร่วมกับบุตรหลานของคุณได้

    ความขัดแย้งกับเด็กย่อมเกิดขึ้นในทุกครอบครัวอยู่แล้ว นักจิตวิทยากล่าวว่าสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดของความขัดแย้งดังกล่าวคือ “การละเมิดความเป็นส่วนตัวของเด็ก” นั่นเอง เด็กๆ จะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองโดนก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวที่ว่านี่เมื่ออายุราวๆ 3 ขวบเป็นต้นไป และจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ และเปลี่ยนแปลงได้ยากมาก ทางเดียวที่ผู้ใหญ่จะทำได้นั้นคือการปรับวิธีการเลี้ยงดูลูกให้เป็นไปตามการพัฒนาการของพวกเขา ดังนั้นนักจิตวิทยาจึงออกมาแบ่งปัน กฎระเบียบ 9 ข้อ สำหรับผู้ใหญ่ที่สามารถช่วยคุณใช้ชีวิตที่ดีร่วมกับบุตรหลานของคุณได้ ซึ่งมีเนื้อหา ดังต่อไปนี้   1. แทนที่จะด่า ให้ค้นหาข้อดีให้ลูกๆ แล้วสอนไปพร้อมๆ กับการชมเด็กๆ ไม่มีใครชอบที่จะโดนด่า หรือวิจารณ์ แม้แต่คนที่นำเอาคำวิจารณ์ไปปรับปรุงการทำงานเอง ก็ใช่ว่าจะชอบที่ตัวเองต้องถูกวิจารณ์สักเท่าไหร่ และแน่นอนว่าเด็กๆ เองก็ไม่ชอบที่จะโดนวิจารณ์เรื่องแย่ๆ เสียทุกครั้ง ประสบการณ์น่าโมโหเหล่านั้น อาจจะทำให้เด็กๆ ไม่สามารถติดต่อพูดคุยกับผู้คนตามปกติ หรือปิดกั้นตัวเองจนไม่ยอมเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ไม่ดีไปเลย คุณควรที่จะลดการวิจารณ์ของคุณลง แม้ว่าบางครั้งจะดูเป็นเรื่องยากมาก ลองใช้การวิจารณ์บวกกับการพูดชม จะทำให้คุณได้รับผลที่ดีกว่าเดิมอย่างสิ้นเชิง! ตัวอย่างจากภาพ: ลูกร้องเพลงได้เพราะมากเลยนะ ไว้ทานข้าวเสร็จแล้วช่วยมาร้องให้แม่ฟังหน่อยสิ เพราะนักแสดงตัวจริง เขาไม่ทานข้าวไป ร้องเพลงไปกันหรอกนะ 2. ให้ทางเลือกแก่ลูก การทำตามคำสั่งหรือการทำหน้าที่ของครอบครัวเป็นสิ่งจำเป็น แต่ก็เพราะมันจำเป็นนั่นเองที่ทำให้เด็กๆ หลายๆ คนไม่ต้องการที่จะทำมัน โดยเฉพาะเมื่อสิ่งที่ต้องทำที่ว่า มาพร้อมกับเสียงดุด่าแล้วด้วย ดังนั้นแทนที่จะบังคับให้เด็กทำอะไร สู้มอบทางเลือกให้แก่พวกเขาจะดีกว่า…

  • นักจิตวิทยาเผย การดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างออกเดทนั้น มีผลที่แตกต่างกันไปในชายและหญิง!!?

    นักจิตวิทยาเผย การดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างออกเดทนั้น มีผลที่แตกต่างกันไปในชายและหญิง!!?

    สำหรับคนที่เริ่มมีอายุขึ้นมาหน่อยนั้น การดื่มระหว่างการออกเดทแต่ละครั้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ธรรมดา แต่ล่าสุดนักจิตวิทยาก็ได้ออกมาอธิบายว่า การดื่มระหว่างเดทนั้นมีผลที่แตกต่างกันไปในเพศชายและหญิงล่ะ จากงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Journal of Personal Relationships การดื่มเครื่องดื่มชนิดที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมระหว่างเดทนั้นจะทำให้ผู้หญิงมีความรู้สึกใกล้ชิดกับชายหนุ่มที่ออกเดทด้วยมากขึ้น แต่ในชายหนุ่มนั้นจะรู้สึกต่างกันออกไป… สำหรับงานวิจัยนี้นักจิตวิทยาของทาง Australian National University ได้ทำการเก็บข้อมูลระหว่างการเดทของคู่เดทจำนวนกว่า 300 คนด้วยกัน     ซึ่งอาสาสมัครในจำนวนกว่า 300 คนนั้น ส่วนใหญ่ยอมรับว่ามีการดื่มระหว่างที่พวกเขาออกเดทในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยการเดทเกือบครึ่งนั้นเกิดขึ้นที่ร้านอาหาร ร้อยละ 28 เกิดขึ้นในบาร์ ร้อยละ 9 ไปเดทกันที่โรงหนัง ร้อยละ 6 เดทที่บ้าน และที่เหลืออีกราวๆ ร้อยละ 4 เดทกันในปาร์ตี้ของเพื่อนๆ ในส่วนของค่าเฉลี่ยในการดื่มแอลกอฮอล์ต่อการเดท 1 ครั้งนั้นจะอยู่ที่ประมาณประมาณ 6 แก้วด้วยกันต่อคน จะว่าไปแล้ว 6 แก้วนี่ก็พอกรึ่มๆ เลยนะเนี่ย เอิ๊กๆๆ โดยนักวิจัยได้ขอให้อาสาสมัครให้คะแนนความสนิทสนมของพวกเขาก่อนไปออกเดท และหลังจากออกเดทที่มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปด้วย ‘ค่าความสนิทสนม’ ในที่นี้นักวิจัยได้เขียนอธิบายเอาไว้เช่นกัน หมายถึงความรู้สึกถึงความใกล้ชิด รักใคร่ และความชื่นชอบในตัวของอีกฝ่าย…