Tag: ดูแลสุขภาพ

  • อยากมีสุขภาพที่ดีต้องลอง !! 10 วิธีแปลกๆ แต่ได้ผล สำหรับพนักงานออฟฟิศ

    อยากมีสุขภาพที่ดีต้องลอง !! 10 วิธีแปลกๆ แต่ได้ผล สำหรับพนักงานออฟฟิศ

    ในปัจจุบันนั้นคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็นพนักงานออฟฟิศที่วันๆ นั่งอุดอู้อยู่ในที่ทำงานเป็นเวลาติดต่อกันหลายชั่วโมง ซึ่งอาจจะทำให้สุขภาพแย่ลงเรื่อยๆ และทำให้เสียบุคลิกอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะดูเป็นไปไม่ได้กับการที่จะเปลี่ยนสไตล์การใช้ชีวิตในช่วงขณะนั้น แต่ก็มีนวัตกรรมแปลกใหม่มากมายที่จะเข้ามาเปลี่ยนการทำงานอันน่าเบื่อในออฟฟิศให้ดูน่าสนใจมากขึ้น และที่สำคัญยังช่วยให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย     1. โต๊ะยืน โดยปกติแล้วคนเรามักจะใช้เวลาในการทำงานกับการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ จึงได้มีการสร้างโต๊ะแบบยืนขึ้นมา ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคอ้วน และช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังลดโอกาสในการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย   2. โต๊ะจักรยาน หลายคนอาจจะคิดว่าโต๊ะยืนนั้นอาจจะเมื่อยเกินไป ลองใช้โต๊ะจักรยานนี้สิ อาจจะช่วยได้ดีกว่าเดิมก็ได้ ซึ่งการปั่นจักรยานไปด้วยก็จะช่วยให้เรามีสติมากขึ้น หรือจะนั่งเฉยๆ ก็ได้หากรู้สึกเหนื่อย   3. โต๊ะทำงานล้อแฮมสเตอร์ ถึงแม้ว่าการที่วิ่งบนล้อแฮมสเตอร์นั้นอาจจะดูไร้จุดมุ่งหมาย แต่อย่าลืมว่าเจ้าพวกหนูแฮมสเตอร์นั้นก็สนุกไปกับมันนะ การที่ทำงานไปด้วยและเดินไปด้วยนั้นจะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีและช่วยในเรื่องอารมณ์อีกด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็ได้ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าการเดินนั้นดีกว่ายืนเฉยๆ แน่นอน   4. เก้าอี้ลูกบอลโยคะ การนั่งบนลูกบอลโยคะนั้นจะช่วยให้มีบุคลิกที่ดีขึ้นและช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องและหลัง และยังช่วยลดอาการปวดหลังอีกด้วย   5. เก้าอี้ช่วยยืน ถึงแม้ว่าเก้าอี้ช่วยยืนที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้นั้นจะดูประหลาดไปบ้าง แต่มันช่วยได้ให้ประโยชน์จากการยืน และความสะดวกสบายจากการนั่งอีกด้วย   6. ไข่หรรษา ไข่หรรษานั้นเป็นอุปกรณ์คลายเครียดที่ดีเลยทีเดียว ถึงแม้ว่ารูปร่างของมันอาจจะดูไม่เหมาะสม แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะมันสามารถติดกับใต้โต๊ะได้ จึงไม่ต้องกลัวว่าเพื่อนร่วมงานของคุณจะเห็นและมองคุณแปลกๆ ไป บางทีถ้าพวกเขามาเห็นก็คงอิจฉาและมาขอยืมของเราไปเล่นก็เป็นได้  …

  • 8 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังมีสุขภาพที่ดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่คิดแบบเดียวกันก็ตาม

    8 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังมีสุขภาพที่ดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่คิดแบบเดียวกันก็ตาม

    “สุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง” ประโยคนี้ยังคงเป็นความจริงเสมอมา เพราะถึงเราจะมีเงินจำนวนมากมายมหาศาลแต่ถ้าเราไม่รู้จักออกกำลังกายหรือคุมอาหาร ร่างกายเราก็ไม่มีทางที่จะมีสุขภาพดีได้ ซึ่งก็คงมีคำถามว่าทำยังไงถึงจะสุขภาพดีล่ะ หลายๆ คนคงคิดว่าอกกำลังกายมากๆ คุมอาหารให้เคร่งครัดนั่นก็เพียงพอต่อสุขภาพดีแล้ว แต่การทำอะไรที่มากเกินไปมันก็มีผลเสียเหมือนกันและบางสัญญาณที่คุณไม่คาดคิดว่าจะสุขภาพดีกลับเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพดี และนี่ก็คือ 8 สัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่คาดว่ามันจะดีก็เถอะ ไปชมกันเลยครับ   1. คุณจะกินแค่เวลาที่คุณหิวและจะไม่กินมากเกินไป หากคุณมีอาการกินอาหารมากกว่าที่ตั้งใจไว้และไม่เคยรู้สึกพอเมื่อกินอาหารเสร็จหรือกินอาหารเพื่อแก้เบื่อ นั่นแสดงว่าคุณกำลังมีอาการที่เสพติดอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีคุณจะต้องพยายามปรับพฤติกรรมการกินของตัวเองให้ได้   2. อาหารที่คุณกินเป็นอาหารที่ดี เวลานึกถึงอาหารเพื่อสุขภาพ หลายๆ คนมักจะนึกถึงแต่อกไก่กับข้าวสวย แต่ในทางกลับกันคุณควรจะกินอาหารให้ที่สุขภาพดีให้หลากหลายกว่านี้ และการงดของหวานมากเกินไปจะเป็นผลเสียต่อคุณด้วย   3. คุณจะกินให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ มนุษย์แต่ละคนย่อมมีความอยากอาหารไม่เหมือนกันและมันก็ไม่มีสูตรตายตัวในการคำนวณแคลอรี่ที่คุณสมควรรับในแต่ละวัน คุณอาจจะสามารถกินได้น้อยหรืออาจจะมากกว่าคนทั่วไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องฟังว่าร่างกายคุณต้องการอะไร และต้องการขนาดไหน   4. คุณสามารถขึ้นบันไดแล้วไม่หอบได้ นี่เป็นตัววัดว่าร่างกายของคุณมีสุขภาพดี คุณไม่ต้องมีความแข็งแกร่งที่สุดยอดหรือต้องออกกำลังกายบ่อยๆ ก็สามารถสุขภาพดีได้ และหากคุณไม่รู้สึกว่าจะตายเวลาที่ขึ้นบันไดล่ะก็นั่นแสดงว่าคุณมีสุขภาพที่โอเค   5. คุณมีอารมณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่โศกเศร้าไปถึงตื่นเต้นดีใจ นี่ไม่ใช่อาการไบโพลาร์แต่อย่างใด นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาแล้ว่วา “โกรธเป็นบางช่วงถือว่าปกติ มีความเศร้าก็ปกติ รู้สึกรำคาญก็ปกติและรู้สึกหดหู่ก็เป็นเรื่องปกติ อารมณ์เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพจิตที่ดีและคุณควรจะตระหนักได้แล้วว่าไม่มีอารมณ์ใดๆ หรอกที่มันคงที่ตลอดเวลา”  …

  • นี่คือ 10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ‘การดูแลสุขอนามัยร่างกาย’ ที่คุณอาจเข้าใจผิดมาโดยตลอด!!

    นี่คือ 10 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ‘การดูแลสุขอนามัยร่างกาย’ ที่คุณอาจเข้าใจผิดมาโดยตลอด!!

    การดูแลความสะอาดและสุขอนามัยของเรานั้น บางคนทำมันเสียจนชินและเป็นกิจวัตรกันเลยทีเดียว แต่ทราบหรือไม่ว่าการดูแลสุขอนามัยในชีวิตประจำวันบางอย่างของเรานั้น ถ้าหากทำไม่ถูกวิธีแล้วล่ะก็ อาจก่อให้เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดตามมาก็เป็นได้ ดังนั้น วันนี้เราขอนำเสนอ 12 ความจริงเกี่ยวกับการ ‘ดูแลสุขอนามัย’ ที่หลายคน เข้าใจผิด ซึ่งสามารถส่งผลร้ายต่อสุขภาพเราได้ แล้วความจริงเหล่านี้มีอะไรบ้าง เชิญไปรับชมกันเลยดีกว่า…   1. การกัดเล็บช่วยแก้เครียด ความจริงคือ: การกัดเล็บนั้นแม้จะเป็นพฤติกรรมที่ทำตอนเครียด แต่มันไม่ได้ช่วยแก้เครียด แถมมันมีโอกาสทำให้เชื้อโรคมีโอกาสเข้าไปในร่างกายเราได้ แถมยังทำให้เสียบุคลิกอีกต่างหาก ฉะนั้นเลิกกัดเล็บเสียเถอะ   2. การใช้ก้านสำลี (คอตตอนบัทท์) ในการแคะหูนั้นสะอาดกว่า ความจริงคือ: การแคะหูด้วยก้านสำลีนั้นทำให้ขึ้หูของเราส่วนหนึ่งถูกดันเข้าไปในหูมากขึ้น ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่จะนำไปสู่การบาดเจ็บของแก้วหู และสูญเสียการได้ยินในที่สุด ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าหากมีปัญหาจริงๆ ควรไปพบแพทย์ อ่านบทความเรื่องไม่ควรใช้ก้านสำลีได้ที่ www.catdumb.com/dont-use-q-tips-064/   3. ไม่ล้างมือหลังเข้าห้องน้ำเพราะไม่จำเป็นและทำให้เสียเวลา ความจริงคือ: การล้างมือนั้นเป็นวิธีที่ดีและง่ายที่สุดในการป้องกันการเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากเชื้อโรค ซึ่งสามารถส่งต่อกันได้หลังจากเข้าห้องน้ำ เพราะฉะนั้นเสียเวลาสักนิดเพื่อสุขภาพของคุณและคนรอบข้างเถอะ   4. ไม่ยอมเปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นเวลานาน เพราะใช้ยังไม่พัง ความจริงคือ: แปรงสีฟันนั้นมีการสะสมแบคทีเรียจากการที่เราแปรงฟันแต่ละครั้งไปเรื่อยๆ ทันตแพทย์แนะนำว่าคนเราควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุกๆ 2-3 เดือน หากนานกว่านั้นจะนำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพรุนแรงได้   5. แปรงฟันอย่างไรก็ได้ ตามใจตนเอง ความจริงคือ:…

  • 7 สัญญาณอันตรายจากร่างกาย ที่คอยเตือนถึงภาวะหลอดเลือดสมอง แต่คุณเลือกที่จะมองข้าม

    7 สัญญาณอันตรายจากร่างกาย ที่คอยเตือนถึงภาวะหลอดเลือดสมอง แต่คุณเลือกที่จะมองข้าม

    ในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้รายล้อมอยู่รอบตัวเรา ซึ่งโรคบางโรคก็มีอันตรายจนอาจจะทำให้พิการหรือเสียชีวิตได้เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และมีอีกโรคหนึ่งที่ใครหลายคนเลือกที่จะมองข้ามก็คือ โรคหลอดเลือดสมอง ภัยเงียบที่เป็นสาเหตุทำให้คนเสียชีวิตสูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลกเลยทีเดียว โรคหลอดเลือดสมอง คือภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลายและการทำงานของสมองหยุดชะงักลงทันที และนี่คือ 7 สัญญาณเตือนจากร่างกายว่าเราอาจมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งบางทีเราก็มองข้ามอาการเหล่านี้ไปว่ามันเป็นเรื่องปกติเดี๋ยวก็หาย หากใครที่มีอาการเหล่านี้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหรือเข้าไปตรวจร่างกายกับแพทย์บ้าง ก่อนที่ทุกอย่างนั้นจะสายเกินไป…   1. คุณไม่เคยใส่ใจอาการของโรคหลอดเลือดสมองเลย ในแต่ละนาทีที่เราเป็นโรคหลอดเลือดสมองอยู่ สมองของเราจะสูญเสียเซลล์ประมาณ 1.9 ล้านเซลล์ และในแต่ละชั่วโมงโรคหลอดเลือดสมองจะทำให้สมองเราเสื่อมไวกว่าคนปกติถึง 3.5 ปี โดยในระยะยาวผู้ป่วยที่เป็นโรคและไม่ได้เข้ารับการรักษาที่ถูกวิธี มีโอกาสเสี่ยงที่จะพูดได้ช้ากว่าปกติและรู้สึกว่าการพูดเป็นเรื่องที่ยากขึ้น รวมถึงยังสามารถทำให้สูญเสียความทรงจำได้เลยทีเดียว   2. คุณคิดว่าการที่คุณเห็นภาพซ้อนกันมีเหตุมาจากความเหนื่อย ปัญหาในด้านการมองเห็นต่างๆ ทั้งการเห็นภาพซ้อน สายตาเบลอ หรือว่าสูญเสียการมองเห็นในดวงตาข้างใดข้างหนึ่ง เป็นสัญญาณบอกว่าคุณอาจจะป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองได้ ใครหลายคนคิดว่าอาการเหล่านี้เป็นผลมาจากการมีอายุที่เยอะขึ้นหรือมาจากความเหน็ดเหนื่อย แต่จริงๆ แล้วมีเหตุมาจากเส้นเลือดที่ตีบมาก จนทำให้จำนวนออกซิเจนไม่เพียงพอที่จะขึ้นไปหล่อเลี้ยงดวงตาต่างหาก   3. คุณมักจะเป็นเหน็บชาหลังจากเพิ่งตื่นนอนหรืองีบหลับ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีอาการชาที่แขนหรือขาหลังจากที่เพิ่งตื่นนอน คุณอาจจะคิดว่าเป็นเพราะร่างกายเราโดนกดทับจากการนอนหลับจนเป็นเหน็บชา แต่จริงๆ แล้วนั่นเป็นเพราะว่าการไหลเวียนเลือดตามร่างกายของคุณผิดปกติ…