Tag: ซีอีโอ

  • บ.สวีเดนเปิดมิติใหม่แห่งการบริหาร ด้วยการไม่มี “หัวหน้า” และพนักงานทุกคนเท่ากัน

    บ.สวีเดนเปิดมิติใหม่แห่งการบริหาร ด้วยการไม่มี “หัวหน้า” และพนักงานทุกคนเท่ากัน

    คุณคิดว่าในปัจจุบันการมี “หัวหน้า” หรือ “ผู้บริหาร” จะทำให้บริษัทต่างๆ พัฒนาและเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วขึ้นหรือเปล่า? หลายคนอาจตอบว่า “ใช่” แต่นั่นไม่ใช่กับบริษัทซอฟท์แวร์จากประเทศสวีเดนบริษัทนี้ เพราะพวกเขาไม่มี “หัวหน้า” และเวลาจะทำอะไร พนักงานทั้ง 40 คน ก็จะมาตัดสินใจร่วมกัน     บริษัทนี้มีชื่อว่า Crisp เป็นบริษัทผู้ให้คำปรึกษาด้านซอฟ์ทแวร์ พวกเขาโด่งดังขึ้นมาเนื่องจากการที่บริษัทของพวกเขาไม่มีหัวหน้า ทำให้การตัดสินใจทุกอย่างของบริษัท จะต้องผ่านการประชุมของพนักงานทั้งหมด 40 คน โดยในช่วงแรกพวกเขามีวัฒนธรรมองค์กรที่จะมีการเปลี่ยน CEO ของบริษัททุกๆ ปี แต่อยู่มาปีหนึ่ง พวกเขาก็มีความคิดว่า ทำไมพวกเราไม่ลอง “ยกเลิกหัวหน้าดูล่ะ?” หลังจากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจยุบตำแหน่งหัวหน้าและกระจายงานให้กับทุกๆ คน     “พวกเราคุยกันว่า จะเป็นอะไรไหมถ้าเราไม่มี CEO คนต่อไป มันจะออกมาเป็นแบบไหน พวกเราก็เลยลงมือทำจริงๆ แล้วก็มีนั่งลิสต์กันว่าปกติแล้ว CEO ต้องทำอะไรบ้าง”  Yassal Sundman หนึ่งในนักพัฒนาโปรแกรมของ Crisp กล่าว พอพวกเขาลองสำรวจหน้าที่ของ CEO กันดูแล้วก็พบว่า งานหลายๆ อย่างของ…

  • แม้ “ทรัมป์” จะมีคำสั่งแบนผู้อพยพ แต่ Google เตรียมต่อต้านด้วยการบริจาค 140 ล้านให้ผู้ลี้ภัย

    แม้ “ทรัมป์” จะมีคำสั่งแบนผู้อพยพ แต่ Google เตรียมต่อต้านด้วยการบริจาค 140 ล้านให้ผู้ลี้ภัย

    กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกเลยทีเดียว สำหรับนโยบายของประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา โดนัดล์ ทรัมป์  เมื่อเขาได้ลงนามคำสั่งห้ามผู้อพยพเข้าประเทศชั่วคราว รวมทั้งแบนไม่ให้ชาวมุสลิมจาก 7 ประเทศเข้าสหรัฐอเมริกา แม้พวกเขาเหล่านั้นจะมีกรีนการ์ดก็ตาม โดยช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาทรัมป์ได้ลงออกคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้อพยพเข้าสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาอย่างน้อย 120 วัน และในอีกสามเดือนข้างหน้า พวกเขาจะแบนวีซ่าจาก 7 ประเทศมุสลิม ประเทศในลิสต์ได้แก่ อิรัก อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน เพื่อคัดกรองและลดความเสี่ยงที่จะมีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามาในประเทศ     คำสั่งดังกล่างสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก เพราะคำสั่งแบนผู้อพยพดูจะขัดกับอุดมการณ์ของสหรัฐอเมริกาที่เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ รวมทั้งการแบนวีซ่า 7 ประเทศมุสลิมไม่เพียงส่งผลเฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ผู้ที่เข้ามาพักอาศัยและทำงานในสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่าทำงานก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน   แต่ล่าสุด ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของบริษัท Google คนปัจจุบัน เตรียมบริจาคเงินกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (70 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพ และเขาเชื่อว่าพนักงานของบริษัท ก็จะช่วยบริจาคกันอีกราวๆ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พิชัยได้กล่าวอีกว่าจะมีพนักงานของ Google ราวๆ 200 คน ได้รับผลกระทบจากคำสั่งแบนวีซ่ามุสลิมครั้งนี้ ซึ่งพวกเขาได้สั่งให้พนักงานเหล่านั้น กลับมาในสหรัฐอเมริกาทันทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…

  • ยังคงคลาสสิก!! ซีอีโอ Kodak ใช้ฟิล์มขนาด 35มม. มาเป็นนามบัตรของตัวเอง

    ยังคงคลาสสิก!! ซีอีโอ Kodak ใช้ฟิล์มขนาด 35มม. มาเป็นนามบัตรของตัวเอง

    ยุคนี้ต้องบอกเลยว่ากล้องฟิล์มกำลังกลับมาอย่างสง่างาม เหมียวว่ามันไม่เกี่ยวว่ามันเป็นยุคฮิปสเตอร์หรืออะไรหรอกนะ เพราะกล้องฟิล์มนั้นมันให้เสน่ห์แบบที่กล้องดิจิตอลทำไม่ได้ นั่นก็คือการมีฟิลเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ และความสนุกกับการรอลุ้นว่าภาพที่เราถ่ายออกมามันจะสวยไหม จะมีแสงลอดเข้าไปรึเปล่า แต่วันนี้เหมียวมีเรื่องราวน่ารักๆ ของซีอีโอบริษัทเกี่ยวกับภาพถ่ายชื่อดัง Kodak นั่นก็คือคุณ Jeff Clarke เขาได้นำฟิล์มมาทำเป็นนามบัตรขนาด 35มม. ที่คงเอกลักษณ์ของกล้องฟิล์มนั่นเอง     นี่อาจจะเป็นสัญญาณที่ดีที่เราจะได้เห็นการกลับมายิ่งใหญ่ของกล้องฟิล์มอีกครั้งก็เป็นได้ เพราะทาง Kodak ก็ได้ประกาศว่าจะมีการปลุกเอากล้องในตำนานอย่าง Super 8 มาทำใหม่ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิมๆ อยู่   นี่คือหน้าตาของกล้อง Super 8 แบบเก่าและแบบใหม่   อย่างที่เห็นว่าถึงแม้ธุรกิจฟิล์มจะได้ส่วนแบ่งน้อยมากๆ แต่คนก็ยังให้ความสำคัญกับมันอยู่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ได้มีผู้กำกับดังๆ ยังใช้ระบบฟิล์มในการถ่าย เช่น Steven Speilberg และ Christopher Nolan ที่มา boredpanda

  • เรื่องราวของ CEO Japan Airline ผู้สมถะ นั่งรถเมล์ไปทำงาน รับเงินเดือนน้อย แต่งตัวธรรมดา!!

    เรื่องราวของ CEO Japan Airline ผู้สมถะ นั่งรถเมล์ไปทำงาน รับเงินเดือนน้อย แต่งตัวธรรมดา!!

    คำว่า CEO (ซีอีโอ) มักจะเป็นคำเรียกของตำแหน่งอันใหญ่โตในบริษัททั้งหลาย ภาพลักษณ์ที่ติดตาเลยก็คือจะต้องเป็นผู้ที่ดูดีเนื่องจากเป็นถึงผู้บริหาร มีฐานะร่ำรวย และจะต้องเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตสวยหรูอย่างที่หลายคนเฝ้าฝันถึง     แต่กับ CEO ของสายการบิน Japan Airline กลับเป็นสิ่งตรงกันข้าม เขามีชื่อว่าคุณ Haruka Nishimatsu ได้ใช้ชีวิตภายใต้ปรัชญาอันเรียบง่าย เขาไม่ได้ทำตัวเป็นเจ้านายผู้เคร่งขรึม แต่ทำตัวเป็นผู้นำบริษัทที่ดี ยอมเสียสละเพื่อส่วนรวมของบริษัทก็เพื่ออนาคตที่แข็งแกร่งของสายการบิน     ‘หากการบริหารจัดการเป็นเรื่องยุ่งยากและไกลตัว คล้ายกับว่าผู้คนเบื้องล่างกำลังรอป้อนคำสั่งมาจากฟ้าเบื้องบน ผมอยากจะให้พนักงานของผมได้หัดคิดด้วยตัวเองบ้าง’ ส่วนหนึ่งที่เขาได้ให้สัมภาษณ์กับ CBS News   เขาเลือกที่จะนั่งรถเมล์ไปทำงาน แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีราคาไม่แพง ในระดับที่พนักงานของเขาเองก็มีสิทธิ์ซื้อมาใส่ อีกทั้งเลือกที่จะรับเงินเดือนน้อยกว่าในอัตราเงินเดือนของผู้บริหารทั่วไปด้วย มีครั้งหนึ่งเขาเคยตัดเงินเดือนตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไล่พนักงานออก เนื่องจากผลกำไรที่ได้น้อยเกินกว่าที่คาดเอาไว้ เขาจึงนำเงินเดือนตัวเองไปเฉลี่ยแจกจ่ายเป็นเงินเดือนให้กับพนักงานแทน     ภายใต้ความกดดันของพนักงานผู้น้อยในวัฒนธรรมของบริษัทส่วนมาก มักจะถูกกดขี่และใช้งานอย่างหนัก แต่กลับไม่ได้รับการตอบแทนเท่าที่ควรจะได้ ซึ่งทางด้านเหล่าผู้บริหารส่วนมากก็มักจะมีเงินเหลือกินเหลือใช้ มีของหรูหรามากมาย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้คุณ Nishimatsu สร้างบรรยากาศและกำลังใจให้กับลูกน้องร่วมฝ่าฟันไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นร่วมรับประทานอาหารกับพนักงานในโรงอาหารเป็นประจำ ลงตรวจพื้นที่การทำงานด้วยตนเอง แบบชนิดที่ว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ กับการที่จะได้เห็นผู้บริหารลงมาใกล้ชิดกับพนักงานขนาดนี้ อีกทั้งยังส่งผลดีในระยะยาวให้กับบริษัทด้วย    …