Tag: ความฉลาด
-
ผลการวิจัยเฉลยออกมาแล้วว่า คนรักหมา VS คนรักแมว ใครจะฉลาดกว่ากัน!!?
การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสักตัวหนึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน บางคนอาจจะชอบเลี้ยงเจ้าตูบ แต่บางคนอาจจะชอบเลี้ยงเจ้าแมวเหมียว ทั้งนี้การเลี้ยงหมาหรือแมวนั้นเองกลับมีสาวกเป็นสองกลุ่มที่ค่อนข้างชัดเจน นักวิจัยหลายคนจึงคิดว่า กลุ่มคนเลี้ยงหมา กับกลุ่มคนเลี้ยงแมวอาจจะไม่ได้แตกต่างกันเฉพาะเรื่องของความชอบของเท่านั้น ทำให้มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงทั้งสองกลุ่มนี้ขึ้นมา เช่น ความบุคลิกภาพระหว่างคนชอบเลี้ยงหมา กับคนชอบเลี้ยงแมว เป็นต้น แต่วันนี้ได้มีการศึกษาวิจัยครั้งใหม่ เกี่ยวกับคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์เลี้ยง คำถามของงานวิจัยนี้ก็คือ คนเลี้ยงหมากับคนเลี้ยงแมว ใครฉลาดกว่ากัน? ทั้งนี้การศึกษาวิจัยจากคลินิก McKeown ได้เผยว่า “ผู้ชอบเลี้ยงแมว” นั้นจะเป็นผู้ที่มีความรู้สึกอ่อนไหว และยึดมั่นในความเชื่อของตนเองมากกว่า ในขณะที่ “ผู้ชอบเลี้ยงหมา” จะมีความเป็นกันเอง และจะชอบเข้าสังคมมากกว่า แถมจะสะท้อนนิสัยของสัตว์แต่ละตัวที่เขาเลี้ยงอีกด้วย Steve McKeown จากคลินิก McKeown กล่าวว่า “คนชอบเลี้ยงแมวจะเป็นพวกหัวแข็ง เป็นพวกที่จะยึดมั่นในความเชื่อของตนเองมากๆ แม้ว่าจะมีความคิดของคนอื่นเสนอเข้ามาก็ตาม แถมยังสะท้อนนิสัยที่ไม่ค่อยยุ่งกับใครเหมือนกับเจ้าแมวอีกด้วย นอกจากนี้ คนชอบเลี้ยงแมวยังสามารถทำข้อสอบวัดสติปัญญาแล้วได้คะแนนสูงกว่า และดูจะมีการศึกษามากกว่าอีกด้วย พวกเขามีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในมหาวิทยาลัยได้มากกว่าคนชอบเลี้ยงหมา แถมยังสามารถทำงานได้นานกว่า และยังสามารถเลือกเลี้ยงสัตว์ที่ส่งเสริมให้ชีวิตเขาดีขึ้นได้อีกด้วย” Denise Guastello ผู้ชวยศาสตราจารย์สาขาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัย Carroll ซึ่งมีส่วนร่วมในการศึกษาครั้งนี้ กล่าวว่า “มันก็สมเหตุสมผลนะที่คนชอบเลี้ยงหมาจะมีชีวิตชีวามากกว่า เพราะว่าเขาจ้องแต่จะออกไปเที่ยวข้างนอก พบเจอผู้คน และพาหมาของเขาไปเดินเล่น ขณะที่…
-
“ฉลาดเหมือนแม่” นักวิจัยพิสูจน์แล้วว่า ลูกจะสืบทอดสติปัญญาจากแม่ได้มากกว่าพ่อ!!
นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบมานานแล้วว่า ยีนส์ความฉลาดของมนุษย์เรา จะอยู่ในโครโมโซม X ซึ่งเป็นโครโมโซมที่ผู้หญิงจะมีสอง ส่วนผู้ชายจะมีแค่โครโมโซมเดียว ทำให้อาจได้ข้อสรุปว่าระดับสติปัญญาจากแม่ จะตกทอดสู่รุ่นลูกได้มากกว่าจากพ่อ ซึ่งงานวิจัยชิ้นล่าสุดของมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ ก็ได้ออกมาช่วยยืนยันแล้วว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องจริง! โดยทีมนักวิจัยได้ทำการสำรวจจากกลุ่มคนอายุ 14 – 22 ปี จำนวน 30,000 คน เป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 1994 โดยจะมีการทดแบบทดสอบ และการสัมภาษณ์ต่างๆ ระหว่างลูก แม่ และพ่อของผู้เข้าร่วมวิจัย ซึ่งพวกเขาก็ได้คำตอบว่าสติปัญญาของลูกจะได้จากแม่ มากกว่าพ่อเป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือ การเข้าไปศึกษาเกี่ยวกับยีนสติปัญญาของหนูทดลอง โดยทีมวิจัยได้ค้นพบว่าหนูที่มียีนตกทอดจากแม่มากกว่า จะมีขนาดสมองที่ใหญ่กว่า แต่ลำตัวจะเล็กกว่า ตรงกันข้ามกับหนูที่มียีนจากพ่อมากกว่า ซึ่งจะมีขนาดสมองที่เล็กกว่า แต่ลำตัวจะใหญ่กว่า และยีนความฉลาดที่ตกทอดจากแม่มาสู่ลูกจะพบได้มากในบริเวณ Cerebral Cortex (เปลือกสมอง) ซึ่งเป็นส่วนที่คอยสั่งการใช้ความคิดเชิงตรรกะ เช่น การเรียนรู้ภาษาหรือการวางแผน และเมื่อเปรียบเทียบกับ ยีนที่ตกทอดมาจากรุ่นพ่อแล้ว นักวิจัยพบว่ายีนชนิดนี้จะพบได้มากในบริเวณระบบลิมบิค (Lymbic System) ซึ่งเป็นส่วนที่ทำงานเกี่ยวกับกลไกการสืบพันธุ์ อาหาร และความโกรธเกรี้ยว จากการค้นพบดังกล่าวทำให้ทฤษฏีที่ว่า…
-
มันได้ว่ะ!! 23 การคอสเพลย์เกรียนโคตรยิ่งกว่า Kick-Ass สร้างสรรค์แบบสุดจะหยั่งถึง
ต้องยอมรับเลยนะว่าในสมัยนี้วัยรุ่น หรือกลุ่มคน มักจะเริ่มหันมาชื่นชอบการคอสเพลย์กันมากขึ้น และนั่นก็ทำให้เราได้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน ที่ได้พยายามเนรมิตผลงานของตัวเองให้ออกมาดีที่สุด บางคนก็ถึงขั้นแต่งให้ออกมาเหมือนจริงมาก แต่จะว่าไปแค่การแต่งคอสเพลย์แบบเหมือนจริงมันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ ไปซะแล้ว แต่ถ้าหากเราใส่ความแปลก และความฮาลงไปด้วย มันจะต้องน่าสนใจขึ้นมากๆ เลยละว่าไหม เหมือนดังเช่น 23 ภาพการแต่งคอสเพลย์ของผู้คนเหล่านี้ ที่พากันมาแบบจัดหนักจัดเต็มซะเหลือเกิน บางคนก็แต่งได้อย่างสวยงาม บางคนก็สร้างสรรค์สุดๆ ในขณะที่บางคนก็มาแนวแปลก และฮา ถ้าอย่างนั้นมาดูกันเลยว่าใครจะเข้าตาเพื่อนๆ มากที่สุด เมื่อเขาคนนี้พยายามที่จะทำท่าทางเหมือนเดินฝ่าพายุเฮอริเคน แต่งเป็นของเล่นทหารเขียว เมื่อพวกเขาพากันแต่งตัวในธีมรถไฟเหาะ สุดยอดดดด เมื่อปีเตอร์แพนผู้มาพร้อมกับเงาตามตัว พบกับ Jon Snow White! หื้มมมมม? หนุ่มพิการที่คอสเพลย์เป็น Mad Max ศาสตราจารย์ควีเรลล์ก็มา ดูราวกับเป็นภาพโทนขาวดำเลย พบกับ Vincent Vega กับฉากมีมที่แชร์กันกระจาย นี่เหมือนจะเป็นนักข่าวอุตุนิยมวิทยาที่แต่งตัวแปลกแหวกแนวที่สุดแล้ว การทำใบหน้าตัวเองให้เป็นภาพแบบเบลอๆ หนูน้อยหมวกแดงกับคุณยาย Che…
-
17 ภาพพฤติกรรมเกรียนๆ ของเหล่าพ่อบ้าน ที่ภรรยาเห็นแล้วถึงกับกุมขมับไปตามๆ กัน
ในยุคนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือชาย ก็มักจะมีความเท่าเทียมกันทั้งนั้น เพราะผู้หญิงจะออกไปทำงาน ส่วนคุณผู้ชายกลายมาเป็นพ่อบ้านได้อย่างเต็มภาคภูมิ แต่บางครั้งการเป็นพ่อบ้านอาจจะไม่ได้ง่ายสำหรับใครหลายๆ คน เพราะไหนจะต้องทำตามคำสั่งศรีภรรยา ไหนจะต้องซักผ้า รีดผ้า เรียกได้ว่ามันเป็นอะไรที่ยากเย็นฝุดๆ เหมือนดังเช่นพฤติกรรมเกรียนๆ ของพ่อบ้านเหล่านี้ ที่พยายามจะเอาใจภรรยาแสนรัก โดยการหาวิธีการแปลกๆ มาแกล้งภรรยาอยู่เสมอ แถมบางวิธีก็ฮาเกินบรรยายซะด้วย แหมๆๆ แสบจริงๆ พอพับผ้าไม่ได้ก็เขียนโน๊ตทิ้งไว้แบบนี้แหละ เมื่อบอกให้เขาไปช้อปปิ้ง และเขาก็เลยซื้อไอศกรีมที่ลดราคากลับมา เมื่อปล่อยให้เขาอยู่บ้านกับเด็กๆ (ถ้าแม่ไม่รู้ = ไม่มีอะไรเกิดขึ้น) เมื่อคุณขอให้เขานำมาสปาเก็ตตี้มาต้มบนเตา เมื่อสามีทำอาหารให้ภรรยาสุดรัก แต่ดันทำตอนเมาเนี่ยสิ… การแขวนกระจกในห้องน้ำของสามี ที่ไม่ดูความสูงของภรรยาเอาซะเลย ฮร่าๆ กุหลาบมันมีวันเหี่ยว ดังนั้นผมไม่เอามันมาให้คุณหรอก ถ้าอย่างนั้นก็เอามือถือไปเลยก็แล้วกัน เพราะมันอยู่ยงคงกระพันเหมือนรักของเราแน่นอน เมื่อให้สามีช่วยตีวิปครีมให้หน่อย เย้ยยย!! ไม่ให้ดื่มเบียร์ใช่ไหม ได้เลยยยย เพราะแต่งงานแล้ว เลยไม่จำเป็นต้องหวานกันในวันวาเลนไทน์ก็ได้ พอขอให้ทำความสะอาดตู้เย็น ผลงานที่ได้คือ… …
-
นักวิจัยเผย ในอนาคตเราจะเห็น ‘ความฉลาด’ ของเด็กตั้งแต่อยู่ในท้อง ข่าวดีหรือหายนะของเด็ก!?
สำหรับพ่อแม่แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องหวังอยากให้ลูกของตนเองเติบโตขึ้นมาเป็นคนเก่ง คนฉลาด กันทั้งนั้น แต่แน่นอน ไม่มีใครทราบได้ว่า อนาคตของลูกๆ พวกเขาจะเติบโตมาเป็นคนเก่งหรือไม่ จนกว่าจะถึงวันที่พวกเขาเติบโตขึ้นมาจริงๆ แต่ล่าสุดนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย King’s College ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษเผยว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ เราอาจทราบ “ความฉลาด” ของลูกได้ตั้งแต่ในท้อง ผ่านการตรวจดีเอ็นเอ!! ทางนักวิจัยได้คิดค้น Polygenic Score หรือค่าคะแนนทางพันธุกรรม โดยมีพื้นฐานมาจากตัวแปรทางพันธุกรรม 74 ตัว ซึ่งเกี่ยวข้องกับสมรรถภาพในการเรียนรู้ของมนุษย์ นั่นแปลกว่า เราอาจ “คาดเดา” ความเก่งกาจในการเรียนหนังสือของบุคคลนั้นๆ ผ่านทางการตรวจดีเอ็นเอนั่นเอง รายงานกล่าวว่า ความสำเร็จทางการศึกษาของคนทั่วไป จะขึ้นอยู่กับลักษณะของดีเอ็นเอถึง 10% เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายอาจเป็นกังวลว่า การที่เราสามารถวัดความสามารถของลูกได้ตั้งแต่ในท้อง จะทำให้เกิดปัญหากับเด็กหรือเปล่า เพราะพ่อแม่หลายคนอาจรู้สึกผิดหวัง หากได้ทราบผลว่าลูกของพวกเขาอาจไม่ประสบผลสำเร็จในการเรียนแล้ว หรือนี่มันอาจจะนำไปสู่ปัญหาการทำแท้งเพราะได้ลูกไม่ฉลาด หรือกระทั่งไม่ภาคภูมิใจในพวกเขาตั้งแต่แรกด้วย!? แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง การที่พ่อแม่สามารถรู้ได้ว่าลูกของพวกเขาจะประสบความสำเร็จในการศึกษาหรือไม่ จะเป็นเรื่องดีหรือว่าเรื่องเลวร้ายกันแน่ ลองแสดงความเห็นกันเข้ามานะเหมียววว ที่มา…