ชายผู้เคยทำงานใน Area 51 อ้างถูก FBI ค้นบ้าน เพื่อหาเทคโนโลยีของต่างดาว!!

หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อของ Area 51 กันมาบ้างแล้ว มันคือ ‘หน่วยงานลับในตำนาน’ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เล่าลือกันว่าในที่แห่งนี้มีการวิจัยเกี่ยวกับ ‘มนุษย์ต่างดาว’ อยู่!?

แต่ล่าสุดมีชายคนหนึ่ง ที่อ้างตัวว่าตัวเองเคยเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ ที่เคยทำงานใน Area 51 ออกมาเปิดเผยความลับถึงการทำงานข้างในนั้นผ่านทางภาพยนตร์แนวสารคดี

ชายคนดังกล่าวชื่อว่านาย Bob Lazar วัย 59 ปี เขาอ้างว่าตัวเองทำงานเป็นวิศวกรเกี่ยวกับสิ่งที่มาจากนอกโลก ในหน่วยงานที่มีชื่อว่า S-4 ซึ่งเป็นหน่วยงานย่อยของ Area 51

 

 

เขาให้ความร่วมมือกับนักข่าว George Knapp ร่วมกันถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับความลับที่อยู่ภายใน Area 51 ก่อนที่เรื่องราวเหล่านั้นจะถูกนำมาร้อยเรียงให้กลายเป็นภาพยนตร์โดยฝีมือของผู้สร้างหนัง Jeremy Corbell และใช้ชื่อหนังเรื่องนี้ว่า Bob Lazar

ในหนังจะมีเนื้อหาที่เปิดเผยว่า ‘USAF (กองทัพอากาศสหรัฐฯ) ได้ทำการเก็บกู้ซากของยานอวกาศมนุษย์ต่างดาวมาไว้ที่ศูนย์ Area 51 ในทะเลทรายเนวาดา และทำการศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านั้น’

 

 

หลังจากที่หนังถูกเปิดเผยออกมาไม่นานพี่แกก็ออกมาอ้างอีกว่า ตอนนี้ถูก FBI บุกค้นบ้าน เพราะต้องสงสัยว่าเขาแอบเอาเทคโนโลยีต่างดาวติดตัวออกมาด้วย!!

“มีรถคันสีดำมากมายมาจอดที่หน้าบ้านของผม พวกเขาเดินเข้ามาพร้อมกับบอกว่า ‘เรามีคำถามสักสองถึงสามคำถามมาถามคุณ และจะมีพวกเราเดินทางมาสมทบอีก’ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดดำก็เต็มบ้านผมไปหมด”

นาย Lazar เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่ของรัฐมาที่บ้านผมเพื่อตามหาสสารชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Element 115 เป็นสารเคมีที่ใช้เป็นพลังงานในยานอวกาศของเหล่าเอเลียน

 

 

อย่างไรก็ตามชาวเน็ตหลายคนก็มองว่า การที่นาย Lazar ทำแบบนี้ก็เป็นเพราะต้องการที่จะโปรโมตหนังของตัวเอง

เพราะก่อนหน้านั้นไม่กี่วันนาย Lazar ได้เดินทางไปยังลอสแองเจลลิสร่วมกับนักข่าวและผู้สร้างหนังในงานเปิดตัวหนังของพวกเขา

ในวันต่อมาหนังเรื่องนั้นก็ถูกปล่อยลงใน iTunes และมันได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม จนยอดการเข้าชมขึ้นอันดับ 1 เลยทีเดียว

 

 

“หนังของผมนำเสนอเรื่องราวของ Bob Lazar ถึงการกล่าวอ้างของเขา มันเป็นข้อมูลด้านหนึ่งซึ่งคุณจะเชื่อ หรือไม่เชื่อก็ได้ ลองไปดูในหนังแล้วตัดสินใจกันเอาเอง” นาย Corbell ผู้สร้างหนังกล่าว

 

ที่มา : ladbible, express


Tags:

Comments

Leave a Reply