พ่อแม่ถูกจับ หลังให้ลูกวัย 1 ขวบ 7 เดือน กิน “อาหารมังสวิรัติแบบสุดโต่ง” จนขาดสารอาหาร

พ่อแม่หลายๆ คนอาจต้องการให้ลูกได้กินแต่อาหารดีๆ มีคุณค่าทางโภชนาการ เชื่อว่ามันจะต้องส่งผลดีต่อลูกน้อยของเขาในระหว่างการเจริญเติบโต แต่บางครั้งความเชื่อนั้นก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายเด็กได้เหมือนกัน

ตัวอย่างในลักษณะนั้นได้เกิดขึ้นกับทารกน้อยวัย 1 ขวบ 7 เดือนในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อคุณพ่อวัย 34 ปีและคุณแม่วัย 32 ปีของเธอ บังคับให้ต้องกินแต่ “อาหารมังสวิรัติแบบสุดโต่ง”

 

พ่อแม่ทั้งสองคนนั้น

 

พ่อแม่ทั้งสองคนนั้น (ไม่ระบุชื่อ ตามสิทธิ์ทางกฎหมาย) จะให้ลูกสาวตัวน้อยกินข้าวโอ๊ต 1 ถ้วยกับนมข้าว และกล้วยครึ่งลูก เป็นมื้อเช้าของทุกๆ วัน สำหรับมื้อเที่ยงก็จะเป็นขนมปังปิ้งทาแยมหรือเนยถั่ว

ปิดท้ายด้วยมื้อเย็น ซึ่งตามปกติแล้วลูกสาวของเธอมักจะพยายามเรียกร้องจะกินเต้าหู้ ข้าว หรือมันฝรั่ง แต่คนเป็นแม่กลับบอกว่าลูกสาวตัวเองเป็น “คนกินจุกจิก” จึงบังคับให้มื้อเย็นเป็นข้าวโอ๊ตเหมือนเดิม

แต่แล้วอาหารการกินเหล่านั้นก็ได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเด็ก เพราะมันทำให้เธอขาดสารอาหาร มีน้ำหนักตัวเพียงแค่ 4.9 กิโลกรัม และป่วยเป็นโรคกระดูกอ่อนในเด็ก (อาจเกิดกระดูกหักหรือผิดรูปได้)

 

ลักษณะอาการของโรคกระดูกอ่อนในเด็ก

 

ในเดือนมีนาคม 2018 ลูกสาวตัวน้อยจึงต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยแพทย์พบว่าเด็กมีอาการขาดสารอาหาร ทั้งขาดแคลเซียม, ฟอสเฟต, วิตามินบี 12, วิตามินเอ, ธาตุเหล็ก และซิงค์

นอกจากนั้นวิตามินดีก็ยังอยู่ในระดับที่ “ตรวจไม่พบ” นั่นคือมันต่ำเอามากๆ และส่งผลให้เธอมีอาการของโรคกระดูกอ่อนในเด็ก ขนาดที่หมอบอกว่าหากอุ้มหรือจับตัวเธอตามปกติก็อาจทำให้กระดูกแตกหักได้เลย

 

 

จากการตรวจสอบจึงทราบว่าเหตุผลที่เด็กขาดการเจริญเติบโตขนาดนี้ก็เพราะอาหารที่พ่อแม่บังคับให้เธอกินอยู่ทุกวัน มันจึงนำไปสู่การจับกุมตัวทั้งสองคนจากความผิดพลาดในการเลี้ยงดูลูก ส่งผลให้เกิดอันตรายสาหัสต่อร่างกาย

เมื่อตำรวจถามคนเป็นพ่อว่า “ไม่ผิดสังเกตเลยหรือ ที่ลูกแทบไม่เจริญเติบโตเลย” คำตอบที่ได้คือ เขาคิดว่าเด็กผู้หญิงแตกต่างจากเด็กผู้ชาย เธอน่าจะตัวเล็กกว่า เพราะก่อนหน้านี้เขามีแต่ลูกผู้ชายมาโดยตลอด

 

 

ปัจจุบัน ทารกน้อยได้เข้ารับการดูแลอยู่ในสถานพักฟื้น ร่วมกับพี่ชายอีกสองคนอายุ 4 และ 6 ขวบ โดยตอนนี้เธอมีน้ำหนักขึ้นมาเป็น 6 กิโลกรัม และสามารถลุกยืนได้ด้วยตนเอง หากแต่ยังต้องอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป

ส่วนทางด้านผู้ปกครองทั้งสองคนนั้นก็ยังคงเข้าออกศาลเพื่อต่อสู้คดีตามกฎหมาย โดยการตัดสินโทษเบื้องต้นอาจทำให้พวกเขาต้องเข้าไปนอนในคุกนานหลายปี และอาจหมดสิทธิ์ดูแลลูกๆ ทั้ง 3 คน

พวกเขาจะต้องขึ้นศาลครั้งต่อไปในวันที่ 16 มกราคม 2019

 

ที่มา: thesun , dailymail , mirror


Tags:

Comments

Leave a Reply