นางแบบสาวระดับโลก ตามหา ‘ผู้ช่วยชีวิต’ จากเหตุสึนามิในไทยเมื่อ 14 ปีก่อน

หากย้อนกลับไปในปี 2547 หรือเมื่อ 14 ปีก่อน ประเทศไทยของเราต้องประสบกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่าง ‘สึนามิ’

มีผู้คนมากมายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ หนึ่งในนั้นก็คือ Petra Němcová นางแบบสาวชื่อดังระดับโลกชาวสาธารณะรัฐเช็ก ที่สูญเสียคู่หมั้นไปในเหตุโศกนาฏกรรมในครั้งนั้น

 

 

ขณะเดียวกันเธอรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์จากการช่วยเหลือของคนในพื้นที่ วันเวลาล่วงเลยผ่านไป ตอนนี้เธอตั้งใจที่จะตามหาคนที่เคยช่วยเหลือเธอเพื่อตอบแทน

เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pokchonn Dissayabutra ซึ่งผู้จัดการส่วนตัวของดาราคนหนึ่ง ได้ทำการบอกเล่าเรื่องราวของ Petra ในวันเกิดเหตุโศกนาฎกรรมดังนี้

“ช่วยตามหาด้วยนะคะ!! ชายไทย 2 คน และ เด็กอายุ 14 ปี ที่นางแบบระดับโลกต้องการพบตัวมากที่สุด!! ย้อนไปเมื่อ 14 ปีก่อน วันที่ 26 ธ.ค. 2547 เกิดสึนามิครั้งใหญ่ขึ้น

หลังเหตุการณ์ไม่นานเราได้รับการติดต่อจากเพื่อนคนนึงว่า Petra Nemcova นางแบบชื่อดังระดับโลกเดินทางมาเที่ยวที่เขาหลักกับ Simon Atlee คู่หมั้นช่างภาพชาวอังกฤษ

 

Petra และ Simon คู่หมั้นของเธอ

 

ทั้งคู่หายไปไม่มีใครติดต่อได้ ขอให้ช่วยกันตามหาตัวแบบปิดเป็นความลับระดับสุดยอด เนื่องจากขณะนั้นข่าวได้ออกไปทั่วโลกแล้วว่า Petra อยู่ในพื้นที่สึนามิ

สื่อต่างประเทศและเหล่าปาปารัซซี่ค่อนโลกตามหาตัว Petra กันสนั่น วุ่นวายถึงขนาดตั้งรางวัลสำหรับภาพ Petra ในประเทศไทยในราคาที่สูงมาก

 

ภาพถ่ายของ Petra ในโรงพยาบาลที่เธอถ่ายและขายมันให้กับนักข่าวเพื่อหาเงินไปก่อตั้งมูลนิธิ

 

เราเริ่มตามหาโดยลงพื้นที่เขาหลักในวันรุ่งขึ้น ไปตามหาตามรพ.ต่างๆ ไม่พบข้อมูล ตอนนั้นทุกที่ชุลมุนมาก ยากมากจริงๆ

จนได้รับสายจากเพื่อนว่า ตอนนี้พบตัวแล้วแต่พบแค่ Petra คนเดียว ยังหา Simon ไม่พบ หลังจากนั้นข้อมูลของเธอทุกอย่างถูกปิดเป็นความลับเพื่อปกป้องสิทธิ์ของผู้ป่วย เราทราบแค่ว่า Petra อาการสาหัสมากทั้งทางร่างกายและจิตใจ

เรื่องราวจบกันไปเท่านั้น ผ่านไป 5 เดือน เราได้รับการติดต่ออีกครั้งว่า Petra จะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อลงพื้นที่ประสบภัยและทำการระลึกถึง Simon คู่หมั้นของเธอที่สุดท้ายแล้วเสียชีวิต

ใช้เวลานับเดือนกว่าจะตรวจพิสูจน์จนยืนยันได้ว่าคือ Simon การเดินทางมาไทยครั้งที่ 2 ของ Petra เรามีโอกาสได้ดูแล Petra และเพื่อนๆ 2-3 คน

 

.

 

เราพา Petra ไปดูความเสียหาย ดูชีวิตผู้คนในพื้นที่สึนามิหลังเหตุการณ์ ภาพเด็กนับร้อยที่พ่อแม่ตายจากสึนามิกระทบจิตใจ Petra มาก Petra ถามเราว่าเธอจะช่วยอะไรเด็กพวกนี้ จะช่วยอะไรประเทศไทยได้บ้าง

เพราะตอนที่เธอบาดเจ็บ คนไทยและประเทศไทยทำให้เธอประทับใจและเปลี่ยนเป้าหมายในชีวิตครั้งใหญ่ ปรึกษากันไปมาจบที่เธอจะกลับไปตั้งมูลนิธิ Happy Hearts Fund. เพื่อหาเงินมาช่วยเหลือเด็กที่ถูกผลกระทบจากสึนามิ

ตอนที่คุยกันเรื่องนี้เราอยู่กันที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 ในพระบรมราชูปถัมน์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เราขอคอมพิวเตอร์ให้โรงเรียนนี้สัก 10-15 เครื่อง

เธอบอกเธอรู้จักคนใน HP เธอจะจัดการให้ หลังจากเธอกลับไปไม่นาน คอมพิวเตอร์ครบชุดจาก HP ถูกส่งมาที่ภาคใต้ของไทยถ้าจำไม่ผิดคือมากกว่า 300 เครื่อง 

 

 

เธอบอกให้มอบให้ทุกโรงเรียนในพื้นที่ประสบภัย โดยเฉพาะโรงเรียนของในหลวง(ในเครือราชประชานุเคราะห์ฯ) ให้เด็กได้มีสื่อการเรียน เธอระดมเงินทุนทุกทางและบินกลับมาไทยเกือบทุกปีในช่วง 5 ปีแรกหลังสึนามิ เพื่อซ่อมและสร้างโรงเรียนและอื่นๆ อีกมากมายให้เด็กไทย

Petra เล่าให้เราฟังว่า วันนั้นที่สึนามิเข้า คู่หมั้นเธอกำลังแพ็คกระเป๋าเตรียมเช็คเอาท์อยู่ในรีสอร์ทที่เขาหลัก ส่วนเธออยู่ในห้องน้ำ แล้วก็มีเสียงดังมาก จับไม่ได้ว่าเสียงอะไร

เธอร้องเรียก Simon แล้วเธอก็ถูกคลื่นยักษ์พัดลอยสูงขึ้นไป ข้าวของมากมายกระแทกตัว คลื่นซัดสูงขึ้นไปเข้าหาแผ่นดิน แล้วคลื่นก็ม้วนเอาเธอและทุกสิ่งอย่างดูดลงกลับสู่ทะเล

โชคดีที่จังหวะนี้เธอโดนซัดไปกระแทกกับยอดต้นปาล์ม เธอคว้าต้นปาล์มไว้แน่น ข้าวของชิ้นใหญ่ๆที่มากับน้ำก็กระแทกอัดเข้าที่ตัวเธอซ้ำๆ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกเชิงกรานแตกหัก 4 จุด มีเลือดคั่งในช่องท้องและมดลูก พอน้ำค่อยๆลดกลับลงทะเล

 

 

เธอถึงได้รู้ว่าเธอกำลังค้างอยู่บนยอดต้นปาล์ม เพทราเล่าว่าเจ็บปวดและตกใจมาก ขวัญเสีย มองไปทางไหนเห็นศพ เห็นคนมีแผลใหญ่เหวอะหวะเลือดแดงฉาน เห็นข้าวของเกลื่อนไปหมด เธอติดอยู่บนนั้นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นานถึง 8 ชม.!!

จนชายไทยคาดว่าจะเป็นคนท้องถิ่นไปพบและไปตามคนมาช่วยนำเธอลงจากต้นปาล์มไปส่งรพ. เธอพักรักษาตัวที่รพ.ในเขาหลัก 1 คืนด้วยอาการสาหัสและไม่มีใครทราบว่าเธอคือนางแบบโลก

วันรุ่งขึ้นเธอถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.มอ. ด้วยเครื่องบินของกองทัพไทยพร้อมคนเจ็บอาการหนักอีก 27 คน เพทราร้องไห้ตลอดเวลา สับสน เจ็บปวด ขวัญเสีย คนไข้ชายไทยเตียงข้างๆ ถอดสร้อยคอพร้อมพระ 1 องค์ยื่นให้เธอ เพื่อเป็นการปลอบขวัญ

ตั้งแต่นั้นมา Petra ห้อยสร้อยพระนี้ตลอดเวลา กลับมาเมืองไทยกี่ครั้งเราก็เห็นห้อยมาตลอด เมื่อถึง รพ. Petra รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ไม่รู้ชะตากรรมของ Simon

การอยู่ตัวคนเดียวในต่างบ้านต่างเมืองกับอาการบาดเจ็บที่รุนแรง อาชีพนางแบบจะกลับมาทำได้อีกรึเปล่า ทุกอย่างทำให้ Petra แตกสลาย เจ็บป่วยทั้งกายและใจ ร้องไห้ตลอดเวลาไม่ยอมพูดจากับใครเลย

 

 

ตอนนั้นสื่อไทยบางกลุ่มรู้แล้วว่า Petra อยู่ที่นี่ แต่ทุกคนน่ารักมาก มีจรรยาบรรณช่วยกันปกปิดข้อมูลของเธอไม่ให้รั่วถึงปาปารัซซี่ต่างชาติ ทางรพ.ก็ย้ายเธอไปไว้อีกตึกเพื่อกันการใช้เรื่องของเธอไปหาผลประโยชน์

คุณหมอธนะรัชต์ 1 ในทีมแพทย์ที่รักษา Petra เห็นว่า Petra ไม่ยอมพูดยอมคุยกับใคร ตอนนั้นเพื่อนเธอบินมาอยู่กับเธอแล้ว เธอร้องโอดโอยเจ็บปวดสาหัสอยู่ตลอดเวลา

คุณหมอเห็นเธอห้อยสร้อยพระ เลยเข้าใจว่าเธอเป็นชาวพุทธ หมอท่านเลยให้แนวคิดของท่านพุทธทาสภิกขุว่า “ไม่มีใครทำให้เราทุกข์ได้ถ้าเราไม่ทุกข์ ไม่มีใครทำให้เราสุขได้ถ้าเราไม่สุข เราทุกข์เพราะเราทำให้ทุกข์ เราสุขเพราะเราทำให้สุข จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว”

หมอสอนให้เพทราฝึกสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ เพียงแค่คืนเดียว เช้ารุ่งขึ้น Petra สดใสร่าเริงขึ้น เจ็บปวดน้อยลง ยอมพูดคุยกับเพื่อนและหมอ เธอบอกให้เพื่อนเธอถ่ายภาพเธอในชุดผู้ป่วยบนเตียงคนไข้ แล้วส่งไปที่นิวยอร์กเพื่อหาทุนในการช่วยเหลือเหยื่อสึนามิในไทย

 

 

ภาพนั้นทำราคาได้สูงมากกกกกกทีเดียว ตั้งแต่นั้นมา Petra ปวารณาตัวเป็นผู้ให้ กองทุนของเธอระดมเงินมากมายช่วยเหลือเหยื่อสึนามิที่เป็นเด็กทั่วเอเชีย โดยเฉพาะเด็กไทยอย่างต่อเนื่องจนทุกวันนี้

เอาล่ะค่ะ!! เล่ามายาว เพียงเพื่อจะบอกว่า อีก 2 อาทิตย์นี้ ต้นเดือนธันวาคม Petra จะกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง เพื่อทำสารคดีเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอกับสึนามิในประเทศไทยเผยแพร่ทั่วโลก

บอกเล่าถึงความโหดร้ายของสึนามิที่เธอเจอ ความน่ารักของคนไทยที่มีให้เธอ และที่สำคัญที่สุด เพทราบอกว่าให้เราช่วยตามหาคน 3 คน เธอต้องการเจอตัวแบบส่วนตัวมากๆ นั่นก็คือ

1. ชายไทยคนแรกที่พบเธอบนยอดต้นปาล์ม แล้วไปตามคนมาช่วยเอาเธอลงมา 2. คนเจ็บชายไทยเตียงข้างๆที่ถอดสร้อยพระให้เธอ ระหว่างนำตัวส่งไปรักษาต่อที่ รพ.มอ. 3. เด็กผู้หญิงคนนึง ที่ Petra บอกว่าคลอดในวันเกิดสึนามิ และถูกตั้งชื่อว่า “สึนามิ”

เราได้พยายามสืบหาข้อมูลทั้ง 3 คนทุกทางแล้ว ไม่พบข้อมูลเลย อยากขอความช่วยเหลือพวกเราช่วยกันแชร์ ช่วยกันตามหา 3 คนนี้หน่อยนะคะ โดยเฉพาะชายไทย 2 คนแรก Petra ต้องการพบเพื่อขอบคุณด้วยตัวเองเป็นการส่วนตัวเลยค่ะ

เรื่องดีๆ ของคนไทย ช่วยเราตามหาพวกเค้าหน่อยนะคะ หากมีข้อมูล กรุณาติดต่อมาที่ FB เราได้เลยนะคะ Pokchonn Dissayabutra และขออภัยล่วงหน้า หากทางเราต้องขอหลักฐานยืนยันตัวตนอย่างจริงจังด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”

 

โพสต์ต้นฉบับ

 

ก็ขอให้พบเจอโดยเร็วนะครับ ^^

 

ที่มา : Pokchonn Dissayabutra

Comments

Leave a Reply