CNN เตรียมยื่นฟ้อง “ทำเนียบขาว” หลังผู้สื่อข่าวโดนขัดจังหวะ และถูกแย่งไมค์ไปจากมือ

CNN คือสำนักข่าวสัญชาติอเมริกันที่โด่งดังไปไกลทั่วทุกมุมโลก จากการเป็นผู้นำของสื่อทั้งในโทรทัศน์และโลกออนไลน์มาอย่างยาวนานเกือบ 40 ปี

และล่าสุดสำนักข่าวดังกล่าวก็เตรียมที่จะยื่นฟ้อง “ทำเนียบขาว” (White House) ของสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ผู้สื่อข่าวของพวกเขาถูก Donald Trump เพิกเฉยไปในการแถลงข่าวเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ผ่านมา

 

Trump เพิกเฉย ไม่สนใจในคำถามของผู้สื่อข่าว แสดงความไม่พอใจต่อ CNN

 

ในวันที่ 12 พฤศจิกายน มีการรายงานว่าสำนักข่าว CNN มองว่าการเพิกเฉยที่เกิดขึ้นนั้นสามารถนำไปดำเนินคดีทางกฎหมายกับทางทำเนียบขาวได้

โดยในคลิปการแถลงข่าว เราจะเห็นว่า Trump ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับ Jim Acosta ผู้สื่อข่าวของทาง CNN และยังมีการพูดต่อว่าสำนักข่าวดังกล่าวออกมาอย่างชัดเจน

 

 

อย่างที่หลายๆ คนทราบกันดีว่าสำนักข่าว CNN กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นเหมือนศัตรูที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ Trump เลือกที่จะไม่ขอพูดคุยกับคนที่เป็นเหมือนศัตรูของเขา

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยหลักนำไปสู่การเตรียมจะฟ้องร้องในครั้งนี้ก็คือการที่ “หญิงสาวเด็กฝึกงาน” ของทางทำเนียบขาวที่พยายามแย่งไมโครโฟนออกไปจากมือของผู้สื่อข่าว

 

 

เมื่อ Jim พูดปฏิเสธไม่ยื่นไมโครโฟนให้ หญิงสาวก็ยังคงพยายามสอดมือเข้าไปแย่งอยู่ดี จนเขาต้องยกมืออีกข้างขึ้นมาปัด และสุดท้ายก็ต้องยินยอมปล่อยไมโครโฟนไปในที่สุด

 

คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

สำหรับการที่ CNN เตรียมที่จะฟ้องร้องทางทำเนียบข่าวนั้น ก็เป็นเรื่องที่หลายๆ ฝ่ายเห็นด้วยและพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่

Sam Donaldson อดีตผู้สื่อข่าวและผู้ประกาศข่าวของทางสำนักข่าว ABC News มองว่าการที่ Trump ทำท่าทีเพิกเฉยต่อ Jim และสั่งแบนไม่ให้ผู้สื่อข่าวคนนี้เข้าทำเนียบขาวอีก นั่นถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น

Sam มองว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของ “ความไม่ถูกต้อง” และ “ความอยุติธรรม” และมันยังเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และเป็นอันตรายต่อการแถลงข่าวทั้งหมดที่ผ่านมาและอาจเกิดขึ้นในอนาคต

 

การถกเถียงกันถึงการที่ Trump เพิกเฉยต่อผู้สื่อข่าวของ CNN

 

อย่างไรก็ตาม CNN ได้ออกมาประกาศล่าสุดว่าพวกเขายังไม่ได้ดำเนินการในทันที แต่ก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำให้เรื่องนี้ถูกดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

ที่มา: dailymail , theguardian , businessinsider


Tags:

Comments

Leave a Reply