นักบำบัดผู้อ้างว่า “รักษาการรักร่วมเพศได้” สุดท้ายถูกพบว่าใช้ “แอปฯ เกย์” นัด*อยู่เป็นประจำ!!

Norman Goldwasser คือนักบำบัดวัย 46 ปีในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ผู้อ้างว่าตนเองสามารถ “รักษาการรักร่วมเพศได้” โดยมองว่าเป็นเหมือนอาการทางจิตคล้ายกับ “โรคย้ำคิดย้ำทำ”

เขาคือผู้อำนวยการคลินิก Horizon Psychological Services ที่คนท้องถิ่นรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยแนวคิดและวิธีการบำบัดที่บอกว่าจะสามารถเปลี่ยนให้คนรักร่วมเพศหันมารักเพศตรงข้ามได้

 

Norman นักบำบัดผู้มองว่า “การรักร่วมเพศ” คือความผิดปกติที่แก้ไขได้

 

แต่แล้วอดีตคนไข้ของเขาก็ได้ไปพบว่า Norman เองก็แอบใช้ “แอปฯ หาคู่เกย์” อยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นแอปฯ ที่ชื่อว่า Manhunt หรือ Gay Bear Nation

นักบำบัดคนนี้ใช้ชื่อไอดีว่า hotnhairy72 พร้อมกับลงรูปเปลือยของตัวเอง พร้อมบอกว่าตนเองสนใจในเรื่องของการจูบ ออกเดต การนวดกับผู้ชาย และชอบผู้ชายที่แต่งงานแล้ว อยากชวนให้ไปทำกิจกรรมทางเพศกัน

 

หน้าโปรไฟล์ของเขา

 

อดีตคนไข้ที่ได้ไปพบความลับนี่เข้าก็ได้นำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งกับกลุ่ม Truth Wins Out กลุ่ม LGBT (บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) ซึ่งคอยต่อต้านการบำบัดในลักษณะเดียวกับของ Norman

พวกเขาไม่ต้องการให้คนมองว่า “การรักร่วมเพศ” คือความผิดปกติหรืออาการทางจิตในแบบที่นักบำบัดหนุ่มตีความ มองว่านั่นคือการชี้นำผู้อื่นในทางที่ผิด และพวกเขาก็ได้ร่วมมือกับอดีตคนไข้ในการเปิดโปงความลับดังกล่าว

 

 

Wayne Besen ผู้ก่อตั้งของกลุ่ม ได้ใช้ชื่อว่า Brandon เข้าไปติดต่อขอนัดเจอกับ Norman ผ่านแอปฯ เหล่านั้น จนกระทั่งได้ไปเผชิญหน้ากันจริงๆ ในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งตามที่นัดกันไว้

ในตอนแรก Norman ปฏิเสธว่านั่นไม่ใช่เขา แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมรับสารภาพแต่โดยดี และอ้อนวอนขอความเมตตาจากอีกฝ่าย

ท้ายที่สุดแล้วในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2018 นักบำบัดหนุ่มก็ได้ออกมากล่าวกับสื่อมวลชนว่า “มันคือเรื่องจริงที่ว่าเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ ได้ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะและมันก็ทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน”

“แต่ยังไงผมก็จะนำความเจ็บปวดนี้ไปเป็นแรงกระตุ้นในการมองหาตัวช่วยที่เหมาะสมกับตัวเอง”

 

 

เขากล่าวต่อไปว่า “เป็นเรื่องที่น่าเศร้าว่าผมสามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากมายมานานหลายปี ช่วยเด็กๆ ที่ถูกกระทำชำเรา ช่วยคนที่เสพติดกามารมณ์ได้ แต่กลับไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้”

“ผมจะไม่ขอให้เหตุผลเกี่ยวกับการกระทำของตัวเอง และรู้สึกผิดจากใจจริงต่อการที่ทำให้คนรอบข้างในชีวิตของผมนั้นต้องรู้สึกเจ็บปวด”

 

ที่มา: nzherald , nbcnews , dailymail

Comments

Leave a Reply