ฮิโร โอโนดะ สุดยอดชายชาติทหาร ผู้ใช้เวลาสามสิบปีรบในป่า โดยไม่รู้ว่าสงครามจบไปแล้ว

ร้อยตรี ฮิโร โอโนดะ เป็นทหารที่ตลอดทั้งชีวิตถูกเรียกด้วยฉายาอันหลากหลาย แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นหลายๆ คนแล้ว เขาคือสุดยอดของชายชาติทหาร

โอโนดะเป็นทหารหน่วยข่าวกรองที่ถูกส่งไปยังเกาะลูบัง ประเทศฟิลิปปินส์ ฝ่ายใต้คำสังที่ว่าให้เขาลอบโจมตีทหารพันธมิตรไปเรื่อยๆ ตามมอบตัว และห้ามฆ่าตัวตายเด็ดขาด

 

 

คำสั่งนี้เองที่ทำให้โอโนดะเข้าไปอยู่ในภูเขาพร้อมเพื่อนทหารจำนวนหนึ่ง และต่อสู้อยู่ในนั้นเรื่อยมา โดยที่ไม่ได้ทราบเลยว่า สงครามนั้นจบลงไปตั้งแต่ปี 1945 แล้ว

จริงอยู่ว่าในช่วงนั้น มีอยู่บ่อยครั้งที่พวกเขาได้รับใบปลิวจากคนในพื้นที่ที่บอกว่า สงครามมันจบลงไปตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมแล้ว แต่ด้วยความเชื่อมั่นในประเทศของตัวเอง โอโนดะและเพื่อนๆ กลับเชื่อว่าใบปลิวที่พบเป็นเพียงข่าวลวง

กว่าที่หนึ่งในทหารของโอโนดะจะเริ่มสงสัยว่าสงครามจบลงจริงๆ ก็เมื่อปี 1949 แต่การที่เขาไม่ได้กลับมาอีกเลยหลังจากที่ออกจากกลุ่มไปมอบตัวเมื่อปี 1950 กลับทำให้พวกโอโนดะหวาดกลัวยิ่งขึ้นไปแทน

 

 

แต่ต่อให้พวกเขาระวังตัวแค่ไหน ระหว่างการออกปฏิบัติการพวกเขาก็ค่อยๆ โดนยิงตายไปทีละคนอยู่ดี จนกระทั่งในปี 1972 หน่วยทหารที่อยู่ในภูเขาก็เหลือเพียงแค่โอโนดะเท่านั้น

โชคดีของเขาที่ในปี 1974 มีนักเดินทางชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเข้ามาหาเขาในป่า ทำให้โอโนดะทราบว่าสงครามโลกครั้งที่สองนั้นจบลงแล้วจริงๆ

 

 

อย่างไรก็ตามโอโนดะก็ยังไม่ยอมมอบตัวอยู่ดี โดยเขายื่นคำขาดว่าหากไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาหาเขา เขาจะอยู่ในป่าแห่งนี้ต่อไป

นั่นทำให้ทางรัฐบาลญี่ป่นทำการออกหาตัวเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่โอโนดะรู้จักอย่างเร่งด่วน และในปีนั้นเองพวกเขาก็พบกับนายโยชิมิ ทานิกุจิผู้บังคับบัญชาของโอโนดะ และพาเขาไปพบกับโอโนดะในป่าทันที

นั่นคือวันที่โอโนดะยอมออกมาจากป่าจริงๆ ในที่สุด และแม้ว่าเขาจะสังหารผู้คนด้วยความไม่รู้เป็นจำนวนมากทางประเทศฟิลิปปินส์ ก็ยกโทษให้กับเขาในเวลาต่อมาอยู่ดี

 

 

การอาศัยในป่าเป็นระยะเวลาสามสิบปีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ด้วยเหตุนี้เองโอโนดะจึงได้รับการต้อนรับกลับประเทศเยี่ยงวีรบุรุษ และใช้ชีวิตที่เหลือกับการสร้างค่ายการศึกษาให้กับเด็กเล็กในประเทศ

ฮิโร โอโนดะ เสียชีวิตในวัย 91 ปีเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2014 ด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว ทิ้งเอาไว้ซึ่งเรื่องราวของชายผู้รักชาติยิ่งชีพ ไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศสืบไป

 

 

ที่มา rarehistoricalphotosnytimesallthatsinteresting

Comments

Leave a Reply