การระเบิดของภูเขาไฟวิซุเวียสในปีคริสต์ศักราชที่ 79 นับว่าเป็นหนึ่งในการระเบิดที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ แถมยังเป็นที่มาของโศกนาฏกรรมแห่งเมืองปอมเปอี และเมืองเฮอร์คิวเลเนียมอีกด้วย
แต่เชื่อหรือไม่ว่าจากงานวิจัยใหม่ล่าสุดของมหาวิทยาลัยวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ดูเหมือนว่าเหยื่อจำนวนหนึ่งจากการระเบิดของภูเขาวิซุเวียส เสียชีวิตไปจากการที่สมองละลายและกะโหลกระเบิด
โดยสาเหตุการเสียชีวิตที่ฟังดูน่าสยดสยองนี้เชื่อกันว่าเกิดขึ้นจากความร้อนสูง ซึ่งอาจจะมาจากขี้เถ้าที่มาพร้อมกับการระเบิดของภูเขาวิซุเวียสนั่นเอง
นี่เป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นจากการที่นักวิทยาศาสตร์ตรวจพบโครงกระดูกจำนวนมากใกล้ๆ เมืองเฮอร์คิวเลเนียม ซึ่งหากนำไปตรวจสอบจะพบไอเอิร์น และไอเอิร์นออกไซด์ในปริมาณมาก
การพบสารเหล่านี้ในจำนวนมาก บวกกับรอยแตกที่กะโหลก เป็นหลักฐานอย่างดีว่าความร้อนจากภูเขาไฟทำให้เกิดแรงดันในสมอง ซึ่งมากพอที่จะทำให้กะโหลกระเบิด และสังหารเหยื่อในทันที
นอกจากนี้การที่กระดูกที่พบอยู่ในสภาพขดตัว (คล้ายกับการที่เหยื่อซึ่งถูกไฟคลอกมักจะเป็น) ยิ่งชี้ให้เห็นเขาไปอีกว่ากล้ามเนื้อของพวกเขาถูกเผาไหม้ไปในเวลาอันรวดเร็วด้วยความร้อนสูง
อย่างไรก็ตามงานวิจัยนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อโต้แย้งเลยเพราะมีนักวิทยาศาสตร์ออกมาบอกว่าการที่ศีรษะของมนุษย์จะระเบิดออกนั้นเป็นไปได้ยากมาก
เพราะแม้แต่ในเตาเผาศพในปัจจุบันซึ่งมีความร้อนสูงถึงราวๆ 1,000 องศาเซลเซียส กะโหลกของมนุษย์ก็ไม่มีร่องรอยว่าจะระเบิดออกมาอยู่ดี เนื่องจากคนเรามีปากและจมูกที่จะช่วยขับแรงดันในศีรษะออกมานั่นเอง
ถึงอย่างนั้นก็ใช้ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้ว่ากะโหลกของคนเราจะบอบบางลงจากการถูกเผาไหม้ ทำให้ในปัจจุบันทฤษฎีที่ออกมา จึงต้องรอการพิสูจน์กันต่อไป
ที่มา livescience, newshub, cnet
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.