11 คำพูดทำนายอนาคตในอดีต ที่เมื่อมองย้อนกลับไปแล้ว “พังสุดๆ” ผิดไปคนละโลก…

ตลอดช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีความพยายามในการทำนายอนาคตออกมามากมาย บางครั้งคำพูดของพวกเขาก็อาจจะตรงมากอย่างน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายๆ คนที่ทำนายอนาคตได้ผิด

ลองนึกภาพคุณไปบอกเพื่อนๆ ไว้ว่าหน้าอย่างคนนั้นคนนี้คงหาแฟนไม่ได้หรอกแล้ววันต่อมาคนที่ด่าก็ดันหาแฟนได้เสียอย่างนั้นสิ เชื่อว่าความรู้สึกมันก็คงประมาณนั้นล่ะ

 

“การเคลื่อนที่บนราง (รถไฟ) ด้วยความเร็วสูงมันเป็นไปไม่ได้ เพราะผู้โดยสารจะหายใจไม่ออกและตาย”

Dr. Dionysy Larder ศาสตราจารย์ปรัชญาธรรมชาติและดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน เคยกล่าวไว้ ในปี 1800

 

“เจาะหาน้ำมัน? หมายถึงคุณจะเจาะดินหาน้ำมันเหรอ? บ้าไปแล้ว!!”

สมาคมปฏิเสธความคิดในการเจาะหาน้ำมันของ Edwin Drake ในปี 1859

 

“โทรศัพท์มีข้อด้อยมากเกินไปที่จะเรียกว่าสื่อการสื่อสารจริงๆ”

บันทึกภายในของสหภาพตะวันตก จากปี 1876

 

“ทุกๆ คนที่คุ้นเคยกับหัวข้อนี้จะบอกว่ามันจะล้มเหลวแน่นอน”

Henry Morton ประธานสถาบันเทคโนโลยี Stevens กล่าวเกี่ยวกับหลอดไฟของ Edison ในปี 1880

 

“การบินด้วยเครื่องยนต์ที่หนักกว่าอากาศมันใช้งานไม่ได้จริง และไม่มีนัยสําคัญ ไม่งั้นก็เป็นไปไม่ได้ไปเลย”

Simon Newcomb นักดาราศาสตร์และนักคณิตศาสตร์มีชื่อ กล่าวไว้ 18 เดือนก่อนสองพี่น้อง Wright จะบิน

 

“ม้าเป็นสิ่งที่มั่นคง ในขณะที่รถยนต์เป็นเพียงของแปลกใหม่ ที่ได้รับความนิยมชั่วขณะเท่านั้น”

ประธานธนาคารมิชิแกนแนะนำทนายความไม่ให้ลงทุนกับบริษัทฟอร์ด 1903

 

“แนวคิดที่ว่าทหารม้าจะถูกทดแทนด้วยรถเหล็กพวกนี้มันไร้สาระมาก แทบจะเรียกว่าขายชาติได้เลย” 

Aide-de-camp กล่าวกับจอมพล Douglas Haig ในการแสดงรถถังเมื่อปี 1916

 

“ภาพยนตร์มันก็แค่ได้รับความนิยมชั่วขณะเท่านั้น มันคือการแสดงอัดกระป๋อง สิ่งที่คนต้องการจริงๆ หรือการได้เห็นเลือดเนื้อจริงๆ บนเวทีต่างหาก”

Charlie Chaplin นักแสดงชื่อดังกล่าวไว้เมื่อปี 1916

 

“มีใครอยากฟังนักแสดงพูดด้วยเรอะ?”

H.M. Warner หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Warner Brothers 1927

 

“โทรทัศน์มันอยู่ได้ไม่นานหรอก เพราะสักวันคนเราจะเบื่อที่จะต้องดูตู้ไม้ทุกคืนแน่ๆ”

Darryl Zanuck ผู้ผลิตภาพยนตร์ของ 20th Century Fox เมื่อปี 1946

 

“มันไม่มีเหตุผลที่มนุษย์คนไหนจะมีคอมพิวเตอร์ไว้ที่บ้าน”

Ken Olson ประธานบริษัทอุปกรณ์ดิจิทัล 1977

 

ที่มา boredpanda และ infographic

Comments

Leave a Reply