หากพูดถึงนักบินอวกาศที่มีชื่อเสียงคงมีหลายคนไม่น้อยที่นึกถึงยูริ กาการินนักบินอวกาศคนแรกของโลกที่สามารถเดินทางกลับโลกอย่างปลอดภัย แต่รู้กันหรือไม่ว่าเบื้องหลังความสำเร็จของยูริ กาการิน ยังมีชายผู้ซึ่งที่สละชีวิตของตัวเองเพื่อให้กาการินมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหนึ่งคน
เขาคือวลาดิเมียร์ โคมารอฟ นักบินหลักของยานอวกาศ Soyuz 1 และเพื่อนที่ดีของยูริ กาการิน
ภาพของ วลาดิเมียร์ โคมารอฟ
เรื่องในครั้งนี้เกิดขึ้นในปี 1967 ราวๆ 6 ปี หลังจากที่ยูริ กาการินกลายเป็นมนุษย์คนแรกของโลกขึ้นไปบนอวกาศได้สำเร็จ ทางสหภาพโซเวียตได้มีกำหนดการปล่อยยานอวกาศ Soyuz 1 ขึ้นสู่อวกาศอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามกำหนดการของ Soyuz 1 ค่อนข้างมีปัญหามากจนกินเวลานานกว่าที่ควรเป็น ทำให้ผู้บริหารระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์เริ่มจะทนไม่ไหว จนมีการกำหนดเส้นตายของการปล่อยจรวดขึ้น
ยูริ กาการินวีรบุรุษของประชาชน และเพื่อนสนิทของ วลาดิเมียร์ โคมารอฟ
นั้นทำให้การทำงานในโปรเจกต์นี้เต็มไปด้วยความตึงเครียด แต่ถึงแม้จะพยายามแค่ไหน ยานอวกาศก็ไม่พร้อมมากพอจะขึ้นบินอยู่ดี จนทางวิศวกรอยากให้มีการเลื่อนกำหนดการปล่อยยานออกไปก่อน ถึงขั้นที่กาการินเคยพยายามฝากข้อความ 10 หน้าที่เกี่ยวข้องกับการขอเลื่อนกำหนดการให้กับเพื่อนใน KGB เลยทีเดียว
โชคร้ายของพวกเขาที่ไม่มีใครกล้าพอที่จะส่งข้อความของกาการินไปให้กับเบื้องสูง สุดท้าย Soyuz 1 จึงต้องดำเนินการปล่อยตามกำหนดการทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อม
ในตอนนั้นมีเพื่อนของ วลาดิเมียร์ โคมารอฟหลายคนมากที่บอกให้เข้าปฏิเสธการขึ้นบิน แต่โคมารอฟรู้ตัวดีว่าถ้าเขาไม่เป็นคนขึ้นบินกาการินที่เป็นทั้งเพื่อนของเขาและฮีโร่ของประชาชนจะต้องเป็นคนไปแทน
“ถ้าผมไม่เป็นคนไป พวกเขาจะส่งนักบินสำรอง (กาการิน) ไปแทน… เขาจะตายแทนผม พวกเราจะต้องไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้น” โคมารอฟกล่าวกับเพื่อนของเขา ก่อนที่จะหลั่งน้ำตาออกมา
วลาดิเมียร์ โคมารอฟ และยูริ กาการิน ในสมัยที่ไปล่าสัตว์ด้วยกัน
ด้วยเหตุนี้เองโคมารอฟจึงตัดสินใจที่จะขับ Soyuz 1 ด้วยตัวเอง แม้ว่าจะรู้ว่าตัวเองจะต้องตาย และกาการินจะปรากฏตัวขึ้นในวันปล่อยจรวดในชุดนักบินเตรียมพร้อมไปตายแทนเขาแล้วก็ตาม
แน่นอนว่าการปล่อยตัวยาน Soyuz 1 นั้นจบลงด้วยหายนะ อุปกรณ์ที่ควรจะทำงานกว่าครึ่งไม่สามารถทำงานได้จริง จนต้องมีการเรียกตัวยานกลับโลกอย่างเร่งด่วน และยกเลิกกำหนดการปล่อยยานอื่นๆ ในวันนั้นทั้งหมด
โชคร้ายที่ร่มชูชีพของตัวยานไม่ยอมกางโคมารอฟจึงพุ่งลงมาจากอวกาศด้วยความเร็วพอๆ กับอุกกาบาต และกระแทกกับพื้นโลกอย่างจังจนไฟลุกท่วม ทำให้แม้กระทั่งศพของโคมารอฟที่กู้มาได้ก็เหลือเพียงร่างกายส่วนบนที่ไหม้เป็นตอตะโกเท่านั้น
ร่างที่ยังหลงเหลือของโคมารอฟได้รับการทำพิธีในกรุงมอสโก ด้วยโลงศพแบบเปิดและมีการเชิญเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ไปเข้าร่วมตามคำข้อสุดท้ายของเขา มันเป็นการล้างแค้นเล็กๆ ของนักบินคนหนึ่งที่บังคับให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงต้องมาดูผลงานที่เกิดขึ้นจากคำสั่งไร้เหตุผลของพวกเขานั่นเอง
ที่มา rarehistoricalphotos, npr, gizmodo
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.