เรื่องราวของมนุษย์พ่อผู้เกลียดแมว แต่ยังเลี้ยงแมวเพิ่มเรื่อยๆ…เอายังไงคะขุ่นพ่อ!?

ทุกคนคงจะเคยเจอกับคนที่ปากไม่ตรงกับใจมาบ้างแล้ว ตอนนี้เรากำลังสงสัยว่าคุณพ่อคนนี้เองก็เป็นคนปากไม่ตรงกับใจด้วยรึเปล่า เพราะคำพูดกับการกระทำอันแสนน่ารักของเขาช่างขัดกันเหลือเกิน

เรื่องราวที่ทุกคนกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าจากคุณ บุญรอด ซึ่งเธอจะพูดถึง #มนุษย์พ่อผู้เกลียดแมว ของตัวเองที่ออกตัวแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า ‘เกลียดแมว’ แต่ทุกวันนี้มีแมวอยู่เต็มบ้านเลยทีเดียว

 

 

คุณบุญรอดเล่าว่า “ในอดีต พ่อเป็นคนเกลียดแมวมาก มากถึงมากที่สุด ถ้าตรงไหนมีพ่อตรงนั้นต้องไม่มีแมว วันหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน พ่อจำใจต้องรับเลี้ยงแมวจร เป็นลูกแมวหนีน้ำท่วมคลานเตาะแตะมา มดเจาะเต็มตัว ตาปูดบวม

คลานมาเกาะขาแม่ซึ่งไม่รู้ว่ามันฝ่าฝูงหมาดุๆ มาได้อย่างไร แม่กับพ่อตัดสินใจช่วยชีวิตมันไว้ แต่พ่อมีข้อตกลงกับแม่ว่าถ้ามันแข็งแรงเมื่อไหร่ต้องปล่อยมันไป เพราะพ่อไม่ชอบแมว

สรุปก็ช่วยกันรักษาพยาบาล ป้อนนม น้ำ สารพัดจะบำรุง ตอนนี้ผ่านมา 8 ปีแล้ว พ่อก็ไม่เอาไปปล่อยสักที สงสัยไม่มีเวลามั้ง”

 

 

“ไปๆมาๆรับแมวจรเพิ่มมาอีกสองตัว ที่ต้องยอมจำใจเลี้ยงเพราะแม่แมวไปคลอดบนหลังคาตึก เจ้าของตึกที่ทำงานแม่นำแม่แมวไปปล่อยแล้วขังลูกแมวไว้ให้อดตาย ห้ามใครยุ่งจะโดนไล่ออก เสียงลูกแมวร้องหิวนมสองสามวัน

แม่เราทนไม่ได้เลยแอบปีนไปเอาลงมา แล้วก็มาโยนแหมะให้คนเกลียดแมวเลี้ยง(พ่อ) โดยให้สัญญาว่าถ้ามันเริ่มแข็งแรงแล้วแม่จะมารับมันไปเลี้ยงเอง(ตอนนี้แม่แยกไปทำงานที่ตจว. แต่พ่อทำอยู่บ้านเดิม)

พ่อก็เลยรับเลี้ยงให้ก่อน ตอนนี้ก็ผ่านมา 4ปีละ สงสัยพ่อจะลืมว่าต้องส่งแมวคืนแม่”

 

 

เอ้ะ? นึกว่าคุณพ่อเกลียดแมว

 

“ต่อมารับเพิ่มอีกหนึ่งตัว เพราะแม่แมวไปคลอดในรั้วบ้านคนมีตังค์ แต่เขาไม่ชอบแมวเลยไล่แม่แมวไป แล้วเอาลูกใส่ถุงขยะดำเตรียมไปทิ้ง ส่วนลูกแมวตัวอื่นๆโดนหมาไล่หนีหายไปหมด

ร้านขายน้ำที่น้องซื้อน้ำประจำเลยแจ้งน้องเพราะน้องเป็นกู้ภัย ว่าให้ช่วยแมวด้วย น้องสาวก็เลยไปรับมาไว้ที่บ้านก่อน โดนพ่อเราด่าเป็นชุดเลย เพราะเขาไม่ชอบแมว

เราเลยลงเพจประกาศหาบ้านให้แมว ระหว่างรอบ้าน พ่อก็ด่าเราไปด้วยที่ช่วยน้องเลี้ยงแมว พ่อกลัวเราจะรับเลี้ยงเพิ่ม”

 

จำไว้นะ พ่อเกลียดแมว

 

แต่พอคุณบุญรอดประกาศหาคนมารับเลี้ยงแมวได้ และนัดเจอกันเรียบร้อยแล้ว คุณพ่อก็เข้ามาหาเธอพร้อมกับเปิดบทสนทนาดังนี้

คำเตือน: มีการใช้ภาษาไม่สุภาพเล็กน้อย

พ่อ: มึงไม่ต้องเอาแมวไปไหน กูจะเลี้ยงเอง
บุญรอด: เอ้า อะไรเนี่ย ก็ป๊าบอกให้หนูเอามันไปให้พ้นเร็วๆ แล้วนี่หนูจะเอามันไปให้คนอื่นแล้วไง
พ่อ: มึงพูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม ก็กูบอกว่ากูจะเลี้ยงเอง มึงบอกเค้าไปสิว่าแมวได้บ้านแล้ว
บุญรอด: เอ๊า!? ป๊าทำงี้ได้ไง ตั้งนานไม่บอก นี่นัดเขาแล้วเนี่ย
พ่อ: เอ๊ะ!! มึงนี่ ก็กูพูดอยู่นี่ไง มึงอย่ามาเรื่องมาก มึงรีบไปบอกเขาซะ

สรุปแล้วแมวตัวนั้นก็ได้มาอยู่ในบ้านอีกตัวหนึ่งจนได้…

 

อะเอาข้าวไปกิน จะได้ไม่ต้องร้องให้เติมข้าวอีก

 

ยังไม่จบเพียงเท่านั้นนะ คุณบุญรอดเล่าต่อว่า “ต่อมา มีแมวจรมาป้วนเปี้ยนแถวบ้าน พ่อไล่มันทุกวัน ไม่อยากให้มันมายุ่มย่ามบริเวณบ้าน มันก็มึนมาทุกวัน มาอ้อน มาถู มารอใส่บาตรกับพ่อทุกเช้า

พ่อก็เริ่มใจอ่อนบอกให้น้องสาวแบ่งข้าวแมวมาให้มันบ้าง ไปๆ มาๆ กลายเป็นให้ทุกวัน แต่พ่อก็ยังรักษาระยะห่างกับมันอยู่ เพราะแมวที่บ้านเยอะมากแล้ว นางก็อดทนสุดๆ มานอนรออ้อนทุกวันที่พ่อกลับจากทำงาน”

 

ทุกวันนี้กลับบ้านมา มีแมวรอต้อนรับคุณพ่อเพียบ

 

ไม่นานนักก็มีเรื่องให้คุณพ่อต้องเปลี่ยนใจเกี่ยวกับเจ้าแมวตัวนี้ เนื่องจากมันช่วยหาตุ้มหูทองที่คุณพ่อเผลอทิ้งไปจนเจอ พ่อก็เลยเริ่มใจอ่อนกับมันมากกว่าเดิม

ทว่าเขาก็ยังไม่อยากรับมันมาเลี้ยงง่ายๆ อยู่ดี คุณพ่อตั้งเงื่อนไขว่าถ้าเกิดถูกหวยงวดต่อไปจะยอมรับมันมาเลี้ยง…ซึ่งต่อมาเขาก็ถูกหวยจริงๆ แถมถูก 3 งวดรวดซะด้วย ดังนั้นคงไม่ต้องบอกนะว่าเขาจะเลี้ยงมันไหม

 

 

สรุปแล้วจากตอนแรกที่คุณพ่อบอกว่าเกลียดแมว ตอนนี้มีแมวที่รับมาเลี้ยงที่บ้านทั้งสิ้นแล้ว 5 ตัว ก็คือ แต้ม, น้องส้ม, น้องขาว, น้องโอนตังค์ และ น้องศรีหนวด (แต่คุณพ่อเรียกแม่การะเกด)

คุณบุญรอดกระซิบว่าที่น้องส้มกับน้องขาวได้ชื่อเรียบง่ายแบบนี้ เป็นเพราะเลี้ยงไว้ไม่นานก็ต้องเอาไปคืนแม่แล้วก็เปลี่ยนชื่อใหม่อยู่ดี แต่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้คืนแม่สักที

 

ป้าแต้ม พี่ใหญ่สุดของบ้าน

 

น้องส้ม

 

น้องขาว

 

น้องโอนตังค์

 

น้องศรีหนวด

 

ยังไงก็ตาม ทุกวันนี้ถ้าคุณบุญรอดถามพ่อเมื่อไหร่ว่าเขาเริ่มรักแมวแล้วใช่ไหม เขาก็จะตอบกลับมาว่า “ไม่ กูเกลียดแมว!!” เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย

นอกจากนี้แล้วคุณบุญรอดก็ได้แบ่งคลิปวิดีโอมาให้เราดูกันด้วย ว่าคุณพ่อเกลียดแมวมากขนาดไหน

 

 

คุณพ่อเอาใบตำแยแมวให้พวกแมวเล่น

 

ปากคุณพ่อบอกไม่ใช่ แต่การกระทำนี่มันทาสแมวชัดๆ

ที่มา: บุญรอด คุณหิรัญ


Tags:

Comments

Leave a Reply