ว่ากันว่าในสถานการณ์คับขัน ทุกๆ สิ่งล้วนแต่นำมาใช้เป็นอาวุธได้ ไม่ว่าจะเป็นไม้กวาด กระเป๋า หรือแม้กระทั่งของที่ไม่น่าเชื่อที่สุดอย่างมันฝรั่ง ก็เคยมีประวัตินำเรือรบสหรัฐฯ ไปสู่ชัยชนะมาแล้ว!!
นี่เป็นเรื่องราวของเรือพิฆาต O’Bannon เรือพิฆาตรุ่น Fletcher ที่ออกรบในปี 1942 และติดตั้งอาวุธมากมาย ทั้งปืนต่อต้านอากาศยาน ตอร์ปิโด ระเบิดน้ำลึก และปืนติดดาดฟ้าเรือ
U.S.S. O’Bannon
วันหนึ่งในระหว่างที่ O’Bannon กลับมาจากภารกิจใกล้ๆ หมู่เกาะโซโลมอน พวกเขาก็พบกับเรือดำน้ำ RO-34 ของญี่ปุ่นเข้าโดยบังเอิญ น่าแปลกที่ทางเรือดำน้ำญี่ปุ่นไม่ได้รู้สึกถึงการมาของ O’Bannon แถมยังทำเพียงลอยลำเหนือน้ำเฉยๆ อีกด้วย
ในช่วงแรกๆ เรือ O’Bannon คิดจะพุ่งชนเรือดำน้ำโดยตรง แต่ก็กลัวว่าการพุ่งชนอาจจะทำให้เรือจมไปทั้งคู่ พวกเขาจึงหยุดการพุ่งชนไว้กลางคัน โชคร้ายที่การทำเช่นนั้นทำให้ฝั่งญี่ปุ่นรู้ตัว แถมจากระยะห่างของเรือแล้วทาง O’Bannon ไม่มีอาวุธอะไรที่สามารถยิงเรือดำน้ำได้เลย
เรือรุ่น Kaichū (ในภาพเป็น RO-33)
ทันทีที่เห็นปืนติดดาดฟ้าเรือของ RO-34 หันมาหา ทางกองเรือสหรัฐฯ ก็หาทางทำทุกอย่างเพื่อถ่วงเวลาให้เรือเล่นออกห่างพอที่จะให้อาวุธจู่โจมศัตรูได้ ซึ่งหนึ่งในการพยายามนั่นเอง พวกเขาได้โยนมันฝรั่งจำนวนหนึ่งที่อยู่บนเรือใส่ฝั่งญี่ปุ่นด้วย
อาจจะด้วยความที่ฟ้ายังมืดอยู่ ทหารฝั่งญี่ปุ่นก็เข้าใจผิดว่ามันฝรั่งที่ทหารสหรัฐฯ โยนมานั้นเป็นระเบิดมือ พวกเขาจึงลนลานปามันฝรั่งกลับมาที่เรือ O’Bannon
นั่นทำให้เรือ O’Bannon สามารถหนีออกจากสถานการณ์คับขันได้ และถึงแม้ว่า RO-34 จะดำลงไปใต้น้ำได้สำเร็จ แต่เรือ O’Bannon ก็สามารถทิ้งระเบิดน้ำลึกลงใส่ RO-34 และจมเรือลำดังกล่าวลง สังหารทหารทั้ง 66 คนบนเรือดำน้ำ และคว้าเอาชัยชนะไว้ได้ในที่สุด
เหตุการณ์ในครั้งนี้ถูกเรียกว่า “Maine Potato Episode” จากเรือหรือไม่ก็มันฝรั่งที่มาจากรัฐเมน สหรัฐอเมริกา ส่วนลูกเรือเองก็ได้รับการขนานนามกันว่าเป็นวีรบุรุษ จากความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจที่รวดเร็ว จนได้รับรางวัลจากเหล่าสมาคมคนปลูกมันฝรั่งอีกด้วย
ที่มา history
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.