นักการเมืองออสเตรเลีย เขียนบทความ ‘สนับสนุนการมีเซ็กส์กับศพ’ ก่อนจะบอกว่า แค่ขำๆ!?

‘การมีเซ็กส์’ ถือเป็นเรื่องธรรมชาติกับมนุษย์เรา แต่หากไปมีเซ็กส์กับ ‘ศพ’ แล้วล่ะก็ มันคือเรื่องที่สังคมส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้

แต่สำหรับนักการเมืองจากพรรค Greens NSW ที่กำลังหาเสียงเลือกตั้งภายในของนครซิดนีย์ เคยเขียนบทความที่สนับสนุนให้ ‘การมีเซ็กส์กับศพ’ นั้นถูกกฎหมาย แต่พอเรื่องแดงออกมาพี่แกดันบอกว่าเป็นแค่เรื่องตลกซะงั้น!?

ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคม ปี 2013 นาย Tom Raue ตอนที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ ได้ทำการเขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ Honi Soit ที่เป็นหนังสือพิมพ์ของนักศึกษา โดยบทความของเขามีหัวข้อว่า “ความงดงามของศพที่ถูกลดทอนคุณค่าลงไป”

 

 

“หากบุคคลได้อนุญาตให้ร่างกายของตัวเองสามารถมีเซ็กส์ได้ และครอบครัวของพวกเขาไม่มีปัญหาอะไร ถ้างั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงน่ะสิ แ*งเอ๊ย!” Tom เขียน

นอกจากนี้เขายังอธิบายไว้อีกว่าการกระทำชำเรากับศพนั้นถือเป็นรสนิยมทางเพศที่ถูกห้ามในแทบจะทุกสังคม และในออสเตรเลียเองก็เช่นกัน ซึ่งเขาเองก็ระบุว่าตนเองต้องการจะเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย ถ้าเขามีอำนาจ

 

 

แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเรื่องดังกล่าวนี้แดงออกมา เขาก็ออกมาบอกว่า “มันก็แค่เรื่องตลกที่เขียนขึ้นมาเท่านั้น”

“จริงๆ ผมเขียนขึ้นมาเพื่อตอบโต้บทความของ Cory Bernardi ที่บอกว่าการแต่งงานกับเพศเดียวกันนั้นจะนำไปสู่การที่มนุษย์สามารถมีเซ็กส์กับสัตว์ได้อย่างอิสระ ผมก็เลยไปพูดคุยกับบก. ของหนังสือพิมพ์ Honi Soit และคนอื่นๆ พวกเราก็คิดว่ามันน่าจะตลกดีนะถ้าเราตีพิมพ์บทความที่ผมเสนอออกมา”

“ผมรู้นะว่าหลายๆ คนอาจจะไม่ขำกับมัน แต่ผมไม่ได้แคร์คำวิจารณ์ต่างๆ เลย เพราะผมไม่ได้หมายความตามที่เขียนเอาไว้จริงๆ”

“ผมไม่เคยให้ความสนใจกับการทำให้เรื่องการกระทำชำเรากับศพถูกกฎหมาย สิ่งที่ผมจะทำหลังจากได้รับการเลือกตั้งคือการโฟกัสไปที่ปัญหาเรื่องการสร้างครอบครัว, การเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งสาธารณะ, การศึกษาของเด็กที่ควรจะเข้าถึทุกภาคส่วน, จบสงครามกับยาเสพติด, และเก็บภาษีคนมีรายได้มาก”

 

 

นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่านาย Raue นั้นเคยตั้งแคมเปญเพื่อเปลี่ยนกฎหมายให้สามารถสมสู่กับสัตว์ได้อีกด้วย และพี่แกก็ออกมาบอกว่าแค่เรื่องตลกเช่นเดียวกัน

“ชาวออสเตรเลียหลายคนอาจจะมองว่ามันน่ารังเกียจ แต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอที่จะทำให้มันผิดกฎหมาย” ข้อความดังกล่าวถูกระบุเอาไว้ในแคมเปญ

 

อย่างไรก็ตามเรื่องราวในครั้งนี้อาจจะส่งผลต่อผลคะแนนการเลือกตั้งในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้าหรือไม่ ก็ต้องรอชมกันต่อไป…

 

ที่มา : dailymaildailytelegraph

Comments

Leave a Reply