5 ภาพจากในอดีตพร้อมเกร็ดประวัติศาสตร์ กว่าจะมาถึงวันนี้ โลกได้ผ่านอะไรมามากเหลือเกิน

ว่ากันว่าอดีตเป็นรากฐานของปัจจุบัน หากว่ารากฐานที่ว่าเข้มแข็ง ปัจจุบันก็จะสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคง นั่นทำให้มีคนมากมายที่พยายามศึกษารากเหง้าของตัวเอง เพราะประวัติศาสตร์เหล่านี้นี่ล่ะ ที่นำมาซึ่งพวกเราในปัจจุบัน

ดังนั้นในวันนี้เราจะมาดูอีก 5 รูปภาพจากในอดีต ที่มาพร้อมเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อย้ำเตือนให้เรารู้ว่ากว่าจะมาถึงทุกวันนี้ โลกเราได้ผ่านเรื่องราวมามากมายเหลือเกิน

 

ภาพของนางาซากิก่อนและหลังการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์

9 สิงหาคม 1945 ราวๆ สามวันหลังจากการทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิม่า ได้มีการทิ้งระเบิดพลูโตเนียมของสหรัฐอเมริกาลงสู่เมืองนางาซากิ ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตระหว่าง 39,000-80,000 ราย ซึ่งแม้ว่าแรงระเบิดจะมากกว่าที่ฮิโรชิม่าแต่ภูมิประเทศกลับถูกทำลายไปค่อนข้างน้อย แม้ว่าสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่จะราบเป็นหน้ากลองไปเลยก็ตาม

 

แอลกอฮอล์ถูกเททิ้ง

ในช่วงปี 1920-1933 สหรัฐอเมริกา ได้ออกกฎหมายห้ามการผลิต นำเข้า ขนส่ง และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเนื่องจากปัญหามากมายจากคนเมาสุราและกลุ่มผู้สนับสนุนจากลัทธิโปรเตสแตนต์

นั่นทำให้เมื่อทางตำรวจจะเข้าตรวจสอบสถานที่ผลิตสุราผิดกฎหมาย เหล่าผู้ผลิตจึงพยายามทำลายหลักฐานในทุกวิถีทาง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการเทออกจากหน้าต่างแบบในภาพนั่นเอง

 

เด็กในลิเวอร์พูลสวมหน้ากากป้องกันแก๊สในโรงเรียน

ในปี 1941 การทิ้งระเบิดในกรุงลอนดอนทำให้บรรยากาศในประเทศอังกฤษเต็มไปด้วยความตึงเครียด เหล่าประชาชนในประเทศถูกบอกให้พกหน้ากากตลอดช่วงสงคราม เนื่องจากความกลัวว่าจะมีการโจมตีด้วยแก๊สพิษจากทางฝ่ายอักษะ

นี่เป็นภาพของเด็กๆ ที่กำลังทำการฝึกในกรณีที่มีการโจมตีด้วยแก๊สพิษที่ว่านั่นเอง

 

Reichserntedankfest

มีอีกชื่อหนึ่งว่า “งานฉลองวันขอบคุณพระเจ้าแห่ง Reich” นี่เป็นงานเทศกาลการเก็บเกี่ยว ที่จัดขึ้นในปี 1934 และมีผู้เข้าร่วมกว่า 700,000 คน ซึ่งถือว่าเยอะมากในตอนนั้น สร้างขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชน และเพิ่มจำนวนผู้สนับสนุนพรรคนาซีขึ้นเป็นอย่างมาก

 

กะลาสีอังกฤษถอดห่วงเหล็กออกจากขาของทาส

ห่วงเหล็กมักถูกใส่ไว้ที่ขาของเหล่าผู้เป็นทาสเพื่อป้องกันไม่ให้หนีไปได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตามประเทศอังกฤษได้ประกาศเลิกทาสไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ดังนั้นเมื่อ HMS Sphinx พบกับทาสคนนี้ในปี 1907 พวกเขาจึงทำการถอดห่วงเหล็กออกให้ และปล่อยชายคนดังกล่าวจากการเป็นทาสนั่นเอง

 

ที่มา historyinorbitindependentwikipediararehistoricalphotoswikipedia

Comments

Leave a Reply