‘อาร์โนลด์’ เผยชีวิตในวัยเด็ก ต้องอยู่ท่ามกลางคำดูแคลน เป็นเชื้อไฟส่งถึงคนเหล็ก

การจะประสบความสำเร็จจนถึงขั้นมีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลในระดับโลก บุคคลเหล่านี้ไม่ได้มาพร้อมกับเส้นทางโอกาสที่เรียบง่าย พวกเขาจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคนับร้อยแปดพันเก้าเพื่อมายืนถึงจุดนี้

อย่างที่เรารู้จัก ‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ นักแสดงฮอลลีวูดรุ่นใหญ่ ด้วยฉายาคนเหล็กจากภาพยนตร์ชุด The Terminator กี่ภาคต่อกี่ภาคก็ต้องมีแกโผล่มาตลอด จนติดตากันไปแล้ว

 

 

ปัจจุบันปู่อาร์โนลด์อายุ 71 ปี แต่ยังคงโลดแล่นอยู่ภายในวงการภาพยนตร์จอเงิน จากการกลายมาเป็นคนเหล็กที่ทุกคนต่างจดจำเขาจากภาพยนตร์ ประสบความสำเร็จเป็นดาวเด่นค้างฟ้าไปแล้ว

แต่การมาถึงจุดนี้ได้ เขายกความดีความชอบให้กับคุณพ่อ ‘กุสตาฟ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ ผู้เป็นแรงผลักดันเขาสู่ความสำเร็จในชีวิต แม้จะเป็นด้วยเหตุผลที่ไม่คาดคิดก็ตาม

 

 

ปู่อาร์โนลด์บอกว่าแทนที่จะเป็นคำพูดให้กำลังใจหรือการสนับสนุนดีๆ จากพ่อแม่ วิธีการของเขาแทบจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาเติบโตมากับความรุนแรงจากผู้เป็นพ่อ ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าพ่อของเขาคิดผิดว่า ‘ไม่มีวันโงหัวประสบความสำเร็จได้’

 

 

จากการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Fortune ปี 2004 วัยเด็กของอาร์โนลด์นั้นถูกคุณพ่อกระชากผมบ่อยๆ ถูกฟาดด้วยเข็มขัด ปฏิบัติตัวเหมือนเป็นเด็กข้างบ้านที่ไม่ใช่ลูกของตัวเอง ท่ามกลางสังคมพ่อแม่ในสมัยนั้นที่มักจะทำร้ายลูกของตัวเองทั้งทางตรงและทางอ้อม ตามจริตของชาวเยอรมัน-ออสเตรีย

 

 

การกดขี่ที่เกิดขึ้นต้องการให้เขาเชื่อฟังและอ่อนข้อ แต่กลับส่งผลตรงกันข้ามให้กับอาร์โนลด์แทน หล่อหลอมให้เขากลายมาเป็นเด็กดื้อรั้นผู้กระหายความสำเร็จ

“พวกเขาไม่ต้องการให้เติบโตมาเป็นพวกปัจเจกชน บังคับให้ปฏิบัติตาม ผมเป็นหนึ่งในพวกที่ไม่ยอมอ่อนข้อและจะไม่มีวันเด็ดขาด

ผมกลายมาเป็นพวกหัวดื้อ ทุกครั้งที่โดนตีและทุกครั้งที่มีคนพูดว่า ‘เอ็งทำไม่ได้หรอก’ ผมจะตอบว่า ‘มันจะจบในอีกไม่นานแล้ว เพราะผมจะไม่อยู่ที่นี่ ผมอยากรวย ผมอยากจะเป็นคนที่ทุกคนจดจำ”

 

 

แม้จะถูกคุณพ่อพูดจาเหยียดหยามและทำร้ายบ่อยครั้ง อาร์โนลด์ไม่ได้รู้สึกเกลียดคุณพ่อของเขาเลย (แต่ก็ไม่ได้เดินทางไปร่วมงานศพ) แถมยังยกความเข้มงวดของพ่อ การอบรมสั่งสอนแบบว่าร้าย ให้เป็นเหตุผลแห่งความทะเยอทะยานในตัวเขา เข้ามาตามหาโอกาสย้ายจากออสเตรียสู่สหรัฐอเมริกา

 

 

“ทุกครั้งที่พ่อตีผม ทุกครั้งที่เขาพูดว่ายกน้ำหนักมันไร้สาระ น่าจะไปทำประโยชน์อย่างอื่นมากกว่า อย่างไปตัดฟืนข้างนอก ทุกครั้งที่พ่อไม่เห็นด้วยกับผมหรือทำให้ผมขายขี้หน้า มันเป็นการราดน้ำมันในกองไฟให้กับผม ขับเคลื่อนและกระตุ้นให้ผมไปข้างหน้า”

 

 

แรงกดดันจากคุณพ่อของเขา ทำให้เขาเชื่อว่าช่วยขัดเกลาตัวตนให้มองเห็นเส้นทางของตัวเอง และเริ่มเข้าสู่เส้นทางนักเพาะกาย จนนำไปสู่อาชีพนักแสดงฮอลลีวูดและโอกาสอื่นๆ อีกมากมายในชีวิต

 

ที่มา: wikiquoteworldation, unilad

Comments

Leave a Reply