ชายหนุ่มเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป หลังจับได้คาหนังคาเขาว่า “ภรรยากำลังมีอะไรกับชายอื่น”

เราอาจเคยเห็นฉากการนอกใจในหนัง ในละคร หรือบางคนก็อาจได้เจอกับตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าความรู้สึกในตอนนั้นของผู้ที่ต้องพบว่าคนที่เรารักแอบไปมีอะไรกับคนอื่น มันคงเป็นสิ่งที่ไม่อาจอธิบายมาเป็นคำพูดได้เลย จนกลายเป็นการกระทำที่เราจะต้องรู้สึกเสียใจในภายหลัง

Ira van den Heuvel คือหนึ่งในคนที่ต้องเจอกับเหตุการณ์อันเลวร้ายแบบนั้น เมื่อเขาจับได้คาหนังคาเขาว่าภรรยาของตัวเองกำลังมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นอยู่ และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปหลังจากนั้น

 

ภาพประกอบบทความไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

เขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเมือง Green Bay รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกาว่า ในวันนั้นเขาออกไปทำงานตั้งแต่เช้า และต้องไปแจกใบปลิวต่อในช่วงหัวค่ำ

แต่โชคดีที่เขาได้ไปเดินแจกอยู่บริเวณอาคารใกล้ๆ กับบ้านของตัวเอง เขาจึงตั้งใจที่จะแวบไปหาภรรยาและลูกชายที่บ้านสักเล็กน้อยในช่วงพักเบรค

พอเขาถึงหน้าบ้านก็เห็นว่ามีรถกระบะคันใหญ่จอดอยู่ตรงทางเข้าออกของบ้าน ซึ่งเขาไม่เคยเห็นรถคันนี้มาก่อนเลย เขาจึงพยายามเช็กดูตรงประตูบ้านว่ามีร่องรอยของผู้บุกรุกหรือเปล่า

 

ภาพประกอบบทความไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

Ira รู้สึกโล่งใจที่ไม่พบว่ามีการบุกรุกแต่อย่างใด จนกระทั่งเขาเดินไปถึงหน้าประตู เขาก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากหน้าต่างห้องนอนใหญ่ที่อยู่ข้างๆ

ชายหนุ่มเล่าว่า “ผมจำได้ว่านั่นคือเสียงครางของภรรยาในตอนที่พวกเรามีอะไรกัน แต่ตอนนั้นผมกลับได้ยินเสียงครวญครางของผู้ชายคนหนึ่งดังออกมาพร้อมๆ กันด้วย หืมมม อย่างนี้แล้วจะทำไงดี? จะทำไงดีล่ะ?”

เขาเห็นว่าประตูแง้มอยู่เล็กน้อย เขาจึงตัดสินใจถีบประตูเข้าไปพร้อมกับพูดออกมาดังๆ ว่า “ที่รัก ผมกลับมาบ้านแล้ว”

 

ภาพประกอบบทความไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

สิ่งที่เขาเห็นในตอนนั้น หลายๆ คนอาจมองว่ามันเป็นเหมือนกับในหนังตลกหลายๆ เรื่อง เพราะเขาต้องเจอกับแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่ง เปลือยกายรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ

ในตอนนั้น ภรรยาของเขาก็นั่งเอาผ้าห่มคลุมตัวอยู่บนเตียง เธอหลั่งน้ำตาออกมาและบอกกับผู้เป็นสามีว่า “ขอโทษ” ซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ

Ira พูดกับภรรยาอย่างใจเย็นว่า “ผมเข้ามาเห็นว่าคุณมีแขกอยู่ งั้นเดี๋ยวผมจะกลับไปทำงานก่อนละ สำหรับตอนนี้ขอให้คุณเป็นแม่ที่ดีให้กับลูกก็พอ แล้วเดี๋ยวเราจะกลับมาคุยเรื่องนี้กันอีกทีในไม่กี่ชั่วโมง”

 

ภาพประกอบบทความไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

หลังจากนั้นเขาก็หยิบกางเกงตัวหนึ่งซึ่งไม่ใช่ของเขา เดินไปที่หน้าประตูห้องน้ำ เคาะและบอกกับผู้ชายข้างในว่า “นี่คุณ ผมมีกางเกงของคุณอยู่ข้างนอกนี่นะ แง้มประตูนิดนึงแล้วเดี๋ยวผมจะส่งกางเกงให้ หลังจากนั้นก็ไสหัวออกไปจากบ้านของผมซะ!!”

ชายคนนั้นแง้มออกมาคว้ากางเกงไปใส่ ก่อนที่จะเปิดประตูอีกรอบแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำในที่สุด ไม่ทันพูดจาใดๆ Ira ก็ต่อยเข้าไปที่กรามของชายคนนั้นเต็มแรงจนปากแตก

ชายชู้คนนั้นทำหน้าตกใจและพูดว่า “อะไรเนี่ย? ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” แล้ว Ira ก็สวนกลับไปว่า “ออกไปเดี๋ยวนี้ จะโทรแจ้งตำรวจก็ได้ แต่ออกไปโทรที่อื่นที่ไหนก็ไปซะ”

 

ภาพประกอบบทความไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

สุดท้ายแล้วชายชู้คนนั้นก็ไม่ได้โทรแจ้งตำรวจ และจากการพูดคุยกับภรรยาถึงได้รู้ว่าชายชู้เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอ และก็แต่งงานแล้วไม่ต่างกัน ซึ่งนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เรื่องนี้เงียบไป เพราะฝั่งนั้นก็คงไม่อยากให้ภรรยาตัวเองได้รู้ในเรื่องนี้

นั่นคือเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งวันเลาผ่านไป Ira กลับรู้สึกเสียใจในสิ่งที่เขาทำ เขาอธิบายว่าตัวเองไม่ใช่คนที่จะใช้ความรุนแรงกับเรื่องต่างๆ แต่ในเวลานั้นเขาให้เหตุผลกับตัวเองว่ามันคือการป้องกันตัว ทำร้ายผู้บุกรุกที่เข้ามาในบ้านของเขา

 

ภาพประกอบบทความไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

แต่พอเขาลองคิดอีกที ชายชู้คนนั้นก็ไม่ได้เข้ามาขืนใจหรือทำในสิ่งที่ภรรยาของเขาขัดขืน ตรงกันข้ามมันกลับเป็นความตั้งใจของทั้งสองคน นั่นจึงทำให้อารมณ์ความรู้สึกของเขาสับสนปนเปไปหมด จิตใจที่แหลกสลายทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจมากเหลือเกิน

เขาทำได้เพียงภาวนาว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความจริง มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของเขา และรู้สึกเสียใจที่ต่อยชายคนนั้นไป

 

ภาพประกอบบทความไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อาจให้อภัยภรรยาของเขาได้ จึงตัดสินใจเก็บข้าวของออกจากบ้านมา แม้เขาจะรับรู้ว่าลูกชายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้ จะต้องกลายเป็นเหยื่อที่เจ็บปวดกับความแตกแยกของเขาและภรรยามากที่สุด

แต่ความเสียใจในเรื่องนั้นก็ไม่เพียงพอให้เขาอดทนอยู่กับภรรยาได้อีกต่อไป ปัจจุบันเขาจึงออกมาอาศัยอยู่กับคนที่เขาเรียกว่าเป็นเพื่อนผู้หญิงซึ่งสามารถทำให้เขามีความสุขได้มากกว่าเดิม ได้ทำงานที่ดีกว่า มีบ้าน มีครอบครัว แม้จะไม่ได้ถึงกับภาคภูมิใจ แต่ก็ไม่เคยต้องมาละอายในสิ่งที่เป็นอยู่

 

ภาพประกอบบทความไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

 

เขาพูดทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “ทุกอย่างตอนนี้มันเพียงพอสำหรับผมแล้ว” และเรื่องราวของเขาก็สะท้อนให้เห็นว่ามันเจ็บปวดมากขนาดไหนกับการที่ต้องเห็นคนที่เรารักทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมาย แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการมีสติ ควบคุมไม่ให้เราต้องมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ทำไปในภายหลัง

 

ที่มา: mirror

Comments

Leave a Reply