เกาหลีใต้ประกาศสั่งห้ามสอน ‘ภาษาอังกฤษ’ ในเด็กเล็ก หวั่นกระทบต่อภาษาแม่

ในปัจจุบันนี้ ถือว่าโลกนั้นได้เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคแห่งการคบค้าสมาคม แต่ละประเทศเปลี่ยนจากการก่อสงครามมาเป็นการแข่งกันทางเศรษฐกิจกันแทน

ซึ่งจากการที่ธุรกิจหลายๆ ธุรกิจมีการร่วมมือจากหลายประเทศ ทำให้ภาษากลางที่สื่อสารนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก และในเวลานี้เวลาที่ชื่อว่าเป็นภาษาสากลของโลกก็คือ “ภาษาอังกฤษ”

แต่ ณ ตอนนี้หนึ่งในประเทศชั้นนำของโลกอย่างเกาหลีใต้กลับแบนภาษาอังกฤษ ไม่ให้สอนในช่วงชั้นประถมศึกษาที่ 1 และ 2 เพราะเกรงว่าจะกระทบด้านลบมากกว่า

 

 

โดยที่คำสั่งห้ามนี้มีผลมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 โดยรัฐบาลได้กล่าวว่าได้ผ่านคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในปี 2016 โดยที่กังวลว่าการสอนภาษาอังกฤษจะไปกระทบต่อการใช้ภาษาเกาหลี

“ว่าตามผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษา อายุที่ควรที่จะเรียนภาษาอังกฤษอยู่ที่ ป.3 ก่อนที่จะเริ่มภาษาอังกฤษควรที่จะพัฒนาทักษะทางสังคมและเพิ่มความรู้ความเข้าใจเสียก่อน แต่ก็มีพ่อแม่หลายคนที่คิดว่ายิ่งเรียนภาษาที่สองเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี” Kwon Ji-young ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายการศึกษาเด็กเล็กได้กล่าวไว้

 

 

ในเกาหลีใต้ โรงเรียนเด็กเล็กที่มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษจะไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโรงเรียนบริบาล แต่พวกเขาจะเปิดในฐานะสถานศึกษาของเอกชนแทน

โดยที่เฉลี่ยแล้วครอบครัวของคนเกาหลีจะมีรายได้อยู่ที่ 485,000 บาทต่อปี ในขณะที่โรงเรียนเตรียมบางแห่งต้องจ่ายค่าเล่าเรียนถึง 47,000 ต่อเดือน

ถึงแม้ว่าสถานศึกษาที่เปิดสอนภาษาอังกฤษจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่หากครอบครัวของเด็กมีกำลังพอที่จะจ่าย พ่อแม่ก็นิยมส่งลูกไปเรียนในที่ที่จะได้เรียนภาษาอังกฤษอยู่ดี

Hwang Hee-jung คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ได้บอกว่า “ฉันคิดว่าการพูดอังกฤษได้สำคัญมากๆ เพราะว่าการเข้ามหาวิทยาลัยมันยากมากๆ และเด็กนักเรียนต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษในระดับสูงถึงจะผ่าน”

 

 

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการสั่งห้ามสอนภาษาอังกฤษนี้จะทำให้มีคุณครูประมาณ 7,000 คนต้องตกงาน และจะกลายเป็นว่าเด็กที่อยู่ในครอบครัวรายได้น้อยก็มีข้อเสียเปรียบในการแข่งขันทางการศึกษาไปเลย

ซึ่ง Kim ผู้เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษในกรุงโซลมาตั้งแต่ปี 2003 ก็ได้ให้ความคิดเห็นในเชิงเดียวกันว่าถึงจะมีการห้ามสอนภาษาอังกฤษแบบนี้ แต่ความต้องการให้ลูกเรียนภาษาก็ยังสูงอยู่ดีและระดับการแข่งขันที่รุนแรงจะทำให้กลายเป็นว่ายิ่งมีเงินยิ่งเข้าถึงการศึกษาไปแทน

 

ที่มา Aljazeera

Comments

Leave a Reply