ชายรำคาญเพื่อนร่วมชั้นมาทั้งเทอม แต่ต้องเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่าเขาแค่พยายามเป็นเพื่อนด้วย

“อย่าตัดสินคนจากภายนอก” คงเป็นประโยคที่เพื่อนๆ สามารถได้ยินบ่อยๆ ซึ่งมีไว้ให้เราตระหนักถึงการไม่รีบตัดสินคนอื่น เพียงแค่รู้จักกันเผินๆ หรือไปได้ยินจากที่อื่นมา ควรต้องรู้จักเขาถ่องแท้เสียก่อนถึงจะรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นคนอย่างไร

เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Thomas Mcfall นักศึกษาคนหนึ่งได้แชร์ประสบการณ์สุดซึ้งที่จะทำให้หัวใจหลายๆ คนอบอุ่นจากการที่เขาเคยตัดสินคนอื่นเพียงแค่ภายนอกเท่านั้น

 

นี่คือ Tomas Mcfall เจ้าของเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันวันนี้

 

“เฮ้ ทุกคน ผมรู้ว่าปกติผมชอบโพสต์มุขกากๆ ลงในทวิตเตอร์ แต่ตอนนี้มีบางอย่างเกิดขึ้นกับผม ผมอยากจะแชร์มัน

เรื่องมันคือหนึ่งในคลาสเรียนการจัดการ ผมจะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมทุกๆ วัน และตอนนี้ก็มีนักเรียนต่างชาติมานั่งอยู่ข้างๆ ที่นั่งของผม”

 

“เขาแทบจะพูดอังกฤษไม่ได้ด้วยซ้ำ ประโยคที่ซับซ้อนที่สุดที่ผมเคยได้ยินเขาพูดคือ ‘ว้าว มัฟฟินของฉันนี่มันอร่อยจริงๆ’

ชายคนนี้ยังมีงานอดิเรกคือชอบกองของทุกอย่างของเขาเข้ามาในพื้นที่ที่ผมนั่งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า อาหารของเขา หนังสือและโทรศัพท์ ที่มักจะมาอยู่ในพื้นที่โต๊ะของผมตลอด”

 

“ตอนนี้ ทุกครั้งที่ผมเดินเข้ามาในห้อง ชายคนนี้จะพูดว่า ‘อ่า Tom นายมาแล้ว โอเค’ และก็จะเริ่มเก็บกวาดของของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะผมไป

จากนั้นก็จะพูดกับผมว่า ‘พร้อมสำหรับคลาสเรียนแล้วใช่มะ?’ แล้วก็จะทำไฮไฟว์กับ ซึ่งทุกๆ วันเขาก็จะทำไฮไฟว์กับผมเสมอ”

 

“ผมเคยรำคาญชายคนนี้ตลอดมา ผมคิดว่า ‘เพื่อน นายรู้อยู่แล้วนี่ว่าฉันนั่งตรงนี้ทุกๆ วัน ทำไมนายต้องเอาของของนายมาวางที่ตรงนี้ตลอดเลยวะ?

และสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะทำกับชายที่แทบจะพูดภาษาของผมไม่ได้และยังทำไฮไฟว์กับผมทุกแปดโมงเช้าคือเก็บของห่าเหวนี่ออกไปจากโต๊ะตูนะโว้ย’”

 

“แต่มาในวันนี้ ผมมาเรียนสาย ผมยืนอยู่นอกห้องเพราะผมต้องรอส่งข้อความด่วนก่อน ซึ่งมองจากข้างนอกผมก็เห็นโต๊ะผมในสภาพปกติ ที่เต็มไปด้วยของของเขาวางอยู่”

 

“ขณะที่ผมกำลังยืนส่งข้อความอยู่ ก็มีชายอีกคนซึ่งมาสายเหมือนกันเข้าไปในห้องก่อนผม และพยายามที่จะนั่งที่นั่งของผมเพราะมันอยู่ใกล้ประตูที่สุด

แต่ชายต่างชาติที่นั่งข้างผมก็ได้ห้ามเขาไว้จากการนั่งที่นั่งของผม โดยบอกไปว่า ‘ต้องขอโทษด้วย แต่ Thomas เพื่อนรักของผมนั่งอยู่ตรงนี้’ “

 

“และช่วงนั้นผมก็ได้รู้ว่า ชายคนนี้ไม่ได้วางของบนโต๊ะเพื่อกวนตีนผม แต่เขาจองที่นั่งให้ผมมาตลอดทุกเช้า

ตลอดเวลามาเขาเห็นผมเป็นเพื่อน แต่ผมกลับคิดถึงแต่ตัวเอง แต่รีบทำการตัดสินเขาเพียงแค่ภายนอก”

 

“สุดท้ายผมก็ได้เข้าไปในห้อง และแน่นอนเขาก็รีบเคลียร์ของของเขาและพูดว่า ‘อ่า Tom นายมาแล้ว โอเค’ และผมก็ทำไฮไฟว์กับเขา

และเมื่อจบคลาสแล้วผมก็ถามเขาว่าอยากไปกินข้าวกับผมมั้ย ซึ่งพวกเราก็ไปกินด้วยกัน คุยกันอยู่เป็นช่วงๆ ผมสามารถเข้าใจเขาผ่านภาษาอังกฤษที่ไม่แข็งแรงได้” 

 

“ชายคนนี้ย้ายมาจากทางตะวันออกกลาง เพื่อที่จะเข้าเรียนในอเมริกา เขาวางแผนว่าจะกลับหลังจากที่ได้รับปริญญาแล้ว เขามีภรรยาพร้อมกับลูกสองคน แถมเขายังทำงานไปด้วยพร้อมกับส่งเงินที่เหลือกลับไปหาภรรยาของเขา”

 

“ผมถามเขาว่าเขาชอบอเมริกาอย่างไร เขาตอบว่าเขาคิดถึงครอบครัวแต่ก็ตื่นเต้นดีที่ได้อยู่ที่นี่และยังพูดอีกด้วยว่า ‘ไม่ใช่คนอเมริกาทุกคนจะดีกับผมแบบที่คุณนะ Tom’

ผมเลยเลี้ยงข้าวเขาซะเลย แน่นอนว่าเขาสมควรได้รับมันอยู่ละ ซึ่งเขาก็ทำไฮไฟว์กับผมที่ซื้อข้าวให้ ยังต้องรักษาธรรมเนียมสินะ”

 

“เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าได้คิดถึงแต่ตัวเองและอย่าได้ทำอย่างที่ผมทำ มันต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งเทอมที่จะลดทิฐิและรู้ว่าชายคนนี้แค่พยายามที่จะเป็นเพื่อนของผมเท่านั้นเอง แต่รู้ช้าก็ดีกว่าไม่รู้เลย ผมคิดว่านะ”

 

และเมื่อ Thomas ได้แชร์ประสบการณ์เรื่องราวที่สุดแสนอบอุ่นหัวใจขนาดนี้ลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว ความซาบซึ้งส่งไปตรงไปยังชาวเน็ตทั้งหลาย พวกเขาจึงแห่มาแสดงความคิดเห็นกันยกใหญ่ เราจะยกตัวเองมาให้ฟังกันครับ

 

บางคนก็อยากที่จะช่วยเขา “เราจะช่วยพวกเขาได้มั้ย Tom และครอบครัวเขาล่ะ ลูกๆ เขาต้องการเสื้อผ้า รองเท้ามั้ย? หรือภรรยาต้องการเงิน? เขาอยากกลับไปเยี่ยมบ้านหรืออยากให้ที่บ้านมาเยี่ยมมั้ย? หากคุณมีเวลาลองถามๆ เขาให้หน่อยสิ? ได้โปรดนะ?”

ซึ่ง Thomas ก็ตามว่าเข้าใจแล้ว เดี๋ยวผมจะถามให้นะ

 

“ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ของคุณนะ และสำหรับการเป็นคนที่ยอดเยี่ยมและสนับสนุนให้เหล่าเด็กรุ่นใหม่ในโลกนี้ได้ทำในสิ่งที่ดี”

 

“ขอบคุณที่แชร์เรื่องนี้ Thomas ฉันทำงานกับผู้อพยพทุกวัน ซึ่งส่วนมากก็จะเหมือนกับเพื่อนใหม่ของคุณ พวกเขาใจดี ขยัน เป็นมิตร จริงใจ ฉันดีใจจริงๆ ที่คุณรู้ว่าเขาพยายามจะเป็นเพื่อนกับคุณ ขอให้พวกคุณทั้งสองมีโอกาสก้าวหน้าในภายหน้านะ”

 

นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เรารู้ว่าอย่าตัดสินคนอื่นเพียงแค่เห็นเค้าจากภายนอกเท่านั้น และเรื่องนี้ยังทำให้เรารู้อีกด้วยว่าโลกของเรานั้นยังน่าอยู่ขนาดไหน

 

ที่มา Boredpanda

 

Comments

Leave a Reply