ช่างตัดผมหนุ่มสุดซวย เพียงเพราะตัดผมผู้หญิงไม่เป็น ถูกฟ้องเหยียดเพศเฉยเลย…

ความซวยนั้นไม่เข้าใครออกใครจริงๆ อย่างเช่นที่ช่างตัดผมหนุ่มคนต้องพบเจอกับความซวยที่มาเยือนอย่างงงๆ เพียงเพราะเขาไม่สามารถตัดผมให้กับเด็กผู้หญิงได้ เนื่องจากเขาไม่ได้เรียนมา…

Sam Rahim ช่างตัดผมหนุ่มของร้าน Hunters Hill Barber Shop บนชายฝั่งตอนเหนือของนครซิดนีย์ วันหนึ่งในเดือนธันวาคม 2017 เขาได้พบหญิงที่พาลูกสาวเข้ามาในร้านเพื่อจะตัดผม

เธอถาม Sam ว่าสามารถตัดผมให้ลูกสาวเธอได้หรือไม่ และด้วยความที่ Sam เคยตัดแต่ผมผู้ชายเท่านั้น เขาจึงไม่กล้าที่จะรับปาก และทำให้เขาปฏิเสธออกไปอย่างสุภาพ

และนั่นทำให้หญิงสาวโมโหโกรธา รวมถึงไม่ยอมรับคำปฏิเสธจาก Sam แม้ว่าเขาจะให้เหตุผลไปแล้วก็ตามว่า ที่เขาไม่สามารถตัดผมให้กับลูกสาวของเธอได้ก็เพราะว่าเขาไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ ไม่ได้เรียนมา และไม่เคยทำมาก่อน

นอกจากนี้เขายังแนะนำว่ามีร้านเสริมสวยผู้หญิงอยู่ใกล้ๆ ถึงสามร้าน เดินไปเพียงนาทีเดียวก็ถึง แต่มันกลับทำให้หญิงสาวโกรธเกรี้ยวมากขึ้น

และหลังจากนั้น Sam ก็ถูกเรียกตัวไปยังคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม ด้วยสาเหตุที่ว่าเขาละเมิดกฎการแบ่งแยกชนชั้นและถูกกล่าวหาว่าทำให้เด็กสาวต้องอับอายขายหน้า

Sam กล่าวว่า “เธอคงจะอับอายขายหน้ากว่านี้อีกนะ ถ้าต้องไปโรงเรียนด้วยทรงผมที่ช่างตัดผมชายตัดให้”

หลายท่านคงเห็นชัดเจนว่าเรื่องนี้ Sam ทำถูกต้องแล้ว แต่ความซวยมาหาเขาเองแท้ๆ ยังโชคดีที่ Sam ไม่ได้ต่อสู้เรื่องนี้อยู่คนเดียว

ทาง The Australian Hairdressing Council ได้ออกมาช่วยต่อสู้ในประเด็นที่ว่าเขาไม่ได้เรียนเรื่องทรงผมผู้หญิงมาก่อน เขาก็ย่อมไม่ควรที่จะตัดผมให้กับผู้หญิง

เรื่องราวใหญ่โตจนถึงกับต้องมีการว่าจ้างทนายความเพื่อต่อสู้คดีกันเลยทีเดียว Sam เองก็เกรงว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อกิจการของเขา

ทั้งนี้ฝ่ายหญิงสาวผู้เป็นแม่ (ไม่เผยชื่อ) ก็อ้างว่าเธอได้ฟ้องร้องร้านตัดผม Hunters Hill Barber Shop กับศาลในข้อหาที่กระทำการแบ่งแยกความแตกต่างทางเพศ

เธอกล่าวว่า “คำร้องของฉันคือ ร้านตัดผมร้านนี้ไม่ยอมใช้อุปกรณ์ของพวกเขาตัดผมให้ลูกสาวของฉัน เพียงเพราะลูกสาวของฉันเป็นเพศหญิง ฉันไม่ได้ต้องการให้เขาออกแบบทรงผมให้ลูกสาว ก็แค่เล็มๆ ออกให้มันเป็นทรงบ๊อบก็เท่านั้นเอง

คำอธิบายของคุณ Rahim นั้นทีแรกบอกว่า ร้านตัดผมของเขามีไว้สำหรับผู้ชายเท่านั้น เขาไม่ได้พูดว่าเขาไม่เคยฝึกมาก่อนด้วยซ้ำ สิ่งที่เขารายงานกับสื่อมันไม่เป็นความจริง”

เรื่องราวที่ดูแล้วจะเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ง่ายๆ กลับกลายมาเป็นเรื่องใหญ่โตได้อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากคำว่า “ซวย” ก็ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรแล้ว

ที่มา: Ladbible และ Dailymail