เรื่องบ๊องๆ ตลกขบเผาะ ที่ผู้คนเคยได้ยินมา ระหว่างที่เดินเที่ยวเล่นในวัยมหาวิทยาลัย…

มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์ร่วมของคนมากมายหลากหลายประเภท ตั้งแต่เด็กเรียน อัจฉริยะ เรื่อยไปยันเด็กกิจกรรม เด็กชอบเที่ยว และขี้เหล้า จะว่าไปแล้วมหาวิทยาลัยนี่มันก็คล้ายๆ กับโลกอีกใบหนึ่งเลยก็ว่าได้ มีเรื่องราวมากมายที่เริ่มขึ้นขึ้นจากที่นั่น และก็มีเรื่องราวมากมายจบลงไปในที่แห่งนั้น

มหาวิทยาลัยนั้นเต็มไปด้วยเรื่องเล่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีๆ ที่เต็มไปด้วยความฝัน หรือว่า เรื่องบ้าๆ บ๊องๆ ตลกขำขัน เรื่องราวเหล่านั้นล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไปได้ยินได้จากโลกใบที่สองแห่งนี้ทั้งนั้น เช่นเดียวกับเรื่องตลกขำขันชวนอมยิ้มต่อไปนี้

 

พวกสาวๆ กำลังคุยกันเรื่องหนุ่มคนหนึ่ง

“นี่นะ… เขาสั่งนักเก็ต 80 ชิ้นเลยยนะ แบบว่ากล่องล่ะ 20 ชิ้น 4 กล่องอ่ะ”

“ดูแค่นั้นก็น่าจะรู้แล้วว่าเขารวยมากกก”

แล้วก็อาจจะอ้วนมากกก ด้วยสินะ

 

เด็กสาวคนหนึ่งอธิบายกับเพื่อนว่าทำยังไงถึงจะได้คะแนนเยอะจากการแต่งกลอน

“กลอนภาษาอังกฤษที่ฉันเอาส่งอาจารย์ไป มาจากการเอาเพลงภาษาฝรั่งเศสไปแปลใน Google ล้วนๆ”

น่าเสียดายที่ภาษาไทยมันต้องมีสัมผัสสระอะไรพวกนี้ ไม่งั้นก็ว่าจะทำเหมือนกัน

 

ในคาบเรียนของอาจารย์คนหนึ่ง

อาจารย์: “โชคดีจริงๆ ที่ผมได้เขียนอะไรต่ออะไรลงบนกระดาน เพราะการดมปากกาเมจิกมันทำให้ผมผ่านวันอันเลวร้ายไปได้ง่ายๆ เลย”

อาจารย์มั่นใจนะว่านั่นเป็นปากกาเมจิก ไม่ใช่กาว

 

เพื่อนสองคนกำลังคุยกันเรื่องสิ่งที่จะทำในอนาคต

เพื่อน A: “เฮ้เพื่อน จบไปนายคิดว่านายจะไปทำอะไรเหรอ…”

เพื่อน B: “ด้วยสาขาที่ฉันเรียนอ่ะนะ… ก็คงไม่พ้นแคชเชียร์ห้างขายของแต่งบ้าน แต่ถ้าเกรดเฉลี่ยสูงหน่อยก็คงไปเป็นคนชงกาแฟล่ะมั้ง”

เฮ้ย!? ฝันสูงหน่อยดิ จบมหาลัยเลยนะ

 

ชายคนหนึ่งบอกปฏิเสธเมื่อเพื่อนๆ ถามว่าเขาเป็นแฟนกับสาวคนหนึ่งรึเปล่า

เพื่อน: “ไม่ใช่ว่าพวกนายคบกันเหรอ”

ชายคนที่ว่า: “เปล่าเสียหน่อย จะบ้าเหรอ พวกเราก็แค่ไปไหนมาไหนด้วยกัน แล้วฉันก็พาเธอไปกินข้าวด้วยบ่อยๆ เอง”

อืมๆ ไม่บอกว่าอยู่ด้วยกันด้วยเลยล่ะ

 

อาจารย์กำลังถามคำถามนักศึกษาก่อนที่จะเริ่มคาบเรียน

อาจารย์: “เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนคนหนึ่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว?”

นักศึกษา: “เมื่อที่เขาไม่จำเป็นต้องแอบดื่มเหล้าแล้วเหรอครับ?”

อืม… ถูกต้องก็ได้มั้ง

 

การเหมารวมนี่มันน่ากลัว

เด็กช่าง: “ตรูทำโทรศัพท์พังอ่ะ”

เพื่อน: “นายเรียนช่าง นายก็ซ่อมมันดิ”

เด็กช่าง: (เรียนช่างก็ใช่ว่าจะซ่อมได้ทุกอย่างนะเฮ้ย) “เฮ้อออ เป็นเด็กช่างนี่ทำให้ตรูอยากตายเลยว่ะ”

เพื่อน: “นายเป็นช่าง นายก็ซ่อมเจตคติตัวเองซะดิ”

ก็บอกว่าเรียนช่างก็ใช่ว่าจะซ่อมได้ทุกอย่างไง แล้วเด็กอิงก์ก็ไม่ได้แปลได้ทุกอย่างเหมือนกัน คนนะไม่ใช่ดิกชันนารีเดินได้

 

อาจารย์คนหนึ่งกำลังนัดนักเรียนที่อยากได้หน่วยกิตเพิ่มไปเรียนคาบพิเศษ

อาจารย์: “ใช่ๆ คนที่จะมาเอาหน่วยกิตเพิ่มอย่าลืมเอาบัตรประชาชนปลอมมาด้วยล่ะ เดี๋ยวจะสั่งเหล้าไม่ได้”

เดี๋ยวนะอาจารย์ นั่นคาบเรียนพิเศษ หรือหาคนไปก๊งเหล้า

 

หนุ่มคนหนึ่งเห็นเพื่อนสาวนั่งกินเหล้าอยู่คนเดียว

หนุ่ม: “วันนี้เจอเรื่องแย่ๆ มาเหรอ…”

สาว: “ฉันดูคะแนนตัวเอง กับเงินในบัญชีพร้อมๆ กัน”

*เปิดเงินในบัญชีดู* …..เศร้าด้วยคนดิ

 

กลุ่มเพื่อนๆ คุยกันเรื่องอนาคตของตัวเอง ในตอนนั้นเองก็มีคนพูดขึ้นมาว่า

“ไม่เข้าใจเลยว่ามีคนหาอนาคตตัวเองเจอในมหาวิทยาลัยได้ยังไง ฉันอยู่มาสามปียังหาตึกอธิการบดีไม่เจอเลยด้วยซ้ำ”

อืม… ทางนี้ก็ใช้เวลาอยู่เกือบๆ สองปี ถึงจะรู้ว่าที่มหาวิทยาลัยมีห้องกายวิภาคศาสตร์

 

ผู้หญิงคนหนึ่งอธิบายความยุ่งของตัวเองว่า

“ฉันพร้อมที่จะสติแตกกลายเป็นบ้าอยู่ตลอดเลยนะ แต่ก็ไม่ว่างเป็นจริงๆ สักที”

อาการแบบนี้ คืนก่อนกำหนดส่งโปรเจกต์จบสินะ

 

อาจารย์คนหนึ่งแอบไปได้ยินนักเรียนคุยกันเรื่องวิชาที่เขาสอน

นักเรียนคุยกัน: “มาเรียนวิชานี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองโง่ยังไงไม่รู้”

อาจารย์: “รอได้กระดาษข้อสอบคืนก่อนเถอะ”

แล้วจะรู้ว่าเธอไม่ได้รู้สึกไปเอง

 

ที่มา overhearduniversitythechive

Comments

Leave a Reply