“อินไม่ได้เมา” สรุปความจริง 8 ข้อ เรื่องอุบัติเหตุ “น้องอิน” จากปาก “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์”

เราหลายๆ คนคงได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของนักแสดงสาว “น้องอิน” ณัฐนิชา เชิดชูบุพพาการี ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา

เรื่องราวอุบัติเหตุครั้งนี้สร้างข้อสงสัยมากมายให้กับคนที่ติดตามข่าว และล่าสุด บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งเป็นคนสนิทของครอบครัวและเจ้าภาพงานสวดอภิธรรมศพในคืนนี้ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในทุกประเด็นที่เราสงสัย

ทางทีมงานแคทดั๊มบ์ขอสรุปเป็นประเด็นให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้…

 

 

1. น้องอินไปทำอะไรที่อยุธยา!?

บิณฑ์บอกว่า น้องขับรถจากพัทยาไปกรุงเทพ และต่อด้วยอยุธยาในช่วงเวลาดึก เพื่อไปหาแฟนชื่อว่าน้องไทม์ ซึ่งเป็นทอม (ก่อนหน้านี้เลิกกับแฟนหนุ่มชื่อเบลไปแล้ว) แม้ฝ่ายน้องไทม์จะพยายามทักท้วงว่าให้มาตอนวันรุ่งขึ้นเพราะดึกมากแล้ว และอยุธยาฝนตกหนัก เจ้าตัวก็ไปเพราะอยากเจอหน้า

 

2. มีปากเสียงกันทางโทรศัพท์

เขาระบุโดยเล่าจากที่ฟังจากน้องไทม์มาว่า น้องอินและไทม์คุยโทรศัพท์กัน ตั้งแต่เรื่องที่จะไปหา จนกระทั่งขับรถไป และมีการถกเถียงกันทางโทรศัพท์จนทะเลาะกันช่วงเวลาตี 2 โดยไทม์บอกว่าถ้าฝนตกหนักให้ตีรถกลับ แต่อินยืนยันจะมา

จนกระทั่งเวลาประมาณตี 2 ครึ่ง เริ่มคุยกันไม่รู้เรื่องและวางสายไป บอกว่าเจอกันค่อยเคลียร์ให้เข้าใจ

 

3. น้องอินโกหกคุณแม่

ช่วงเวลาประมาณตี 1 น้องอินกับคุณแม่คุยโทรศัพท์กัน โดยอินบอกแม่ว่าอยู่คอนโดแถวบางนา ซึ่งความจริงแล้วกำลังขับรถไปหาน้องไทม์ที่อยุธยา (ไทม์ไม่ได้บ้านอยู่อยุธยา แต่ไปเที่ยวช่วงนั้นพอดี)

 

4. คาดการณ์เวลาเกิดอุบัติเหตุ

ที่เกิดเหตุนั้นไม่มีรอยเบรก บิณฑ์คาดว่าเกิดจากการขับรถเร็วเกินไป (อาจจะด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองเล็กน้อยและรีบไปพบหน้าแฟน) นอกจากนี้เขาบอกว่าช่วงเวลาที่กู้ภัยไปพบศพตอนเช้า ศพเริ่มแข็งแล้ว น่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4-5 ชั่วโมง

ประกอบกับตั้งแต่ช่วงตี 3 น้องไทม์โทรหาน้องอินไม่รับ จึงคาดว่าเธองอนแล้วตีรถกลับกรุงเทพไปแล้ว ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องน่าเศร้าดังกล่าว

 

 

5. น้องอินเมา!?

เขาและน้องไทม์ยืนยันตรงกันว่าน้องอินไม่ได้เมา เพียงแต่ทะเลาะกับแฟนและรีบไปหา จึงขับรถเร็วมาก

 

6. น้องอินขับรถเร็ว

บิณฑ์บอกว่าในความคิดเขาน้องอินเป็นคนขับรถเร็ว เขาไม่ทราบว่าน้องขับรถเป็นตั้งแต่เมื่อไร แต่ช่วงที่ผ่านมาน้องออกรถใหม่ เลยชวนเขาไปนั่งด้วย

ตอนนั้นน้องขับเร็ว 130-140 ซึ่งสำหรับผู้ชายแบบเขา เขาคิดว่าเอาอยู่ แต่น้องยังอายุ 20 เขาว่ามันเร็วไป จึงเตือนไปตอนนั้นว่าอันตรายและอย่าขับเร็ว

 

7. น้องเบลและน้องไทม์ พูดบางอย่างไม่ตรงกัน

บิณฑ์คุยกับทั้งคู่ และตามความเข้าใจพบว่ามีบางจุดที่เบลซึ่งไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์คงจะเข้าใจผิด เขาอยากให้สังคมฟังตรงนี้ด้วย

 

8. เหตุผลที่บิณฑ์ออกมาพูดเรื่องนี้

บิณฑ์บอกว่าเขาสนิทกับครอบครัวน้องอิน เห็นน้องมาตั้งแต่เด็กๆ เหมือนกับเป็นญาติคนหนึ่ง ชอบไปวัดด้วยกันบ่อย แถมเมื่อ 5 วันที่ผ่านมายังไปกินข้าวกับครอบครัวน้องอินอยู่เลย

เขาอยากให้สังคมรับรู้ความจริงที่เกิดขึ้น และไม่เคลือบแคลงอะไรอีกต่อไป….

 

 

ขอบคุณทางคุณบิณฑ์ที่ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ทำให้เราได้มีรายงานความคืบหน้าของหลายๆ ประเด็นที่กำลังสงสัยอยู่นะครับ

ถ้ามีอะไรคืบหน้ามากกว่านี้ ทางทีมข่าวแคทดั๊มบ์จะนำมาอัพเดตเพิ่มเติมในโอกาสต่อไปครับ

ที่มา&ภาพ: sanook


by

Tags:

Comments

Leave a Reply