เด็กสาวโพสต์ระบายประสบการณ์ “ถูกข่มขืน” ตั้งแต่ ป.5 จนกระทั่งมีลูก 1 คนที่ต้องเลี้ยง!?

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมาได้มีผู้ใช้งานเว็บไซต์พันทิปได้โพสต์ระบายความในใจเกี่ยวกับการถูกข่มขืนในกระทู้ ‘หนูถูกข่มขืนตอน ป.5 ตอนนี้มีลูก1คน อยากเล่าระบายเรื่องที่เจอมากับตัวเอง‘ โดยเธอถูกข่มคืนมาตั้งแต่ ป.5 คนที่ข่มขืนเธอขู่ว่าจะนำคลิปไปเปิดเผยหากนำเรื่องไปบอกคนอื่น

จนมาถึงในช่วง ป.6 เธอได้รู้สึกคลื่นไส้และอาเจียน ประจำเดือนเริ่มไม่มา จนไปหาหมอก็ตรวจพบว่าเธอนั้นตั้งครรภ์ เธอเครียดมากๆ แต่ก็เลือกที่ไม่ทำแท้งและเลือกที่จะเลี้ยงลูกและใช้ชีวิตต่อไปทั้งในฐานะแม่และเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง

 

 

โดยกระทู้ที่เธอตั้งเพื่อแชร์ประสบการณ์และเพื่อเตือนมีใจความว่า “สวัสดีค่ะพี่ๆ หนูอยู่ม.1 ตอนนี้อายุ13ปี แต่มีลูกละ1คนเพราะถูกข่มขืนตอนป.5 พอคลอดออกมาแม่กับยายช่วยสอนให้หนูเลี้ยงละก็ให้เรียกว่าน้อง กว่าจะผ่านแต่ละวันไปได้มันยากมากๆๆ ความรู้สึกทั้งเสียใจ เหนื่อย เครียด แต่ก็ผูกพัน ไม่รู้แบบบอกไม่ถูก

ก็ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องแบบนี้ต้องมาเกิดกับหนูด้วย แต่แม่กับยายบอกให้คิดว่าน้องคือโชคดีของหนู ตั้งแต่มีน้องหนูก็ไม่ต้อง เจอเรื่องแย่ๆๆอีกก เขาเลือกมาเกิดกับเราละก็ต้องดูแลให้ดีที่สุด

ตอนนี้น้องโตเกือบ 8เดือนละ หนูลองหากูเกิ้ลคำว่าโดนข่มขืนดูก็เห็นมีคนโดนแบบหนูเยอะมากก นั่งอ่านจนร้องไห้เลย หนูเลยรู้ว่ายังมีคนโดนเรื่องแบบนี้เยอะมากๆๆ บางคนเจอมาแย่กว่าาหนูเยอะ แต่ก็ยังดีที่ได้กำลังใจจากพี่ๆในนี้แต่หนู นอกจากคนที่บ้านก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครเลย

หนูกลัว หนูพยายามหนูอยากใช้ชีวิตเหมือนเพื่อนคนอื่น แต่เรื่องนี้มันก็ติดอยู่ในหัวหนูตลอด แบบเป็นฝันร้ายเลยอ่ะ บางทีอยากจะหัวเราะก็ไม่สุด พอมีความสุขเรื่องนี้ก็โผล่เข้ามาตลอด

หนูไม่รู้แบบนี้คือโรคจิตมั้ย แม่พาหนูไปหาหมอบ่อยๆ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะหายไปเมื่อไหร่ไม่รู้ว่าหนูต้องอยู่กับเรื่องนี้อีกนานแค่ไหน

ตอนนี้หนูแบบกลายเป็นคนกลัวผู้ชายไปเลย หนูไม่อยากมีแฟนเหมือนคนอื่น หนูไม่กล้าคุยกล้าเล่นกับเพื่อนผู้ชาย บางทีเค้ามาเล่นมาใกล้ๆตัวหนูก็จะกลัวไม่กล้าทำอะไร

หนูอยากเล่าอยากระบายมากๆแต่ก็ไม่กล้า ตัดสินใจอยู่พักใหญ่ๆ เลยขอมาเล่าระบายในนี้ละกันค่ะ เพื่อจะได้เตือนคนอื่นด้วย

 

 

ตอนนั้นปิดเทอมป.5 แม่เพิ่งพาย้ายบ้านใหม่มาอยู่อีกจังหวัดในหมู่บ้านที่เป็นหลังติดๆกัน ตอนแรกหนูมาอยู่กับแม่สองคน แปปนึงก็มีเพื่อนอายุเท่ากันหลายคน

จนวันหนึ่งเพื่อนแถวบ้านชวนไปปั่นจักรยานเล่นตรงตึกเก่าที่ไม่มีคนอยู่ละก็มีผู้ชายคนโตๆ แถวนั้นก็เรียกให้พวกหนูเข้าไปในตึก เขาบอกมานี่ดิมีอะไรจะให้ดู

หนูก็เลยเข้าไปกับเพื่อน แต่พวกเขาก็จับแขนจับขาหนู ละก็บังคับพาไปข่มขืน หนูกลัว มาก ทั้งดิ้นทั้งถีบแต่พวกนั้นตัวใหญ่โตๆๆทั้งนั้น

หนูทั้งร้องไห้ทั้งกรี้ดๆจนหมดแรงแต่ก็ไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครมาช่วย ทั้งเจ็บทั้งกลัวหนูรู้สึกเหมือนกำลังจะตายเลย ละพวกเค้าขู่ไม่ให้บอกใคร ละก็ถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย

 

หนูมารู้ทีหลังว่าเพื่อนที่ชวนหนูมาปั่นจักรยานนั่นแหละเป็นคนยืนดูให้ ละมันก็ขู่ให้หนูไปอีกหลายครั้งๆๆ ไม่งั้นจะเอาคลิปไปให้คนอื่นดู เอาไปให้แม่ เอาไปให้ทั้งโรงเรียนเลย

หนูกลัวมาก หนูกลายเป็นคนขี้กลัว ไม่กล้าออกไปเล่น ที่ไหนไปโรงเรียนก็ไม่คุยกับเพื่อนผู้ชายเลย

จนมาช่วงป.6 หนูเริ่มรู้สึกไม่โอเค สิวที่หน้าขึ้นเยอะมาก ท้องอืดทุกวัน เลือดเมนหายไปแต่ก็ยังไม่ได้บอกแม่ เพราะมันชอบหายบ่อยๆอยู่แล้ว ละก็มาเริ่มอ๊วกมากๆ ได้กลิ่นอะไรก็เหม็น

แม่เลยพาไปหาหมอ ตรวจฉี่ละหมอก็บอกว่าหนูท้อง ตอนแรกแม่ไม่เชื่อจนต้องตรวจซ้ำกันอีกรอบ ละหมอบอก2เดือน

แม่หนูก็หน้าซีดไปเลย ตัวหนูเองก็ตัวแข็งทำไรไม่ถูก รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีคุณป้าพยาบาลพาไปคุยกับหมออีกห้องนึง หมอถามหนูประมานว่าอยากทำแท้งมั้ย แบบหนูทำได้นะ ถ้าไม่พร้อมจริงๆ

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเหมือนหนูไม่มีสติอ่ะะตอนนั้น แม่กับหมอก็ถามๆ ให้หนูตัดสินใจ

 

 

แต่ตอนนั้นหนูเครียดมาก คิดไม่ออก หนูกลัวเด็กเกิดมาละหนูคงไม่รักเค้าแต่ก็ไม่อยากทำเค้า หนูเครียดจนร้องไห้ แม่เลยโทรหายาย ละยายบอกว่ามันบาปมาก อย่าทำเลย เดี๋ยวยายจะช่วยเลี้ยงเอง

หนูก็เลยตัดสินใจว่าไม่ทำแท้ง หนูเลยเล่าให้แม่ฟังหมด แม่โกรธมาก โกรธจนร้องไห้ ไม่ได้โกรธหนู แต่โกรธคนที่ทำหนู หนูก็ร้อง สงสารแม่ แม่จะไปแจ้งความ

แต่หนูไม่อยาก หนูอาย กลัวแม่อายด้วย ละไอ้พวกนั้นมันก็หายไปเป็นเดือนละด้วย แม่บอกมันอาจจะโดนจับไปละ เพราะเดือนก่อนแม่เห็นมีตำรวจมา

แถวนั้นมีแต่ขี้ยา ตอนนั้นแม่กอดหนูแน่นมากที่สุดหนูจำแม่นเลย แม่ว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว พรุ่งนี้เช้าค่อยเริ่มกันใหม่ แต่แม่ก็ยังร้องไห้ไม่หยุด หนูก็ไม่หยุดร้องไปด้วย คืนนั้นหนูจำได้ว่าทรมานมาก คงฝังใจจนวันที่หนูตายเลย 

 

 

ตั้งแต่รู้ว่าท้องหนูยิ่งเครียดยิ่งกลัวกว่าเดิม จำได้ว่ามีวันนึงครูพละให้สอบซิทอัพแต่หนูไม่อยากทำเพราะกลัว เหลือหนูคนเดียว ครูก็เดินเข้ามาดึงมือให้ลองนั่งลงจะสอบให้ผ่านเดี๋ยวนี้ หนูเลยสติแตกทั้งกรี้ดทั้งร้องไห้ จนแม่ต้องมารับกลับบ้านละก็บอกว่าจะลองพาไปหาจิตแพทย์

หนูเปนโรคจิตไปละค่ะเครียดจนอ้วกออกมาบนเตียงนอนก็มี ที่เครียดเรื่องแรกเลยคือถ้าท้องโตขึ้นจะทำยังไง จะบอกคนอื่นว่าไง

แต่บางทีหนูก็รู้สึกแปลกๆ แบบพอมองลงไปที่ท้องเห็นค่อยๆโตขึ้นเหมือนมีอะไรดิ้นอยู่ มันก็มีความรู้สึกทั้งเศร้าทั้งเครียดทั้งเป็นห่วงทั้งอยากเห็นว่าน้องจะออกมาเป็นยังไง

 

เดือนที่ 5 แม่ก็ให้ใส่เสื้อกันหนาวคุมไว้ตอนไปข้างนอกกับไปเรียน หนูรู้สึกเหมือนมีคนมองตลอดเวลา ป้าแถวบ้านบางคนก็เดินมาถามแม่ตรงๆ มาขอจับท้องหนูเลยก็มี ไม่รู้พวกเขารู้ได้ไงละก็เริ่มพูดกันต่อไปเรื่อยๆ หนูอายมากแต่ก็ต้องอดทน จนมาถึงก่อนปิดเทอมป.6ไม่กี่วัน

มีเลือดไหลออกมาเต็มขาที่โรงเรียน ครูรีบพาขึ้นรถไปหาหมอ ไปเจอคุณหมอบอกว่าต้องรีบผ่าออกเพราะอะไรสักอย่างทั้งที่น้องเพิ่งอยู่ในท้อง 7เดือนเอง หนูยังจำความรู้สึกตอนที่นอนรออยู่บนเตียงในห้องผ่าได้ น่ากลัวจริงๆ หนูจะผ่านคืนนี้ไปได้ยังไง

 

 

พอน้องออกมาละจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อย แม่รีบพาย้ายกลับมาอยู่บ้านยายที่สิงห์บุรี ยายบอกว่าน้องหน้าเหมือนหนูจังเลย ดีละที่ไม่ทำแท้งเพราะไม่รู้จะตามเป็นบาปไปอีกกี่ชาติ หนูคิดตามยายก็จริงๆนะ น้องก็ไม่ได้ผิดอะไร จะไปตัดสินฆ่าเขาได้ไง แต่แม่ก็ยังต้องพาหนูไปหาหมอจิตแพทย์บ่อยๆ

หนูว่ามันเป็นเวลาที่โคตรแย่ที่สุดละอ่ะ สับสนไปหมด อาย กลัวคนจะรู้ กลัวพวกผู้ชายแถวบ้านยาย กลัวมาอยู่นี่จะเจอแบบเดิมอีก กลัวไปหมด ยายก็สงสารหนูมากเหมือนกัน แต่ก็สอนให้รักน้อง สอนให้เลี้ยงน้องด้วยตัวเองตั้งแต่ตอนที่ว่างๆรอเปิดเทอม

หนูก็รู้สึกรักเขานะ เห็นโตขึ้นทีละนิดเหมือนตุ๊กตา หนูรู้ละว่าทำไมแม่กับยายยังรักหนูอยู่ถึงจะทำให้เค้าอาย ก็คงเหมือนที่หนูรักน้องละมั้ง

 

 

ตอนนี้หนูมาเรียนม.1ละ ช่วยยายกับแม่เลี้ยงน้องมาก็เกือบ 8เดือนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยอ่าค่ะ ตอนตื่นมาก่อนไปโรงเรียนต้องพาน้องอาบน้ำ วันหยุดต้องซักผ้าให้ ป้อนข้าว พาเดินเล่น ทุกอย่างในชีวิตเปลี่ยนไปหมด ละเรื่องที่ยากที่สุดยายบอกว่ายังไงก็ต้องให้น้องกินนมจากอกหนู มันเจ็บมากกก หนูไม่คิดว่าจะเจ็บแบบนี้

ยิ่งตอนแรก หนูเหนื่อยมากๆๆ นอนก็ไม่ค่อยได้นอน นอนได้แปปเดียวน้องก็ตื่นมาร้องกินนมอีกละ แต่หนูแทบไม่มีน้ำนมออกมาเลย ตอนแรกน้องต้องกินนมชง ละแม่ต้องมานั่งนวดหน้าอกให้ทุกวัน หนูพยายามอดทนแต่หลายครั้งหนูเจ็บจนร้องไห้ น้องก็งับกัดแต่ตรงที่เดิมๆย้ำๆๆๆจนจะเป็นแผล

หนูเจ็บจนไม่อยากให้น้องกินนมต่อจริงๆ ยิ่งเจ็บหนูยิ่งเครียดละก็ร้องไห้บ่อยมาก ทำไมต้องเป็นหนู อยากหายไป จากตรงนี้ บางครั้งมันเหนื่อยจนไม่อยากพยายามอะไรละ แต่แม่กับยายก็พยายามหาวิธีช่วยหนู หนูก็เลยต้องพยายามไปด้วย ก็คิดว่าเพื่อน้อง น้องจะได้รักหนู เหมือนที่หนูรักแม่กับยาย

 

 

ละอาหารแปลกๆก็ถูกบังคับให้กิน แกงที่มีแต่ผักเขียวมีฟักทอง ผัดตับหนูไม่ชอบก็ต้องกิน ไก่ตุ๋น ซุปไก่ ผัดขิงไม่ชอบเลย แต่ก็ทนๆกินไป กินนุ่นกินนี่อะไรก็ไม่รู้ที่ยายกับแม่ทำให้ ทรมานมาก โดนบังคับให้กินจนอ้วกก็มี แต่ทำไปสักพักก็ดีขึ้นนะ นมไหลละ น้องได้กินนมหนูละ ถึงจะเพิ่งออกมาแค่นิดเดียวก็ดี ใจกันทั้งบ้าน

หนูเลยต้องทนกินแบบนั้นต่อไปทุกวัน แม่เห็นหนูทรมานทุกวัน เลยช่วยหาหลายๆวิธี แม่ให้หนูเปิดหาในอินเตอร์เนตดู เจอหลายเวบบอกมีสมุนไพรแบบแคบซูลที่ช่วยเพิ่มน้ำนมหลายแบบมาก แม่เลยลองสั่งมาให้หนูกินบ้าง เป็นสมุนไพรเหมือนที่แม่กับยายเคยกินแต่เป็นเม็ดไม่ต้องทนกินแบบยาน้ำ แต่หนูแค่รู้ว่าเป็นสมุนไพรก็อยากจะอ๊วกละ แค่ทุกวันที่กินอยู่นี่ก็เยอะละ

แต่แม่บอกถ้าไม่กินแบบนี้จะไปหาสมุนไพรมาต้มให้กิน หนูเลยต้องยอม เพราะเคยกินละครั้งนึงตอนเด็กแทบตาย ขมมากๆ แม่เลยเอาแบบที่คนอื่นเค้ากินกันเยอะละก็นมพุ่งดีเนี่ยแหละ น่าจะเหมาะกับหนู ทีนี้นอกจากผัดขิง หัวปลี ละก็แกงผัก หนูก็ต้องกินยาสมุนไพรที่แม่ซื้อมาด้วย ถึงยามันจะไม่เหม็นไม่ขมเหมือนยาต้ม

แต่สำหรับหนูมันก็คือยาอยู่ดี บางทีหนูก็คิดว่าทำไมต้องมากินอะไรเยอะแยะแบบนี้ ทำไมแค่ให้นมลูกหนูมันยากจัง ไม่เห็นเหมือนในทีวีเลย แต่ตอนนี้ก็ไม่ทรมานเหมือนตอนแรกนะ หนูคงชินละมั้ง แต่พอกินยาสมุนไพรที่แม่ซื้อมาประมานอาทิตย์นึง ก็ดีขึ้นนะมีน้ำนมออกมาให้น้องกินเยอะขึ้นมากๆ เยอะจนน้องไม่ต้องกินนมชงเลย

ก็รู้สึกดีขึ้นมาเยอะอ่าค่ะ พอให้น้องกินนมหนูเยอะๆ ละก็รู้สึกว่าเป็นแม่เต็มตัวเลยอ่ะ แต่พอน้ำนมไหลเยอะขึ้นหนูก็อึดอัดอีกนะ แบบมันเจ็บนมอ่ะ บางครั้งเยอะจนต้องใช้เครื่องดูดเก็บไว้ เพราะน้องกินไม่ทัน แต่แม่บอกว่าก็ดีกว่าไม่มีนมให้น้องอะแหละ นมเยอะก็แช่ตู้เย็นได้ ดีกว่าน้องอด

 

 

ตอนแรกหนูเครียดมากเบื่อมากวันหยุดเพื่อนคนอื่นได้เล่นเกมเล่นของเล่น ได้ไปเที่ยวกัน แต่หนูต้องอยู่กับของพวกนี้ แต่ตอนนี้หนูชินละ หนูอยากทำให้ดีที่สุดเพื่ิอน้องถึงมันจะเจ็บจะเหนื่อยก็เหอะ แต่ของหนูยังดีมีทั้งแม่ทั้งยายช่วย หนูว่าแม่เลี้ยงหนูมาอาจจะเหนื่อยกว่านี้อีกก็ได้มั้ง

ตอนนี้หนูเหมือนจะมีความสุขดีนะ อยู่กับน้องกับแม่กับยาย แต่บางครั้งหนูก็ยังแอบเข้าไปร้องไห้ในห้องน้ำอยู่ มันเหมือนผวาอ่ะค่ะความรู้สึกเก่าๆ ที่มันดันออกมา หนูไม่รู้จะระบายออกมายังไงจริงๆๆ กลัวโกรธเสียใจกับทุกอย่างก็อธิบายไม่ได้ ยังต้องกินยาที่คุณหมอจิตแพทย์ให้มา

บางทีเห็นเพื่อนๆเขาไปเรียนพิเศษ ไปเล่นบ้านคนนู้นคนนี้แต่หนูไปไม่ได้ บางทีอยู่ดีๆก็นั่งร้องไห้ที่โรงเรียน เพื่อนก็ถามนะ แต่หนูไม่กล้าเล่าให้ใครฟังหลอกว่าหนูเป็นไร อยากเล่ามากๆ แต่ก็กลัว ทั้งกลัวทั้งอาย แต่พอกลับมาบ้านได้เล่นกับน้องก็ยิ้มออก แต่บางครั้งน้องยิ้มหัวเราะแต่หนูนั่งมองหน้าน้องละก็ร้องไห้ ไม่รู้เหมือนกันว่าร้องทำไมมันตีกันในหัวไปหมด บางครั้งยังกลัวตัวเอง แบบนี้คือโรคจิตแน่ๆ ละใช่มะคะ หนูควรทำไงดี หนูจะหายมั้ย

 

 

และสุดท้ายเธอก็ได้ฝากข้อความที่แสดงให้แนะนำให้คนอ่านระวังตัวเองกันว่า “แต่ตอนนี้หนูก็รู้สึกดีนะ หนูนั่งคิดนานมากว่าจะเล่าบ้างดีมั้ย มันก็อึดอัดอ่ะ เพราะนอกจากแม่กับยายหนูก็ไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลย พอได้เล่าแบบนี้ก็เลยเหมือนโล่งๆอกขึ้นมาหน่อย ถึงมันจะไม่หายไปจากหัวหนูก็เหอะ

ละก็ไม่รู้ว่าจะมีใครอ่านมั้ย แต่ก็ดีที่ได้ระบายมันออกมา ก็สบายใจดี เดี๋ยวหนูต้องไปละ หนูเล่ายาวมากละก็ไม่ค่อยรู้เรื่องด้วยแน่เลยหนูพยายามพิมพ์ให้ถูกทุกคำนะคะถ้าผิดอยู่ก็ขอโทษนะคะ หนูไปแล้วนะคะ ละก็อย่าลืมระวังตัวเอง ขนาดเพื่อนยังทำร้ายหนูเลย หนูก็ไม่รู้จะไว้ใจใครได้นอกจากแม่กับยาย  พวกผู้ชายใจร้ายมีอยู่เต็มไปหมด ขออย่าให้ใครต้องมาเจอเรื่องแบบหนูอีกเลย ใครที่เจอเรื่องแบบหนูก็สู้ๆนะ หนูก็จะสู้ต่อไปเหมือนกัน”

 

 

นี่ก็เป็นอีกเรื่องของด้านมืดที่ซ่อนอยู่ในสังคมไทยมาอย่างช้านาน ต่อจากนี้ไป #เหมียวฝึกหัดหมายเลข20 ก็ขอให้น้องและครอบครัวของน้องมีความสุขนะครับ

 

ที่มา สมาชิกหมายเลข 4201725

Comments

Leave a Reply