นักวิทย์เพิ่งค้นพบรอยสักที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ทั้งที่มันอยู่ในพิพิธภัณฑ์มาแล้วกว่า 100 ปี!?

บางครั้งการค้นพบก็อาจจะเกิดขึ้นได้จากสิ่งของที่เรามองข้ามไป อย่างเช่นมัมมี่ชาวอียิปต์ที่ถูกค้นพบเมื่อนานมาแล้วและถูกนำมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์มาแล้วกว่า 100 ปี แต่พวกเขากลับเพิ่งรู้ว่าศพดังกล่าวมีรอยสักที่เก่าแก่ที่สุดติดมาด้วย

ถึงจะบอกว่าเพิ่งค้นพบ แต่ใช่ว่านักวิทย์จะไม่รู้มาก่อนว่าศพดังกล่าวนั้นมีร่องรอยที่เป็นเหมือนรอยสักอยู่ เพราะก่อนหน้านี้รอยสีดำๆ ดังกล่าวนั้นยังไม่ได้รับการยืนยันว่ามันคือรอยสักจริงๆ จนล่าสุดก็ได้ยืนยันแล้วว่ามันคือรอยสักรูปควายป่าและแพะแอฟริกัน

ทีมวิจัยชี้ว่ารอยสักดังกล่าวนั้นไม่ใช่เพื่อความสวยงาม แต่รอยสักรูปสัตว์ทั้งสองใช้สื่อถึงพลังของความเป็นชาย ทั้งด้านกำลังลังกาย สุขภาพทางเพศและความคิดสร้างสรรค์

 

 

ยังไม่หมดเท่านั้น นักวิจัยยังได้อธิบายเพิ่มเติมถึงความหมายที่ว่าทำไมต้องเป็นวัวและแพะอีกว่า กระทิงที่เห็นเป็นกระทิงที่เรียกว่า ‘ออรอซ‘ เป็นกระทิงยักษ์ในยุคเก่า ที่ปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งกระทิงดังกล่าวนั้นมีความหมายถึงความแข็งแกร่ง แถมยังเป็นสัตว์ที่คนในยุคนั้นเกรงกลัวและเคารพอีกด้วย

ส่วนแพะนั้นหมายถึงพลังทางเพศ ซึ่งทีมวิจัยบอกว่าในยุคก่อน แพะถือเป็นตัวแทนเทพในเรื่องดังกล่าวและยังมีการยกย่องมากมายในหลากหลายตำนานทั่วโลก

นอกจากนี้รอยสักดังกล่าวยังระบุว่าเป็นรอบสักที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เพราะตัวศพนั้นมีอายุมากกว่า 5,200 ปี นับตั้งแต่ยุคสำริด แถมยังมีรูปร่างที่ชัดเจนต่างจากรอยสักของมนุษย์ยุคน้ำแข็งที่เคยมีบันทึกก่อนหน้าว่าเป็นมัมมี่ที่มีรอยสักเก่าแก่ที่สุด เพราะรอยสักของมัมมี่ตัวดังกล่าวนั้นเป็นเพียงแค่ลายจุดตามร่างกาย ต่างจากมัมมี่ตัวนี้ที่มีรูปร่างชัดเจนนั่นเอง

 

 

ปัจจุบันศพดังกล่าวได้จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์บริติชที่กรุงลอนดอน ถ้าใครสนใจหรือผ่านไปก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมเยือนรอยสักที่เก่าแก่ที่สุดกันดูได้

 

ที่มา independent

Comments

Leave a Reply