ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมเผย การดื่มชาผลไม้ และวิธีการดื่มชาที่ไม่ดี อาจส่งผลเสียต่อฟัน

เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะชอบดื่มชากันพอสมควร แต่อาจจะมีบ้างที่รู้สึกว่าชาที่ดื่มนั้นมันช่างธรรมดาเหลือเกิน ดังนั้นการที่จะเปลี่ยนรสชาติชาที่เราดื่มไปเป็นชาผลไม้บ้างก็น่าสนใจดีเหมือนกันใช่ไหมล่ะ จริงอยู่ว่าการที่นานๆ ดื่มชาผลไม้ทีมันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าดื่มชาพวกนั้นบ่อยๆ เข้า ชาเหล่านั้นอาจจะทำให้เกิดผลเสียกับฟันได้เลยทีเดียว

 

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมของ King’s College London ออกมาเตือนว่า การดื่มชาผลไม้นั้นมีโอกาสทำให้ฟันเสียมากกว่าปกติถึง 11 เท่า โดยการแจ้งเตือนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขาได้ทำการทดลองวัดระดับกรดในอาหารและเครื่องดื่ม และพบว่าการเลือกชา และวิธีดื่มชาของคนบางกลุ่มนั้นสามารถนำไปสู่การกัดเซาะฟันได้

จากการตรวจสอบนั้น พบว่าว่าชาผลไม้นั้นเต็มไปด้วยกรดอันตรายซึ่งมี ชาขิง ชามะนาว ชาเบอร์รี่ และชากลิ่นกุหลาบนั้น มีระดับของกรดที่สูงที่สุด โดยเฉพาะการดืมชาเปล่าๆ ที่ไม่มีการทานอาหารควบคู่ไปด้วยนั้น อาจทำการเกิดการกัดกร่อนของเนื้อฟันได้มากเป็นสองเท่าของการดื่มชาในระหว่างการทานอาหารเลยทีเดียว

 

 

นักวิจัยยังบอกอีกว่าการดื่มชาแบบที่อันตรายที่สุดนั้นคือการดื่มชาแบบที่มีการรับรสชาติอย่างละเมียดละมัยเนื่องจากมีการค่อยๆ จิบชา กลั้วชาในปาก หรืออมน้ำชาไว้ จนทำให้กรดมีการสัมผัสกับฟันเป็นเวลานาน ก่อนที่จะกลืนลงไป

Dr. Saoirse O’Toole กล่าวว่า “เป็นที่รู้กันดีว่าอาหารที่เป็นกรดนั้น มีความเกี่ยวเนื่องกับการสึกหรอของฟันจากการกัดกร่อน อย่างไรก็ตามการศึกษาของเราได้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของ ‘วิธีการ’ บริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นกรด

การลดปริมาณกรดในอาหารเป็นกุญแจสำคัญในการชะลอการกัดเซาะฟัน แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินทั้งหมดเลยอาจเป็นเรื่องยาก แต่การแทรกแซงทางพฤติกรรมที่เป็นบางอย่าง อาจประสบความสำเร็จก็ได้”

 

 

ยังถือว่าโชคดีที่ชาธรรมดาๆ ไม่ได้มีฤทธิ์กัดกร่อนฟันขนาดนั้น แต่สำหรับคนที่ชอบเครื่องดื่มที่ออกรสเปรี้ยวนิดๆ อย่างชามะนาวแล้ว นีี่อาจจะถือเป็นข่าวร้ายพอสมควรเลยก็เป็นได้

 

ที่มา thesun

Comments

Leave a Reply